หลังจากตรีเทพอันได้แก่พระราหูจร(8)และพระเสาร์จร(7)และพฤหัสบดีจร(5)ร่วมมีผลต่อราศีเมษมาตั้งแต่ 19 เมษายน 2566 ช่วยกันสร้างความปั่นป่วน-ผันผวน-ผิดฝั่งผิดฝา-ว้าวุ่นทั้งด้านดี-ร้าย ไปตามเรื่องราวชีวิตของคนทุกลัคนาราศีมาตั้งแต่ 19 เมษายน 2566 เป็นต้นมานั้น
ครั้นตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปพระราหูจร(8)เจ้าของความมืด-มัวเมา-อวิชชาตามที่คนเรียนโหรท่องกันติดปากคือ ทายมัวเมาให้ทายราหูจะย้ายจากราศีเมษเดินตามเข็มนาฬิกาไปเดินในราศีมีน อันย่อมจะมีผลทั้งบวก-ลบต่อคนทุกลัคนาราศี
ผู้เขียนจึงคาดผลกว้างๆของพระราหูจร(8)เดินในราศีมีน ต่อทุกท่านระหว่าง 18 ตุลาคม 2566-5 พฤษภาคม 2568 เป็นเวลา18เดือนต่อจากตอนที่แล้วดังนี้
7.ลัคนาสถิตสิงห์ ในบรรดาเรื่องดี-ร้ายที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น อาการของพระราหูจร(8)เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมาซึ่งเป็นตัวแทนคู่ครอง หรือหุ้นส่วน-สัญญาหรือคนที่เป็นปฏิปักษ์ศัตรูในการวิวาทต่อสู้ หรือการต่อสู้คดี หรือศัตรูที่เป็นเปิดเผย หรือคู่แข่งขัน (ตัวแทนภพปัตนิ)ของพวกท่านเข้าเดินในราศีมีน(ภพมรณะ) ตามตำราบอกผลหลักว่าเดินเหินให้ระวังแข้งขาตามโฉลก …เสียแข้งขา ยกยาตราให้เกรงกลัว…
แต่จากการประมวลผลเหตุการณ์สำคัญที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับพวกท่านในรอบสิบแปดเดือนจากนี้คือ
7.1 ปรากฎการณ์บาดเจ็บที่ขาของพวกท่านเองหรือคู่ครอง-หุ้นส่วนชีวิต ที่ล้วนกระทบการใช้ชีวิตร่วมกัน เช่นต้องเปลี่ยนข้อ-เข่า หรือตกบันไดกระดูกนิ้วหัก หรือออกแนวร้ายมากหกล้มในบ้านเลือดคั่งต้องผ่าตัดสมอง หรือเริ่มเดินขาลาก หรือคู่ครองเป็นมะเร็งที่ขาผ่าตัดหลายรอบทั้งเครียดทั้งทุกข์หรือล้มกระดูกแตกติดเตียงนานหุ้นส่วนทั้งหลายในชีวิตต้องช่วยกันสู้หรือหกล้มมือค้ำเอ็นฉีก เป็นต้น
7.2อาการราหูค้นทรัพย์จากคู่ครอง-หรือจากหุ้นส่วนหรือผู้มีส่วนได้เสียในชีวิตหรือคู่แข่งขันที่เปิดเผยหรือจากคดีความ(พระราหูจรที่มีน-ภพที่สองหรือกะฎุมภะของคู่ครองหรือหุ้นส่วนชีวิต)เช่น
คู่ครองใช้เงินลงทุนมากห้ามไม่ฟังหรือคู่ครองกระหน่ำซื้อของไม่ลืมหูลืมตา หรือแฟนชวนลุงทุนเหรียญเสียเงินมากหรือถูกหลอกลงทุนเองเสียเงินเป็นล้าน หรือคู่ครองป่วยรักษาใช้เงินมากหรือคู่ครองลุกขึ้นมาขอเก็บเงินคนเดียวหรือพ่อหรือแม่ปู่ย่าตายายป่วยต้องใช้เงินมากหรือสัตว์เลี้ยงที่รักเหมือนลูกป่วยเสียเงินรักษามากกว่าเจ้าชะตาป่วยเองเป็นต้น
7.3เคยเห็นมาที่ออกแนวดี (กรณีพระราหูกำลังเป็นศรีจร-)เช่นชนะคดี(คู่แข่งตาย-แพ้)ได้เงิน หรือคู่แข่งในชีวิตป่วยหนักหรือจากไปหรือ เป็นต้น
อีกอาการที่สามารถเกิดได้คือเป็นช่วงเวลาที่ควรจะหาคู่ครอง หรือหุ้นส่วนชีวิตแดนไกล เช่นร่วมทุนกับต่างประเทศ หรือได้แฟนต่างชาติ
7.4หลังจากเกิดอาการปั่นป่วน-ผันผวน-ผิดฝั่งผิดฝา-ว้าวุ่นทั้งด้านดี-ร้ายในเรื่องโชค หรือการเรียนต่อระดับสูง หรือการเดินทางไกล หรือทางชีวิตหรือเรื่องในบ้านหรือความเชื่อ หรือศาสนา หรือการฟ้องร้องต่อสู่คดีของพวกท่านที่เป็นมาตั้งแต่ 19 เมษายน 2566 นั้น
ตั้งแต่ 18 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปอาการเหล่านี้จะจางไป เหลือแต่การเปลี่ยนแปลงในระดับแผ่นดินไหวในเรื่องโชค หรือการเรียนต่อระดับสูง หรือการเดินทางไกล หรือทางชีวิตหรือเรื่องในบ้านหรือความเชื่อ หรือศาสนาหรือการฟ้องร้องต่อสู่คดีไปจนถึงประมาณ30เมษายน 2567 เช่นคดีพลิกเหลือเชื่อ(ออกทั้งแนวดี-ร้าย) หรือเคยพลาดมาก่อนกลับโชคได้เรียนต่อและได้ทำงานไปด้วย เป็นต้น
8.ลัคนาสถิตกันย์ ในบรรดาเรื่องดี-ร้ายที่จะเกิดกับชีวิตได้ตลอดเวลานั้น พระราหูจร(8)ย้ายราศีครั้งนี้ จะออกแนวร้ายสำหรับพวกท่านมากกว่าดี เพราะเล็งลัคนาซึ่งเป็นจุดตั้งรับสำคัญของชีวิตพวกท่าน ถือเป็นดวงชะตาแตก หรือพินทุบาทว์ อีกแบบหนึ่งที่จะทำให้เกิดเรื่องทุกข์ๆยากๆกับเรื่องคู่ครอง หรือหุ้นส่วนชีวิต คดีความ โดยตำราบอกว่าจะเดือดร้อนจากการลุ่มหลงหรือมัวเมาไปกล่าวร้ายคนอื่น แต่ภัยกลับถึงพวกท่านตามโฉลก…จะมัวเมา ว่าความเขาภัยถึงตัว… แต่จากที่เก็บข้อมูลเหตุแนวร้ายที่รอเกิดมักจะเป็นแบบนี้
8.1ออกแนวร้ายเกี่ยวกับคู่ครองหรือผู้มีส่วนได้เสียในชีวิต เช่นเตือนล่วงหน้าก็ยังเกิดแบบไม่คาดฝันคู่ครองไปลุ่มหลงมัวเอานอกใจเลิกกันจนบ้านแตกสาแหรกขาด หรือแยกกันอยู่กับคู่ครอง หรือเริ่มคุยกันเรื่องหย่าร้าง หรือมีคู่โดยประมาท หรือแต่งงานแล้วกลับมาเรื่องขัดแย้งในชีวิตสมรส หรือคู่ครองป่วย หรือลูกๆใช้อารมณ์ หรือทะเลาะกับญาติไม่เผาผีกัน หรือหงุดหงิดนอนไม่หลับเดือดร้อนทั้งตัวเองและคู่ครองฯลฯ
8.2เกิดปัญหาจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนชีวิต เช่นเป็นนักการเมืองเปลี่ยนพรรค หรือเปลี่ยนบริษัท(หุ้นส่วนชีวิตด้วยเพราะทำงานด้วยกัน)หรือลดกิจการร่วมทุน หรือถูกบริษัทบีบให้ออกจากงานเป็นต้น
8.3เกิดคดีความ-ขัดแย้งยุ่งยากบริวารทั้งหลายในชีวิต เช่นบางคนไม่อยากทำก็ต้องฟ้องบริษัทที่บีบให้ออกจากงาน หรือถูกฟ้องร้องเรื่องบัตรเครดิต-หนี้สิน หรือฟ้องคนชั่วที่มาหลอกจนทำให้ไม่มีสติคล้ายๆฝันให้กู้เงินไปแล้วเบี้ยว หรือลูกน้องเป็นปัญหาเช่นแข็งข้อ-ป่วยจนช่วยงานไม่ได้เป็นต้น
ส่วนวิธีการรับมือช่วงดวงแตกเพราะพระราหูแบบนี้คือต้องไม่ใช้อารมณ์ในทุกเรื่อง เพื่อไม่ให้พ่ายแพ้ต่อความลุ่มหลงมัวเมา คิดให้ดีก่อนตัดสินใจเรื่องสำคัญในชีวิตระหว่างนี้แบบมีสติเพราะราศีมีนที่พระราหูเข้าไปเดินอยู่สิบแปดเดือนนี้เป็นบ้านเดิมของพฤหัสบดีตัวแทนพุทธจริต-ความมีเหตุผลนั่นเอง
8.4 ส่วนความปั่นป่วน-ผันผวน-ผิดฝั่งผิดฝา-ว้าวุ่นทั้งด้านดี-ร้ายในเรื่องสุขภาพอนามัย-การป่วยหนักหรือ การจากเป็น-จากตายหรือภาษีหรือมรดกที่เป็นมาตั้งแต่19เมษายน 2566นั้นอาการดังกล่าวจะลดลงเหลือเพียงการเปลี่ยนแปลงราวแผ่นดินไหวในเรื่องสุขภาพอนามัย-การป่วยหนักหรือ การจากเป็น-จากตายหรือภาษีหรือมรดกที่จะเป็นไปถึงประมาณ 30 เมษายน 2567
พึงสังวรณ์ไว้ว่าตั้งแต่ 18 ตุลาคม 2566-30 เมษายน 2567 พวกท่านจะต้องระวังตัวแจทั้งเรื่องสุขภาพอนามัยเช่นบางคนเราคิดว่าแสร้งป่วยเพื่อไม่ต้องติดคุกอาจจะป่วยจริง อีกทั้งเป็นระยะที่ระวังได้ความผิดจนแทบจะถอดใจ ด้วยอยู่ในระหว่างดวงตก เหมือนหัวหน้าเทวดาประจำตัวป่วยหนัก ไม่สามารถคุ้มครองลัคนาพวกท่านได้
พูดง่ายๆพาตัวให้รอดไปถึง 30 เมษายน 2567แล้วส่วนใหญ่พวกท่านชะตาจะฟื้น
(ยังมีต่อตอนที่5)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หมดปัญญา...เทวดาต้องรอด
เวลานี้ มีคนบางคนทำผิดกฎหมาย ไม่ให้ค่ารัฐธรรมนูญ บดขยี้กระบวนการยุติธรรมจนป่นปี้ แล้วปรากฏว่าเขาไม่มีความผิดใดๆ ไม่มีหน่วยงานใด ไม่มีกฎหมายมาตราใดจะเอาโทษเขาได้
ว่าด้วยความสำคัญของ 'จังหวะ' และ 'โอกาส'
อาทิตย์นี้...ก็ 22 ธันวา.เข้าไปแล้ว อีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงช่วงจังหวะ คริสต์มาส ที่คงมีโอกาสได้ยิน ได้ฟัง บทเพลงอันสุดจะซาบซึ้ง ตรึงใจ ไม่ว่าประเภท จงกระเบน-จงกระเบน (Jingle Bells)
ตั้ง'นายพล'ไปต่อ
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 41 นาย ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
ลัคนามังกรกับเค้าโครงชีวิต ปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ลูกหลาน-ความรัก-ความหวัง ตลอดปียังอดเอาทุกข์นำหน้าชีวิตไม่ได้- ตั้งแต่พฤษภาคมเป็นต้นไประวังป
นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง
'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!
คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน