
ในระหว่างนั่งทำงานเพลินๆ ผมได้เปิดช่องดีบีซัวเถาฟัง เพราะอยากรู้เกี่ยวกับมุมมองของจีนและความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแดนมังกร และในอีพี 563 ล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ เจ๊กกุ่ย แป๊ะตง 2 ผู้รอบรู้ ที่มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับประเทศจีน ก็มานั่งคุยกันในประเด็นคนจีนรุ่นใหม่ตกงาน เศรษฐีหอบเงินหนีไปต่างประเทศ
ซึ่งเรื่องนี้กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ในช่วงที่จีนเผชิญกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งคนจีนที่เริ่มมีเงินและมีโอกาสบางส่วน ต่างก็พยายามจะโอนเงินออกมานอกประเทศ เพื่อที่จะโยกย้ายตัวเองออกมาจากแผ่นดินใหญ่
ประเด็นที่น่าสนใจ จากข้อมูลของเจ๊กกุ่ยระบุว่า การย้ายในครั้งนี้เนื่องจากทางรัฐบาลจีนเริ่มมีความเข้มงวดในการปราบปรามคอร์รัปชัน การควบคุมธุรกิจและธุรกรรมต่างๆ มากขึ้น มีการเพิ่มกฎระเบียบใหม่ๆ มากมาย รวมถึงปราบปรามพวกทำธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งเดี๋ยวนี้ขนาดจะโอนเงินไม่กี่พันหยวนก็โอนออกจากประเทศไม่ได้ การเบิกเงินเกิน 20,000 หยวนยังวุ่นวาย
ด้วยกฎระเบียบพวกนี้ ได้สร้างความอึดอัดสำหรับคนจีนอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ กลุ่มคนที่อึดอัดไม่ใช่กลุ่มคนที่ทำมาหากินอย่างสุจริต แต่ออกจะเป็นพวกกลุ่มสีเทาๆ ที่รู้สึกทำมาหากินยากขึ้น ไม่สะดวก จึงต้องการที่จะออกมาหาประโยชน์อยู่ในต่างประเทศ และส่วนใหญ่รูปแบบที่เข้ามาก็คือ การซื้ออสังหาริมทรัพย์และการทำธุรกิจ และประเทศที่ชาวจีนกลุ่มนี้ให้ความสนใจก็มีประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้นด้วย
นั่งฟัง 2 ผู้รู้เมืองจีนคุยกัน ผมก็รู้สึกหวั่นๆ
เพราะก็ค่อนข้างชัดเจน จะมีคนจีนบางส่วนที่จะขยับออกมาทำมาหากินในประเทศไทยอย่างไม่ต้องสงสัย และการเข้ามาในครั้งนี้เชื่อว่ามีไม่น้อยที่เข้ามา อย่างไม่ถูกต้อง และผิดกฎหมาย
ดังที่เห็นจากกรณีของกลุ่มธุรกิจกาสิโน พนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มมาเฟียต่างๆ ก็หันมาใช้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการเป็นฐานสร้างและจัดการธุรกิจ
ก็อย่างที่ทราบ เนื่องจากคนจีนรู้กันดีว่าในกลุ่มประเทศอย่างพวกเรา ระบบกฎหมายค่อนข้างอ่อนแอ และผู้บังคับใช้กฎหมายก็ไม่มีความเที่ยงตรง ยอมตกเป็นทาสของเงิน อย่างที่เห็นกรณีของการกวาดล้าง กลุ่มทุนจีนสีเทาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าชาวจีนเหล่านั้นเข้ามาทำธุรกิจ เข้ามาซื้ออสังหาฯ รวมถึงสวมชื่อเป็นคนไทยอย่างง่ายดาย เพราะมีเงินในการติดสินบนเจ้าหน้าที่
ซึ่งสิ่งเหล่านี้รัฐบาลไทยต้องให้ความสำคัญ เพราะเชื่อว่าที่เคยปราบปรามไปเป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มทุนเทาๆ อีกมากที่ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเข้ามาทำธุรกิจ หาโอกาส หาประโยชน์ ชนิดที่ ไทยที่เป็นเจ้าของพื้นที่ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ ซักแดงเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษี หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ และอาจจะรวมถึงการเป็นทุนใหญ่ที่กวาดตลาดและทำลายธุรกิจของคนไทยด้วยกันเอง
นี่จึงเปรียบเสมือนเนื้อร้ายที่ต้องจัดการ และรัฐบาลต้องจริงจังด้วย เพราะเนื้อร้ายนี้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย
อย่างตอนนี้ ธุรกิจที่มาแรงอย่างธุรกิจหม้อไฟหม่าล่า สุกี้สายพาน ซึ่งกำลังฮิตมากในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย ความน่ากลัวตอนนี้คือร้านประเภทดังกล่าวผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วเป็นดอกเห็ด และยึดทำเลต่างๆ ในหลายพื้นที่ไป เพียงแว่บเดียวเราจะเห็นร้านประเภทนี้เกิดขึ้นมากมายเต็มทุกหัวถนน
แต่ที่ไม่ชัดเจนก็คือ ร้านค้าที่มาเปิดเหล่านี้เป็นทุนของนักลงทุนไทยหรือทุนของนักลงทุนจีน ซึ่งถ้าเป็นฝ่ายหลังภาครัฐจะต้องเข้าไปดูแล ควบคุม และจัดการให้ชัด ไม่ใช่แค่เช็กเรื่องการเปิดถูกต้องหรือไม่ มีการใช้นอมินีในการเปิดร้านหรือไม่ และมีการจดทะเบียน ทำบัญชีถูกต้องตามกฎหมายไทยหรือไม่
และที่สำคัญที่สุดคือ คุณภาพของอาหาร ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าไปดู ตรวจสอบ เพราะสังเกตได้ว่าอาหารที่นำมาให้บริการนั้นน่าจะเป็นวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากประเทศจีน และไม่รู้ว่ามีความสะอาดและมีการปนเปื้อนหรือไม่ อันนี้รัฐบาลจะต้องทำงานเชิงรุก ฝากกระทรวงสาธารณสุขและตำรวจเข้าไปช่วยกันตรวจด้วย
อย่าให้ถึงกับเอาสุขภาพของคนไทยไปเสียให้กับธุรกิจที่ฉาบฉวยเหล่านี้้เลย
เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานเชิงรุกกันหน่อย.
ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผนึกพลังพัฒนากำลังคน
ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”
ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)
แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส
‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม
ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม
ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด

