เมื่อชาติต้องการ

งานสุดท้ายของ  "เนติบริกร" หรือ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลประยุทธ์ ทิ้งทวนทำเรื่องทูลเกล้าฯพระราชทานอภัยลดโทษ"ทักษิณ ชินวัตร" จาก ติดคุก 8 ปี เหลือเพียง 1 ปีต้อนรับรัฐบาลใหม่แห่งความปรองดอง 

ส่วน  "เนติบริกร" บอกว่าปิดประตูทางการเมืองขออยู่บ้านพักผ่อน  เล่นกับหลานด้วยความสุข   เขียนหนังสือ สอนหนังสือ และอาจเป็นประธานหรือคณะกรรมการในบริษัทต่างๆที่พอจะมีรายได้บ้าง และทำงานในคณะกรรมการกฤษฎีกา และราชบัญฑิต 

หลังรับใช้ประเทศชาติในฐานะฝ่ายการเมืองมานาน ผ่านนายกฯมาถึง 8 คน 12 รัฐบาล   ส่วนตำแหน่งรองนายกฯเป็นมาทั้งหมด 13 ปี นานที่สุดในประเทศไทย

สำหรับการเดินทางมาของรองนายกฯวิษณุ ที่ทำเนียบฯเมื่อวันที่  1 ก.ย.  เพื่อทำงานในวันสุดท้าย ก่อน  เปิดโอกาสให้รองนายกฯ และรัฐบาลใหม่เข้ามาเตรียม พร้อม และเลือกห้องทำงานในทำเนียบ  ก่อนรัฐมตรีใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 5 ก.ย. 

​นายวิษณุ ยังได้อวยพรสื่อมวลชน ว่า ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ช่วยเป็นมิตรกับรัฐบาลใหม่เพราะถ้าเรามุ่งไปวิพากษ์วิจารณ์ทั้งที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำงานเขาก็หมดกำลังใจ เราก็ต้องให้กำลังใจไปสักพักแล้วค่อยวิจารณ์  และขอให้โชคดี ขอให้แข็งแรง 

 

​สำหรับคนที่ทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเหมือนยืนอยู่บนภูเขาทอง  ที่ได้เห็นระบบราชการ และได้เห็นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)  และการตัดสินใจของรัฐบาล บางครั้งรู้ด้วยซ้ำ แต่เปิดเผยไม่ได้ ว่าทำไมถึงตัดสินใจอย่างนั้น  และบางอย่างผมก็คันปากอยากพูดก็พูดไม่ได้ สื่อก็ได้เห็นเหตุการณ์เหล่านั้นที่ผ่านมา ก็ขอให้เก็บความรู้เหล่านี้ไว้เป็นความทรงจำ เป็นประโยชน์เพื่อถ่ายทอดให้กันต่อไป    ก่อนที่จะบอกลาสื่อฯทำเนียบว่า  "เอาไว้เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ" 

 

ประโยคนี้ของอ.วิษณุ นึกแล้วหวาดเสียวแทนฝ่ายประชาธิปไตย เพราะคล้ายคำติดปากของคนไทยมากกว่า 60 ปี

โดยเจ้าของวลีนี้คือ "จอมสฤษดิ์ ธนะรัชต์"  ที่เคยผ่านวิทยุยานเกราะ "พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ" จากนั้นจึงยึดอำนาจจอมพล ป. พิบูลสงครามในเวลาต่อมา 

ก็หวังว่าบ้านเมืองจะเดินหน้า ไร้ความขัดแย้ง  ไม่เข้าสู่ทางตัน ซ้ำรอยเดิมอีก   

​​

 

ช่างสงสัย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พาดหัวกันจนจะถูกย้าย"

ต้องยอมรับความจริง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถือเป็นรัฐราชการ ที่ประชาชนยุคนี้ฝากความหวังเอาไว้ถ่วงดุล อำนาจรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นต่างๆ ที่สังคมกังขา มิให้ทำอะไรเลยเถิดหรือสุดซอย จนประโยชน์สูงสุดไม่ได้อยู่ที่ประชาชน

'ผมกำลังลื่น'

วันจันทร์ที่ผ่านมา ในการประชุมวุฒิสภามีวาระร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง โดยช่วงหนึ่งของการประชุมจะเห็นได้ว่ามี สว.เอาอวนดักปลาขึ้นมาประกอบการอภิปราย พร้อมปลากะตักแห้งที่เอามาเป็นตัวอย่างประกอบ

แจกสิทธิ์ 10 คนแรก

ต้องฝ่ากระแสร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปี 2567 สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งกระแสพรรคแตก สส.ทยอยย้ายซบพรรคอื่น กระแสข่าวหัวหน้าพรรคถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี

ออร่าจับมาก

ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย

“ไม่ต้องรอมติพรรค”

“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย