ต้องเปลี่ยนสันดาน

การเมืองยังไม่พ้นโซนอันตรายสำหรับพรรคก้าวไกล จะกว่าวุฒิสภาชุดนี้จะหมดวาระลงในเดือนพฤษภาคมปีหน้าโน้น

หลังจากนั้นยังต้องมีด่านสำคัญที่ต้องผ่านให้ได้ หากอยากได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

มาที่อนาคตรัฐบาลเศรษฐาก่อนครับ เพราะเริ่มบริหารประเทศ ก็เริ่มสร้างปัญหาเสียแล้ว อาทิ จ่ายเงินเดือนข้าราชการเดือนละ ๒ ครั้ง  จ่าย ๓๐ ล้านไปประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาติไทย ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ตั้งคนที่มีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือเป็นผู้แทนการค้าไทย

แบ่งงานรัฐมนตรีไม่ตรงปก

ทำให้ภาพรวมรัฐบาลเศรษฐาดูไม่เรียบร้อยเท่าไหร่

ไปดูกูรูเขาวิจารณ์กันครับ

"นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ความว่า…

"...ข้าวใหม่-ปลามัน

ในฐานะประชาชนผมยังไม่วิจารณ์รัฐบาลนี้ แม้ไม่สบอารมณ์พรรคเพื่อไทย แกนนำตั้งรัฐบาล และรำคาญความหยาบคายของพรรคก้าวไกล ที่ใช้ความหยาบคายเรียกคะแนนเป็นหลัก

ถือว่า ยังอยู่ในช่วง ข้าวใหม่-ปลามัน ให้เขามีความสุขไปก่อน

ลางสังหรณ์ “ข้าวบูด ปลาเน่า” น่าจะออกมา ไม่เกิน ๓ เดือนหลังจากนี้

ว่าก็ว่าเถอะ ผมหลุดจากวงโคจร”นักประชาธิปไตย” เป็น”นักเสรีนิยม” ไปแล้ว อย่าเรียกผมว่าเป็นนักประชาธิปไตย ผมไม่ต้องพึ่งพารัฐบาล และรัฐบาลก็อย่ามายุ่งกับผม..."

เสียดายไม่ได้บอกเหตุผลชัดๆว่า ข้าวจะบูด ปลาจะเน่า ในไม่เกิน ๓ เดือน มาจากอะไร

แต่ที่พ่วงพรรคก้าวไกลมาด้วยนั้น ก็ต้องบอกว่าใช่เลย

ทำไมต้องหยาบคาย

เห็นหลายทีแล้วครับ สส.พรรคก้าวไกล มีตรรกทางการเมืองที่แปลกๆ อยากเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างจนลืมไปว่า สังคมไทยเรามีรากเหง้าของตัวเราเอง ไม่ต้องเดินตามฝรั่งตะวันตกทุกเรื่องก็ได้

นิสัย พฤติกรรม สส.ก้าวไกล ถอดแบบมาจากสังคมโซเชียลครับ

โซเชียลหยาบแบบไหน สส.ก้าวไกล หยาบแบบนั้น

การทำหน้าที่ฝ่ายค้านต้องมีความน่าเชื่อถือ

หมดสมัยแล้วครับ หยาบ ถ่อย พูดเอามันในสภา พวกตัวตึงทั้งหลายพึงตระหนัก หากจากเปลี่ยนประเทศอย่าเปลี่ยนด้วย "สันดานหยาบคาย"

มาดูกูรูอีกคน ไลพ์สดเฟซบุ๊กไว้หลายวันแล้ว

"จตุพร พรหมพันธุ์" ในเสื้อวิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ทุบโต๊ะเปรี้ยง!  ภายในเดือนกันยายนนี้ จะมีรัฐมนตรีอย่างน้อย ๓ คนอาจถูกคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ยื่นคำร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

เนื่องจากมีข้อกล่าวหาอันน่าสงสัยในการกระทำผิดกฎหมายจากกรรมเก่าและเกิดร่องรอยการประพฤติมั่วหมองขึ้นใหม่ผสมกันร้ายแรงชนิดคาดไม่ถึง

สะดุ้ง!ซิครับ

"รัฐมนตรีไม่น้อยกว่า ๓ คนมีข่าวแว่วมาว่า คงได้เข้ากระทรวงทำงานอย่างน้อย ๑๕ วัน หลังจากนั้นเมื่อกระบวนการทางกฎหมายเดินหน้าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คาดในเดือนกันยายนนี้จะเป็นผลขึ้น ซึ่งเจ้าตัวคงรู้ตัวดีอยู่แล้ว โดยข้อกล่าวหาบางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่คนจะคาดไม่ถึง”

ข่าวที่ผมนำมาบอกกล่าวนั้น ขณะนี้มีสถานะเป็นเพียงข่าวแว่วมาเท่านั้น โดยระบุถึงช่วงเวลาว่า ในอีกประมาณ ๒ สัปดาห์จะมีรัฐมนตรีในชุดรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ อย่างน้อย ๓ คนจะถูกเรื่องราวในสิ่งสำคัญ เพราะมีเรื่องราวงที่เป็นร่องรอยเดิมและใหม่เข้ามาผสมอีกอย่างที่คาดไม่ถึง และหลังจากนั้นไม่กี่วันจะถูกยื่นให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่

อีกทั้ง เตือนว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้เดินไปอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้น อะไรที่รัฐบาลควรทำทันทีก็ต้องรีบทำ อีกอย่างรัฐมนตรีอย่าเพิ่งแต่งห้องให้มาก โดยรัฐมนตรีบางคนก็รู้ เพียงแต่คิดว่าจะรอดหรือไม่ แต่บ้านเมืองนี้อะไรก็เกิดขึ้่นมาได้ ขอให้โชคดี หากมีการวิ่งเต้นอาจรอดก็ได้ ดังนั้น ข่าวแว่วที่ได้ยินมาคงคลาดเคลื่อนไปอีก แต่นำมาให้ประชาชนเฝ้าจับตาไว้ก่อน

"ขอให้ประชาชนมีมาตรฐานไตร่ตรอง เมื่อนักการเมืองโสโครกแล้ว ประชาชนก็ไม่ควรโสโครกตาม มาตรฐานที่เคยจัดการบ้านเมืองนี้อย่างไร เราก็ควรเดินตามอย่างนั้น...”

นี่ขนาดแค่ข่าวแว่วมา เล่นเอาเสียวไปทั้งครม.

สืบสาวราวเรื่อง เห็นว่ามีทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่

เรื่องใหม่ไม่รู้อะไร

แต่เรื่องเก่าเห็นว่า ถูกหั่นให้สั้นลง  จะสั้นแค่ไหนคงต้องรอเฉลย

อีกเรื่องที่เขย่าศรัทธารัฐบาลพอควรคือการมาของ "นลินี ทวีสิน" ที่้ไม่ใช่พี่สาวของ "เศรษฐา ทวีสิน " แต่เป็น "นลินี ทวีสิน" สายตรง "นช.ทักษิณ ชินวัตร"

นี่ขนาดป่วยออดๆแอดๆ อาการน่าเป็นห่วง ที่ห้อง VIP  โรงพยาบาลตำรวจ  ยังมีฤทธิเดชขนาดนี้ พ้นโทษมาเมื่อไหร่ คงได้ว้าวุ่นกันเป็นแถว

ประเด็น "นลินี ทวีสิน" เป็นที่ปรึกษานายกฯทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย มีการพูดถึงกันเยอะพอควร เพราะมีปมปัญหาในอดีต ถูกแบล็กลิสต์จากสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติ กระทรวงการคลังสหรัฐ เนื่องจากเป็น ๑ ใน ๓ นักธุรกิจที่ให้ความช่วยเหลือการทุจริตของรัฐบาลโรเบิร์ต มูกาเบ อดีตประธานาธิบดีซิมบับเว

ยังไม่เคลียร์เลยครับ

แต่ก็อาจจะเคลียร์ในเร็วๆนี้ หากนายกฯเศรษฐาหอบหิ้ว  "นลินี ทวีสิน" ไปร่วมเวทีประชุมยูเอ็นที่นิวยอร์กด้วย

ถ้าไปแล้วไม่มีปัญหาก็จบ

ถ้าไม่ไปก็จบยาก เพราะ ผู้แทนการค้า เป็นตำแหน่งในลำดับต้นๆที่ต้องไปเวทีนี้

มาดูพรรคก้าวไกลบ้าง

เลือกตั้งครั้งหน้าบอกได้เลยมันหยด!

คู่แข่งที่ต้องฟาดฟันดกันแทบทุกสนามเลือกตั้งหนีไม่พ้น พรรคก้าวไกล  กับ พรรคเพื่อไทย

ส่วนพรรคภูมิใจไทยตัวสอดแทรก

พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ รักษาเก้าอี้้ส.ส.ให้ได้เท่าเดิมถือว่าเก่งแล้ว

เห็นแบบนี้ ด้อมส้ม บอกว่า หวานเจี๊ยบ

แลนด์ไสด์แน่นอน

"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๑ แบบนอนมา

แต่...ระวังซ้ำรอยเดิม คือไม่มีเพื่อน

ต่อให้ชนะเลือกตั้งเป็นพรรคลำดับหนึ่งเหมือนเดิม แต่หากเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของรัฐสภากรณีส.ว.ยังอยู่ หรือไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯกรณีเลือกตั้งหลังเดือนพฤษภาคม ก็ใช่ว่าจะได้เป็นรัฐบาล

เพราะใครไม่คบ

ฉะนั้นต้องปรับสันดานกันอีกเยอะครับ.