ชัดพอหรือยัง?

เป็นผู้ร่วมทำนโยบายกองทุนหมู่บ้าน- โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP

ยังมีอีกเป็นหางว่าว....

"กิตติ ลิ่มสกุล" บอกว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต  ไม่ใช่บิตคอยน์ 

แต่เป็น โทเคน (Token)

จะเป็นเหรียญ-กระดาษ-คูปอง ได้ทั้งนั้น

ถูกกฎหมาย เป็นไปตามพระราชบัญญัตติ การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐

ไม่ผิดกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย

มีเงินแบ็คอัพให้ที่เป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน เหมือนกระเป๋าตังค์

เขียนด้วยบล็อกเชน

การใช้เงินที่ให้ใช้ในรัศมีไม่เกิน ๔ กิโลเมตร 

ประชาชนบางส่วนอยู่ในพื้นทีห่างไกล อยู่แถบภูเขา ก็สามารถขยายพื้นที่การใช้เงินให้ได้ สำหรับนัมเบอร์ดังกล่าว อาจขยายให้ไปถึงสิบกิโลเมตรก็ได้

ประเด็นสำคัญคือ  เงินที่จะให้หนึ่งหมื่นบาท อาจจะไม่ได้ให้ทีเดียวเลย หนึ่งหมื่นบาทต่อคน

คาดการว่าอาจจะให้เป็นงวดๆ ประมาณ ๒-๓ งวด 

"...มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ทีเดียวเลยหนึ่งหมื่นบาท โดยอาจจะให้สองรอบ เช่นในช่วงจังหวะดีๆ อย่างเทศกาลสงกรานต์ แต่ก่อนสงกรานต์อาจมีก่อนหนึ่งงวด เช่น ๒,๕๐๐ บาท จากนั้น ให้รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจประเมินผล หากรายงานมาว่าได้ผลดี คนจับจ่ายซื้อของกันดี คนขายของก็เข้าสู่ระบบภาษี แบบนี้อาจให้อีกงวด ๒,๕๐๐ บาท แล้วเข้าเดือนเมษายน ก็ให้ไปอีก ๕,๐๐๐ บาท ก็ครบหนึ่งหมื่นบาท

พวกที่มาวิจารณ์ว่าจะเจ็ง ผมถามว่าจะเจ๊งได้ยังไง เพราะการทำ ต้องมีเงินเข้ามาถึงจะทำได้ หากงบฯยังไม่พร้อม ก็จะบอกประชาชนว่าขอให้รอก่อน ขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย แต่ให้แน่นอน ก็จะอยู่ในช่วง มกราคม-พฤษภาคม ๒๕๖๗  แต่มกราคมอาจไม่ทัน รอบแรกน่าจะอยู่ในช่วงกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม  แต่สงกรานต์ได้แน่นอน และจะได้เยอะ..."

เท่าที่ฟังมานี่คือการให้รายละเอียดมากที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่ตอบคำถามสำคัญ นั่นคือ เอาเงิน ๕ แสนล้านมาจากส่วนไหน

กู้เพิ่ม หรือใช้งบประมาณแผ่นดิน

และการที่บอกว่า มีเงินแบ็คอัพให้ที่เป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน เหมือนกระเป๋าตังค์ หมายถึงอะไร

คือเงินนอกงบประมาณแผ่นดินใช่หรือเปล่า

กระเป๋าตังค์  ที่ว่า คือ แอปเป๋าตัง ของรัฐบาลเก่าหรือเปล่า

ครับ...ก็ยังคงมีคำถาม  ที่ไร้คำตอบที่ชัดเจน อีกหลายประเด็น

ยิ่งมาเห็นเพจพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า....

"...กระแสข่าวแบ่งจ่ายเงินในนโยบาย Digital Wallet เป็นหลายงวด เป็นความเห็นส่วนตัวในเชิงวิชาการ พรรคเพื่อไทยยืนยัน ๑๐,๐๐๐ บาท “งวดเดียว” สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ กระตุ้นทั้งการบริโภค และการลงทุนทั่วประเทศ..."

ยิ่งงงหนักเข้าไปอีก

เพราะเพจพรรคเพื่อไทย รู้มากกว่า คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายพรรคเพื่อไทย

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “นโยบายพรรคเพื่อไทยทำได้หรือไม่?”

นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท สำหรับผู้มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป คือความหวังลำดับต้นๆของประชาชน เชียวนะครับ

การสำรวจมีการตั้งคำถามว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ประชาชนอยากได้คืออะไร

มาดู ๓ ลำดับแรก

๑. พักหนี้เกษตรกร ๓ ปี ทั้งต้น ทั้งดอกทันที ตัวอย่าง ร้อยละ ๘๗.๒๕ ระบุว่า อยากได้ รองลงมา ร้อยละ ๗.๓๓ ระบุว่า ไม่อยากได้ ร้อยละ ๔.๘๙ ระบุว่า เฉย ๆ และร้อยละ ๐.๕๓ ระบุว่า ไม่ตอบ

๒. ทุกครอบครัวมีรายได้ไม่น้อยกว่า ๒๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน ตัวอย่าง ร้อยละ ๘๖.๑๘ ระบุว่า อยากได้ รองลงมา ร้อยละ ๗.๙๔ ระบุว่าไม่อยากได้ ร้อยละ ๕.๔๒ ระบุว่า เฉย ๆ และร้อยละ ๐.๔๖ ระบุว่า ไม่ตอบ

๓. กระเป๋าเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท สำหรับผู้มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ ๘๓.๓๖ ระบุว่า อยากได้ รองลงมา ร้อยละ ๑๑.๙๑ ระบุว่า ไม่อยากได้ ร้อยละ ๔.๖๕ ระบุว่า เฉย ๆ และร้อยละ ๐.๐๘ ระบุว่า ไม่ตอบ

ทั้ง ๓ นโยบาย มีความเป็นประชานิยมสูงอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นนี่คือความคาดหวังจากรัฐบาลเศรษฐา

โดยเฉพาะนโยบาย กระเป๋าเงินดิจิทัล  พรรคเพื่อไทยพูดกันมาตั้งแต่ต้นปี แต่พบว่าเป็นนโยบายที่ให้รายละเอียดกับประชาชนน้อยที่สุด

มันไม่ชัดเจน ถึงขนาดคนในพรรคเพื่อไทยเองยังพูดไปคนละทาง

ก็คาดหวังว่า "ฝ่ายค้าน" ชุดปัจจุบัน อันมี ก้าวไกล ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ม.๑๑๒ มากกว่าสิ่งอื่นใด กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังแก้ปัญหาความร้าวฉานภายในยังไม่จบ จะยืนหยัดทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ

แต่...ก็มีเรื่องที่ชัดเจน ให้พูดถึงเช่นกัน

หลัง "นช.ทักษิณ ชินวัตร" ได้รับพระราชทานอภัยโทษ  ลดโทษเหลือ ๑ ปี  เนื่องจากมีความสำนึกในความผิด ไปแล้วนั้น   ซุ่มเสียงจาก "วิษณุ เครืองาม" เนติบริกร บอกว่า

"...กรณีของนายทักษิณ ถือว่าเป็นนักโทษที่ถูกจำคุก ๑ ปี ซึ่งนักโทษจำคุก ๑ ปีคนอื่นได้รับสิทธิ์ประโยชน์อย่างไร นายทักษิณก็จะได้รับสิทธิ์เช่นนั้น รวมถึงการได้รับการลดหย่อนโทษเมื่อถึงเวลาลดหย่อนทั่วประเทศ ถ้ามีการลดกันก็จะได้สิทธิ์เหมือนกับนักโทษคนอื่นๆ..."

 “...ยังลดโทษได้อีก แต่จะลดมั๊ยไม่รู้ บางคนคาดหมายว่าวันเฉลิมพระชนม์พรรษาฯ วันพ่อแห่งชาติ อาจลดได้อีก...”

จึงมีความเป็นไปได้สูงครับ  ๓ เดือนให้หลังนับจากนี้ "ทักษิณ" จะพ้นโทษ

ไม่ต้องเข้าเรือนจำ

ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลตำรวจอีกต่อไป

"ทักษิณ" เป็นอีกคนที่จะได้รับ เงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท

ชัดพอหรือยัง!