'แลนด์บริดจ์' สุริยะเบี้ยว?

ถ้าปรารถนาได้....ผมขอปรารถนา

ชาติหน้า ขอเกิดเป็น "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ซักร้อยชาติ!

คนอาไร้....ช่างน่าอิจฉา...ชิบ

เล่นการเมืองมา ไม่ว่าสมัยไหน เป็นรัฐมนตรีมันได้ทุกสมัย ตูดผูกติดเก้าอี้รัฐมนตรีคมนาคมซะด้วยนะ

ตอนเป็นรัฐมนตรีคู่บารมีทักษิณ ทั้งโลกหล้าถามกัน "ในปฐพีนี้ มีใคร..คนไหนบ้าง ที่รวยแล้วไม่โกง เหมือนทักษิณ"?

พรึ่บทั้งไทยรักไทย!

พอทักษิณถูก "บิ๊กบัง" เช็กบิล เป็นนายกฯ ตกเก้าอี้ บิ๊กบังตั้ง คตส.ตรวจสอบการทุจริตรัฐบาลทักษิณทั้งคณะ

รัฐมนตรีหลายคนรวมทั้งทักษิณ "เจ๊กอัก" ไปตามๆ กัน

แต่มีอยู่คน หมายหัวกันว่า "อ่วมอรทัยละมึงตานี้" แทนที่จะเป็นทักษิณ กลายเป็นว่า ที่ "รวยแล้วไม่โกง" คนนั้น คือ

"สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ"!?

น่าจะจริงนะ ก็ดูซี หน้าตาท่านก็ดูซื้อออ..ซื่อ พูดจาภาษาการเมืองก็ไม่เป็นประสา

เคยถูกซักฟอกในสภาปี ๔๘ เขาเขียนโพยมาให้อ่านคำไหน ก็อ่านตามไปทุกคำ

ไม่เว้นกระทั่งคำอุทาน...พุทโธ่ จนยิ่งลักษณ์ตามอย่างต่อมา อ่านตามสคริปต์ว่า "แต๊งกิ้ว ทรี ไทม์"

เห็นมั้ย คนซื่อแบบนี้ รับประกันได้ "ไม่กิน-ไม่โกง-ไม่หนี-มี-จ่าย" จนเป็นที่ร่ำลือ

มีคนบอก สุริยะฉกาจด้าน "ดูทิศทางลม" ตามคัมภีร์ขงเบ้ง แถมมีวิชา "แมงดด" แปลงกาย ที่สูญหายไปร่วมร้อยปีอีกด้วย

เพราะอย่างนั้่น สุริยะ จึงเป็น "สุริยาไม่เคยดับแสง" มาตลอด

พอคลื่นลมการเมืองไม่เอื้อ ก็ร่าย "อาคมแมงดด" ที่ว่า

"แมงดด..แมงดด ชักรถเข้าป่า ใครเดินมา เรียกว่าแมงดด"

แมงดด ขี้อาย จำศีล กินแกลบ ไม่กินสินบาท-คาดสินบน  โปร่งแสง ด้วยพลังสุริยะ คนจึงมองไม่เห็น

แต่ด้านโปร่งใส ไม่รู้นะ!

ยุคลุงตู่พลาดไปนิด

ออกโทรทัศน์ ลืมคาถาแมงดด ดันไปพูดเท่ "ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ"

เอาเข้าจริงตะกายตีนขวิด แมงดดเลยหมั่นไส้ ชักรถปัดตูดให้ไปนั่งทับไข่หน้าเขียวอยู่อุตสาหกรรมโน่น!

ด้วยวิชารู้ "ทิศทางลม" นั่นแหละ จึงรู้ว่า งวดนี้ "ครอบครัวใหญ่เพื่อไทย" มาแน่

แมงดดจึงชักรถสุริยะแบกถุงมาเพื่อไทย

ได้นั่งเก้าอี้เสนาบดีคมนาคมสมนาม "โปร่งแสง" แต่โปร่งใสหรือไม่...ไม่รู้

มันน่าอิจฉาน้อยไปรึนั่น....

เพราะอย่างนั้น ผมจึงขออธิษฐาน เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ได้เกิดมาเป็นสุริยะ

ทรัพย์เพียบพูน สมบูรณ์ตำแหน่ง ไร้ซวย รวยแต่โชค ถูกโฉลกรัฐมนตรี นิราศจากทุกๆ คดี แฮปปี้แมงดด ทุกทิวาวาร!

ก็อธิบายสรรพคุณสุริยะพอให้เข้าใจกันนิดหน่อย เพราะวันนี้ เราจะคุยกันถึงเรื่องรัฐมนตรีแมงดดท่านนี้แหละ

คือ ผมเห็นข่าวตามโซเชียลมาหลายวันแล้ว ว่า

"รัฐมนตรีสุริยะจะพับแผน "แลนด์บริดจ์" ชุมพร-ระนอง อันเป็นหนึ่งในโครงการ "พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม"

เพื่อ "พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้" เชื่อมการขนส่งระหว่าง "อ่าวไทย" ด้านชุมพรกับฝั่ง "อันดามัน" ด้านระนอง ถึงกันโดยตรง ด้วย "แลนด์บริดจ์"

โดยไม่ต้องพึ่งการ "ขนส่งทางเรือสินค้า" ดังทุกวันนี้

เพราะการขนส่งสินค้าทางเรือเดินสมุทร ระหว่าง "มหาสมุทรอินเดีย-อันดามัน" กับมหาสมุทรแปซิฟิก-อ่าวไทย"

เรือสินค้าทุกลำจะต้องไปลอด "ช่องแคบมะละกา" แถวๆ สิงคโปร์ จนสิงคโปร์เป็น "ศูนย์กลาง" ขนส่งของโลกในภูมิภาค

ถ้าไทยสานต่อโครงการ "แลนด์บริดจ์" ตามที่รัฐบาลลุงตู่เริ่มไว้ให้

ต่อไปในอนาคต เรือขนส่งสินค้า ไม่ต่ำกว่า ๔ แสนลำ/ปี

ไม่ต้องไปผ่านช่องแคบมะละกาแล้ว

พุ่งตรงมาที่ไทย ซึ่งจะทำให้เร็วขึ้นกว่าไปผ่านช่องแคบมะละกาถึง ๔ วัน

สมมุติเรือขนน้ำมันจากตะวันออกกลางจะไปส่งไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และ ฯลฯ

จาก "มหาสมุทรอินเดีย" มาเข้า "อันดามัน" ไม่ต้องไปลอดช่องแคบมะละกา เพื่อไปทะเลจีนใต้ผ่านอ่าวไทยให้เสียเวลา-เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแล้ว

พุ่งตรงมาที่ท่าเรือชุมพร "อ่าวไทย" ส่งน้ำมันทางท่อปรู๊ดไปที่ท่าเรือระนอง "ฝั่งอันดามัน" เลย

เรือที่ท่าระนอง แค่เปิดวาล์วท่อ ก็ถ่ายน้ำมันจากท่อหรือจากคลังน้ำมันระนองใส่เรือกลับไปโดยตรงได้เลย

ไม่ต้องเสียเวลานำเรือ "ลอดไป-ลอดมา" ที่ช่องแคบมะละกาอย่างทุกวันนี้

ไทยจะเป็น "ศูนย์กลาง" ขนส่งเชื่อม ๒ มหาสมุทรแทน "ช่องแคบมะละกา" ที่สิงคโปร์ ด้วยวิธีและระบบ "ก้าวล้ำ-นำสมัย"

ชนิด "คลองปานามา-คลองสุเอซ" ชิดซ้ายแล้ว ยังไม่หายเชย จะบอกให้!

หลับตา "เห็นภาพ" กันทันมั้ยครับ?

ว่าขนส่งระบบ "แลนด์บริดจ์" คือสะพานบก มันดีกว่าการขุด "คลองกระ" หรือคลองอะไรก็ตาม อย่างที่มีคนผลักดัน

ซึ่งการ "ขุดคลอง" จะทำลาย "ทุกระบบ" ในวิถี-ชีวิตคนใต้ทั้งภาค รวมถึง "ความมั่นคงประเทศ" โดยตรง

เพราะการ "ขุดคลอง" ไม่เพียงตัดแผ่นดินไทยให้ขาดจากกัน กระแสน้ำจะเปลี่ยนระบบนิเวศทั้งหมด

"การเกษตร-การท่องเที่ยวภาคใต้" ฉิบหาย วินาศสันตะโรชนิดแก้คืนกลับไม่ได้

ผลได้มีแค่ "ค่าผ่านคลอง" พอๆ กับค่าโดยสารเรือข้ามฟาก "ท่าศิริราช-ท่าพระจันทร์!

สำหรับ "แลนด์บริดจ์" สภาพแวดล้อม-ระบบนิเวศทุกอย่างคงเดิม ที่เติมเข้ามาคือวิวัฒนาการ ความก้าวหน้า และความมั่งคั่ง

จากความเป็น "ศูนย์การขนส่งทางเรือ" เชื่อม ๒ มหาสมุทรแห่งใหม่ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบ "แลนด์บริดจ์" แล้ว

จะ "เปลี่ยนทิศทางการเดินเรือโลก" ทันที!

จากที่ต้องเสียเวลาอีก ๔-๕ วัน ไปลอดช่องแคบมะละกา

 ก็ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป

"ตะวันออก-ตะวันตก" เชื่อมตรงที่ท่าเรือ "ระนอง-ชุมพร"

แลนด์บริดจ์ จะเปลี่ยน "แผนที่การเดินเรือโลก" ใหม่หมด สู่ศตวรรษที่ ๒๑!

"แลนด์บริดจ์" มันมีอะไรบ้างล่ะ ก็มี .........

-โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกระนอง

-โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกชุมพร

-โครงการระบบรถไฟทางคู่ "ชุมพร-ระนอง" และ          

-"มอเตอร์เวย์" ช่วงชุมพร-ระนอง!

เรือสินค้าทั้ง ๒ มหาสมุทร ต่างส่งสินค้าเข้าโกดัง จากอันดามัน ก็ส่งขึ้นโกดังที่ท่าเรือระนอง จากอ่าวไทยก็ส่งขึ้นโกดังที่ท่าเรือชุมพร

การขนส่งระบบแลนด์บริดจ์ มีทั้งมอเตอร์เวย์ มีทั้งรถไฟรางคู่ น้ำมันก็ขนส่ง "ทางท่อ" จากฝั่งหนึ่ง ไปอีกฝั่งหนึ่ง

ต่อให้ควายกลับชาติมาเกิดเป็นนายกฯ เป็นรัฐมนตรีคมนาคม โครงการดีๆ อย่างนี้ รัฐบาลก่อนเขาบุกเบิกไว้ให้

ทั้งการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านแต่ละพื้นที่

เรียกว่าปรุงสุก-พร้อมเสิร์ฟ เหลือแต่ตักใส่ปากเคี้ยว

ถ้า "คายทิ้ง" อย่างที่เป็นข่าวละก็....

ไอ้คนนั้น มันยิ่งกว่าควาย ๕ ตัวรวมกัน เป็นมัน ๑ ตัวซะอีก!           

เมื่อวาน (๒๐ ก.ย.๖๖) เห็นข่าว สส.ภูมิใจไทยไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีสุริยะ ขอให้ทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง

ที่บอกว่า "จะไม่สานต่อโครงการแลนด์บริดจ์" นั่นน่ะ

แต่ผมยังเชื่อความโปร่งแสงของนายสุริยะ ว่าท่านน่าจะโปร่งใสในเรื่องนี้ เพราะอย่างน้อย ก็เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลลุงตู่มาก่อน

ในความเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม จะมาก-จะน้อย ท่านก็ต้องซึมซับ-รับรู้ ถึงผลดี-ผลเสีย ของโครงการนี้ ขึ้นใจอยู่แล้ว

ดังนั้น ไม่มีเหตุอะไรที่ท่านจะ "ไม่สานต่อ"

อีกทั้ง โครงการนี้ ใช่ว่าจะชี้ขาดได้ด้วยคนระดับรัฐมนตรีคมนาคมคนเดียว!

ที่สำคัญ ผมยังไม่เห็นข่าวเต็มๆ ทั้งยังไม่ได้ยินกะหูว่าท่านพูดจะไม่สานต่อ เห็นตามโซเชียลเท่านั้น ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นในทางคัดค้าน

ฉะนั้น ผมคิดในทางบวกกับสุริยะไว้ก่อน ว่าท่านไม่ได้พูด "จะไม่สานต่อแลนด์บริดจ์"

"แลนด์บริดจ์" ชื่อก็บอก "บนบก"

แล้วท่านจะคาบลงไป "ใต้น้ำ" ได้อย่างไร?

ผมยังเชื่อ "สุริยะ" นามสกุล "จึงรุ่งเรืองกิจ"

"สกุลนี้" ซื่อสัตย์-ภักดีต่อชาติ "รวยแล้วไม่มีโกง"!

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มนุษย์ 'พันธุ์หน้าเหลี่ยม'

ต้องขอบคุณ "ทรัมป์" เขานะ นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า โดยเฉพาะจากจีนจะสูงถึง ๖๐% และการลดภาษีนิติบุคคล จาก ๓๕% เหลือ ๒๑% และจะลดลงเหลือ ๑๕% ในปีต่อไป

'พ่ออวดจน-ลูกอวดรวย'

เอาละเว้ย...เฮ้ย จงระวัง! "ไอ้เสือ" มันออกล่า "คนตาบอด" เพื่อขย้ำเป็นเหยื่ออีกรอบแล้ว

สาวะถี "เทวดาเหนือคุก"

ชั่วโมงนี้.... คนอยากเห็นหน้า "คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง" ว่าที่ "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ" คนใหม่ มีไม่เท่าไหร่

๑๗ ปี 'นาทีทอง' มาถึง

๑๑ พฤศจิกา.เรียกให้เท่แบบฝรั่งว่า 11.11 ลืมกันหรือเปล่าว่า "วันนี้เรามีนัดกัน?" ความจริงก็ไม่ใช่ "เรา"