การเผชิญหน้าระหว่างสองยักษ์ใหญ่คือสหรัฐฯ กับจีนยังเพิ่มความเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด กระทรวงกลาโหมหรือเพนตากอนของสหรัฐฯ เตรียมสร้างฐานทัพในกวมและออสเตรเลีย
เป้าหมายคือการรับมือ “ความท้าทาย” จากจีน
ข่าวจากวอชิงตันบอกว่า ความเคลื่อนไหวทางทหารล่าสุดของอเมริกานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการ “ทบทวนท่าทีระดับโลก” ของฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐฯ
เรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เพิ่งเป็นข่าว
เพราะเป็นคำสั่งจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ลอยด์ ออสติน เกือบจะทันทีหลังจากเข้ารับตำแหน่งเป็นเจ้ากระทรวงนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
ต่อมาออสตินก็เริ่มขยับในเดือนมีนาคม
ตอกย้ำถึงความสำคัญที่ไบเดนให้กับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เป็นการต่อยอดจากนโยบาย Pivot to Asia ของยุคประธานาธิบดีบารัค โอบามา
รัฐมนตรีออสตินไม่ลังเลที่จะประกาศว่า "จีนเป็นความท้าทาย” สำหรับอเมริกาอย่างไม่ต้องสงสัย
ชัดเจนว่ากรณีไต้หวันกำลังทำให้สหรัฐฯ ต้องปรับยุทธศาสตร์ต่อจีนในภูมิภาคนี้อย่างเร่งด่วน
จีนเองก็ขยับตัวอย่างเร่งด่วนเช่นกัน
เพราะเกมนี้เดิมพันสูงสำหรับทั้งสองฝ่ายอย่างปฏิเสธไม่ได้
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะพลาดพลั้งไม่ได้เป็นอันขาด
เมื่อเดือนที่แล้วพลเอกมาร์ค มิลลีย์ ประธานเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ บอกว่าจีนประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ความเร็วเหนือเสียง
ทำเอามะกันตกตื่นไม่น้อยว่าเทคโนโลยีทางทหารของจีนวันนี้ไม่ได้น้อยหน้าสหรัฐฯ แต่อย่างใด
การทบทวนยุทธศาสตร์ครั้งนี้รวมถึงการยกระดับ "โครงสร้างพื้นฐานในเกาะกวมและออสเตรเลีย"
และจัดลำดับความสำคัญ "การก่อสร้างทางทหารทั่วหมู่เกาะแปซิฟิก" ใหม่ให้สอดคล้องกับการขยายอิทธิพลของจีน
ตลอดจน "แสวงหาการเข้าถึงระดับภูมิภาคมากขึ้นสำหรับกิจกรรมการเป็นหุ้นส่วนทางทหาร"
ความหมายคือ การเสริมสร้างฐานทัพเรือให้สองจุดนี้ให้เข้มแข็งพอที่จะทำให้จีนต้องคิดหนักหากจะก่อเหตุอันใดที่อเมริกามองว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายบารมีของตนในภูมิภาคนี้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงมะกันบรรยายสรุปให้เห็นชัดว่า
"ในออสเตรเลีย คุณจะเห็นเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด... คุณจะเห็นการฝึกกองกำลังภาคพื้นดินและความร่วมมือด้าน logistics เพิ่มขึ้น...ซึ่งจะขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นทั่วทั้งอินโด-แปซิฟิก...”
แนวทางของนโยบาย Pivot to Asia ยุคโอบามาปรับมาใช้เป็น Rebalancing หรือการปรับดุลแห่งการวางกำลังของสหรัฐฯ ในย่านนี้
นั่นหมายถึงการให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมากขึ้น
ซึ่งอาจจะมาในรูปของการ "ลด" จำนวนทหารและอุปกรณ์ในพื้นที่อื่นๆ ของโลก "เพื่อให้มีความพร้อมในการสู้รบที่ดีขึ้นและกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น" ในอินโด-แปซิฟิก
เป้าหมายหนึ่งของการทบทวนแนวทางนี้คือ "สร้างมาตรฐานความพร้อมขึ้นใหม่" เพื่อให้กองทัพสหรัฐฯ "คล่องแคล่วและตอบสนองต่อวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น"
แผนใหม่นี้ย่อมจะต้องมีการวางรูปแบบกองกำลังสหรัฐฯ ที่จะยันรัสเซียเอาไว้อีกด้านหนึ่งด้วย
ในตะวันออกกลาง การปรับแผนจะมุ่ง "สนับสนุนการปราบปรามกลุ่ม ISIS ต่อไป" โดยมีกองทัพสหรัฐฯ ประจำอยู่ในอิรักและซีเรีย
ตลอดจนยังคงทำงานเพื่อสร้าง "ขีดความสามารถของกองกำลังพันธมิตร" ในประเทศเหล่านั้น
แต่ผู้รู้ตั้งข้อสังเกตว่า อัฟกานิสถานไม่ได้ถูกรวมอย่างเป็นทางการในการทบทวนท่าทีทั่วโลกรอบนี้
เพราะมี "กระบวนการ" ที่นำโดยระดับสูงในสภาความมั่นคงแห่งชาติที่ "แยกจากกัน"
และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการ "ทบทวนหนทางข้างหน้าเพื่อกำหนดว่าบทบาทของสหรัฐฯ ที่นั่นจะออกมาในรูปใด"
เอกสารทางการของเพนตากอนบอกว่า โดยรวมแล้วสหรัฐฯ มี "การปรึกษาหารือ 75 ครั้ง" กับมิตรประเทศและพันธมิตรเพื่อปรับแผนให้สอดคล้องกับทิศทางร่วมกัน
เมื่ออเมริกาพูดถึงมิตรประเทศ ในกรณีนี้ย่อมหมายถึงพันธมิตร NATO ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และพันธมิตรกว่าสิบรายทั่วตะวันออกกลางและแอฟริกา
ที่ไม่ได้รับการเอ่ยถึงในการปรับแผนใหญ่ครั้งนี้คือเรื่องของอาวุธนิวเคลียร์, อวกาศและไซเบอร์
แต่ไม่ได้แปลว่าประเด็นใหญ่ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกมองข้ามไป
เพราะอย่างไรเสีย ผมก็เชื่อว่าทั้งอเมริกาและจีนก็กำลังประเมินว่าหากเกิดสงครามรอบใหม่, อาวุธที่สำคัญที่สุดอาจไม่ใช่เครื่องบินรบหรือเรือดำน้ำอีกต่อไป
หากแต่มันคือสงครามไซเบอร์เต็มรูปแบบ!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ