วันนี้ "รัฐบาลเพื่อไทย" แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ที่สนใจกันมาก หลักๆ มี ๒ เรื่อง
-เรื่องแรก แจก ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet
-เรื่องที่สอง ตั้ง ส.ส.ร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
ยังมีเร่งด่วนระดับกลาง, ระดับสุดท้ายอีกหลายเรื่อง
เช่น เรื่องลดค่าพลังงาน เรื่องผู้ว่าฯ CEO เรื่องลดนายพล ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ใช้การสมัครใจแทน เป็นต้น
เรื่อง รถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย, ค่าแรง ๖๐๐ บาท/วัน, ปริญญาตรี ๒๕,๐๐๐ บาท/เดือน ยังไม่มีกล่าวถึงในนโยบาย
ตามฟังก็แล้วกัน
ผมขอคุยแค่ ๒ เรื่องก่อน คือเรื่องแจก ๑ หมื่น กับเรื่องตั้ง ส.ส.ร.เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
แจก ๑ หมื่นบาทกับคน ๑๖ ปีขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ ๕๐ กว่าล้านคน ต้องใช้เงินประมาณ ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท นั้น
รัฐบาลให้เหตุผลที่ต้องทำทันทีว่า เพื่อ "กระตุกเศรษฐกิจประเทศ" ให้ตื่น
ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจที่จะขยายการลงทุน ขยายกิจการ เกิดการผลิตสินค้าที่มากขึ้น
ต่อจากนี้ ผมขอถามตามประสาชาวบ้านว่า
-รัฐบาลตอบได้ไหม เงิน ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาทนี้ เอาจากส่วนไหนของงบประมาณมาแจก?
-รัฐบาลยืนยันได้ไหม ที่บอกจะเก็บภาษีคืนได้เป็นแสนๆ ล้านนั้น ไม่ใช่การยกเมฆ
-รัฐบาลตอบได้ไหม สมมุติเก็บภาษีคืนได้แค่ ๑-๒ แสนล้าน แล้วที่เหลือ ๓-๕ แสนล้าน รัฐบาลจะหารายได้มาจากไหน โดยไม่กู้ ไม่สร้างหนี้?
-รัฐบาลยืนยันได้ไหม เงินดิจิทัลไม่ใช่ "เงินในอากาศ" มีตัวตนจริง มีมูลค่าในตัวจริง ไม่ได้สมมุติขึ้นในอากาศลอยๆ
-รัฐบาลยืนยันได้ไหม ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาทนั้น มีทองคำ มีเงินสกุลต่างๆ หนุนหลัง เหมือนธนบัตรไทย ที่ออกโดยแบงก์ชาติ
-รัฐบาลยืนยันได้ไหม "เงินดิจิทัล" ของรัฐบาลเพื่อไทย จะไม่นำไปสู่การ "ฟอกเงิน" ของโจรเศรษฐกิจยุคไอที
ซึ่งจะนำหายนะสู่ระบบการเงิน-การคลังของไทย รวมทั้งทำเศรษฐกิจพังทั้งระบบ เหมือนนโยบายจำนำข้าวยิ่งลักษณ์
-รัฐบาลยืนยันได้ไหม ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท ที่เหมือนทุ่มก้อนหินลงในสระน้ำโครมเบ้อเร่อ จะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อเฉียบพลัน
-รัฐบาลตอบได้ไหม เหตุผลคืออะไร ที่แจกดะ ๑ หมื่นโดยไม่แยกแยะ ว่า
ขี้ข้า-ยาจก-วณิพก-ขอทาน-เศรษฐี-ผู้ดี-ไพร่ คนมีเงินพันล้าน, หมื่นล้าน, แสนล้าน ก็แจกให้ ไม่จำเพาะคนมีเงินสิบบาท ร้อยบาท พันบาท
-รัฐบาลยืนยันได้ไหม สุดท้าย ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาทนี้ จะไม่ถูกผลักเป็นหนี้สาธารณะ เหมือนเงินโกงจำนำข้าวยิ่งลักษณ์ ที่ประชาชนต้องแบกหนี้ ๗-๘ แสนล้านแทนถึงทุกวันนี้
-รัฐบาลมีเหตุผลแย้งที่รับฟังได้ไหมว่า.....
เงิน ๕๖๐,๐๐๐ ล้านนี้ ไม่ใช่การเอาเงินหลวงไปแจกเพื่อแลกกับสัญญาหาเสียงเพื่อไทย
และ ๕๖๐,๐๐๐ ล้านนี้ จริงๆ แล้ว ไม่ได้หวังแจกเพื่อการลงทุน เพื่อการพัฒนา เพื่อการสร้างเศรษฐกิจยั่งยืนใดๆ เลย
แจกเพื่อแลกสัญญา เป็นประชานิยมแลกใจ เอาไปผลาญกัน ให้หมดไปใน ๖ เดือนเท่านั้น
ที่จะหมุนไป ๔-๖ รอบ กระตุกเศรษฐกิจประเทศให้ตื่น
ที่ตื่นคือ "แตกตื่น"
ตัวเลขหนี้สินครัวเรือนพุ่งพรวดจากใช้จ่ายไม่บันยะ-บันยังจนเลยเถิด จากตัวนำที่ "ได้ฟรี"
การลงทุน การผลิต ที่หวัง เมื่อโลกอยู่ในยุค "เศรษฐกิจพัง" ทั้งโลก ผู้บริโภคมี แต่กำลังซื้อไม่มี มีแต่โจรหิวโหย ปล้นสะดม เกลื่อนยุโรป-สหรัฐอเมริกา
ในสภาพนี้ รัฐบาลตอบซิว่า ๕.๖ แสนล้านนั้น
จะสร้างโอกาสภาคธุรกิจ จะขยายการลงทุน ขยายกิจการ เกิดการผลิตสินค้าที่มากขึ้น ได้อย่างไร?
สรุป....
เงินแจก ๕.๖ แสนล้านของรัฐบาลเพื่อไทย
"แจกวันนี้" เท่ากับ "แจกหนี้" ๕.๖ แสนล้าน ให้ชาวบ้านทุกคนแบกพรุ่งนี้ ควบคู่ไปกับหนี้จำนำข้าวยิ่งลักษณ์ สู่กาลนาน
ชัวร์ ๙๙.๙๙%!
ผมจึงอยากเตือนรัฐบาลเพื่อไทย "๑๑ พรรค" ด้วยหวังดีว่า
เรื่องแจก ๑ หมื่นนั้น ขณะนี้ ชาวบ้านยังไม่อดตายหรอก
ถ้าจะแจก ไปแยกแยะ "แจกคนควรได้" ดีกว่า
ไม่ใช่มักง่าย "ไล่แจก" ทุกคน เหมือนมี hidden agenda แบบนี้
ถ้ารัฐบาลแถลงวันนี้ว่า....
นโยบายเร่งด่วน "ทำทันที" คือ ตัดงบค่าอาหาร สส.-สว.หัวละ ๑,๐๐๐ บาท ไปเฉลี่ยเพิ่มงบ "อาหารกลางวันเด็กนักเรียน"
แบบนี้ละก็ รัฐบาลเศรษฐา-เพื่อไทย อยู่ไปร้อยปีเลย!
เห็นเลียบๆ เคียงๆ แบบจนแต้ม ดิจิทัลเพื่อไทย ๕.๖ แสนล้านนั้น จะกู้รัฐวิสาหกิจส่วนหนึ่ง อีกส่วนจะใช้เงินทุนสำรอง
พูดได้คำเดียว....
ฉิบหาย-ขายประเทศเลย ถ้าทำแบบนี้!
จากข้อมูล "ธนาคารแห่งประเทศไทย" ณ เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖
๙ ปี ที่รัฐบาล "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" สะสมไว้ให้
-ประเทศไทย มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ
๗,๖๐๒,๕๑๕ ล้านบาท เป็นอันดับที่ ๑๔ ของโลก
-มีทองคำสำรอง ๕๒๗,๖๕๖ ล้านบาท มากที่สุดในกลุ่มอาเซียน
-เป็นเจ้าหนี้ให้ IMF กู้ ๔๓,๗๗๑ ล้านบาท
เงินทุนสำรองที่แข็งแกร่งของไทยนี้แหละ "เงินบาท" ของไทย จึงยอมรับกันเป็นสากลว่า
"เงินบาท" เป็นสกุลเงินที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดในโลก มีเสถียรภาพในระยะยาว มีอัตราเงินเฟ้อน้อยที่สุด นับตั้งแต่ไทยเผชิญวิกฤตการเงินช่วงปี ๒๕๔๑
จึงไม่แปลก "เงินบาท" ที่มีเงินทุนสำรองและทองคำหนุนหลัง มีค่าเท่ามูลค่าจริงตามราคาในธนบัตร ทุกวันนี้ จึงเสถียร ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
ลาว-เขมร-พม่า กระทั่งเวียดนาม ใช้เงินบาทเป็นตัวกลางในการซื้อ-ขายสินค้า!
"รัฐบาลเศรษฐา-เพื่อไทย" จะทำเศรษฐกิจพุ่งทะลุดาวก็ทำไป แต่สิ่งที่ต้องรักษาไว้ให้ได้ คือมาตรฐาน "เสถียร" ของเงินบาท
แต่รัฐบาลเพื่อไทย ทราบใช่มั้ย?
"เงินดิจิทัล" นั้น "ธนาคารแห่งประเทศไทย" ยังไม่ยอมรับให้นำมาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้
เพราะเป็นเงินในอากาศ มีแต่อากาศหนุนหลัง วันนี้มีมูลค่า ๑๐ บาท พรุ่งนี้เหลือ ๑๐ สตางค์ก็ได้
นอกจากไม่มีค่าในตัวแล้ว ค่ายังไม่เสถียรอีกตะหาก ซ้ำเสี่ยงต่อการถูกดูดข้อมูล ร้านค้า ชาวบ้าน โอกาสตกเป็นเหยื่ออาชญากรไซเบอร์สูงมาก
ที่สำคัญ ขีดเส้นใต้ ๑๐ เส้นเลย คือ....
โอกาสถูกใช้เป็นเครื่องมือ "ฟอกเงิน" ให้โจรสูงมาก จะโจรใส่สูทหรือใส่ตรวนก็ช่างเถอะ
แล้วรัฐบาล จะจริงใจหรือทำไก๋ก็ตามที หนีไม่พ้นต้องรับหนี้จาก "เงินดิจิทัล" ในอากาศ ๕.๖ แสนล้าน มาเป็นหนี้มีตัวตนจริงผลักเข้าระบบรัฐ
ที่ซวยคือประชาชน ทั้งที่ได้และไม่ได้ "เงินลม ๑ หมื่น" ไปในวันนี้
กลับต้องเป็นผู้ใช้หนี้เงินในอากาศ "๕.๖ แสนล้าน" ที่แก๊งฟอกเงินนั้น ใช้ฟอกเอา "เงินจริง" ไปแทน
สุดท้ายแล้ว ๕.๖ แสนล้านลม ก็ต้องเป็น "หนี้สาธารณะ" มีตัวตนจริง
รัฐบาลต้องเอาเงินภาษีชาวบ้าน ที่แทนจะเอาไปพัฒนาประเทศ กลับต้องเอามาตั้งเป็นงบประมาณใช้หนี้ อีก ๒๐-๓๐ ปี กว่าจะหมด!
อ้าว....คุยได้เรื่องเดียว เรื่องตั้ง ส.ส.ร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ยังไม่ได้คุยเลย เนื้อที่หมดแล้ว
เอางี้ ผมอ่านจากร่างนโยบายที่แถลงแล้ว เรื่องนี้ เขาจัดอยู่ในหมวด "นโยบายเร่งด่วนสุดท้าย"
เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ นโยบายเขามีว่า
-ยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
-ไม่แก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์
-จะหารือแนวทางทำประชามติ ให้ประชาชนทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมออกแบบที่เป็นประชาธิปไตย เป็นที่ยอมรับร่วมกัน
ประเด็นสำคัญที่ผมขอ "เน้น" คือ
ในนโยบาย ไม่พูดถึงการตั้ง ส.ส.ร.เขียนใหม่ทั้งฉบับ แต่มีว่า
"หารือแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญ" ในรัฐสภา
โอเค ๑๐๐%
ถ้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะบางมาตราหรือทั้งฉบับ ทำกันโดย สส.-สว. คือทำใน "รัฐสภา" โดยไม่ตั้ง ส.ส.ร. แบบนี้ ไม่มีปัญหา!
สรุป นโยบายรัฐบาล
"ผ่านหมด"
เรื่องเดียวที่จะ "พาพัง" คือ เงินดิจิทัล ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท
ก็แหม...เป็นรัฐบาลยังหาเงินเข้าคลังไม่ได้ซักบาท
แต่ "วันแรก" ก็ถลุงแบบมีเลศนัยไปแล้ว ๕.๖ แสนล้านบาท
แล้วที่เหลืออีกตั้ง ๑,๔๖๐ วัน
ประเทศไทยจะไม่เกลื่อนด้วยกองกระดูกกับหัวกะโหลก ไม่ต่าง "Killing Field" ที่เขมรหรือ!?
-เปลว สีเงิน
๑๑ กันยายน ๒๕๖๖
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม่หมอ..มองทะลุ ปี 68 เปลี่ยนนายกฯ ..ยุบสภา-ลาออก!!.. I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568
เอาซะทีเถอะน่า...กกต.!
หมาน่ะ .... จุ๊ๆ ปาก มันยังหยุด เอียงคอ ตาจ้อง หูตั้ง และฟัง แต่ที่ "นายอิทธิพร บุญประคอง" ประธาน กกต. กระแอมถึงนายทักษิณ ผู้ช่วยหาเสียง "ผู้สมัครนายก อบจ." พรรคเพื่อไทย
ใคร 'เจ้าภาพบ้านเมือง'?
ดูคลิปและฟังคำที่.... "ทักษิณ" ทอล์กกับบรรดา "หมาในคอก" ของเขาวันก่อนแล้ว
ไอ้เสือถอย 'รอล้มล้าง'
ขบวนการ "ล้มล้างรัฐธรรมนูญ" ถอยซะแล้ว! "ประธานวันนอร์" แถลงหลังประชุมวิป ๓ ฝ่าย เมื่อวาน (๘ ม.ค.๖๘)
คนพันธุ์ 'ปากเปราะ'
ผมหายไปวัน... ไปร่วมยก "หลวงพ่อทวดครึ่งบน" ส่วนเศียร ขึ้นประกอบกับ "ส่วนล่าง" ที่ร่วมกันหล่อถวาย พร้อมสร้างอาคารฐานสถิต ที่วัดทรายขาว ทุ่งหวัง สงขลา
มันเอาแน่ 'แก้เพื่อล้มล้าง'
มี 'เรื่องใหญ่' ที่ผมต้องเกริ่นให้คนไทยทุกคนตื่นรู้ บัดนี้...ประเทศไทย....