ลุ้นรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

จากนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ประกาศว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะเดินหน้าจัดเก็บค่าโดยสารผู้ที่มาใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในเรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้มีการศึกษาและวิเคราะห์กรณีค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลแล้ว โดยมีการศึกษาตามกลุ่มเป้าหมายผู้เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนทางรางใน 2 กรณี

คือ 1.กลุ่มประชาชนผู้ใช้บริการทั่วไป และ 2.กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ในกลุ่มประชาชนผู้ใช้บริการทั่วไป หากรัฐจัดเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย คาดว่าจะต้องใช้เงินอุดหนุนจากภาครัฐรวม 5,446 ล้านบาท/ปี ส่วนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดว่าจะต้องใช้เงินจากภาครัฐอุดหนุนรวม 307.86 ล้านบาท/ปี

โดยผลการศึกษาวิเคราะห์ด้วยแบบจำลองของโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบราง และการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 (M-MAP 2) หากรัฐจัดเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายให้กับประชาชนทั่วไปมาใช้บริการ พบว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มได้ประมาณ 104,296 คน/เที่ยว หรือ 9.59% และเมื่อวิเคราะห์เงินที่ต้องอุดหนุนกรณีให้สิทธิสำหรับประชาชนผู้ใช้บริการ จะต้องใช้เงินอุดหนุน 17.47 บาท หรือประมาณ 17 บาทต่อผู้โดยสารที่เดินทางในระบบ คาดว่าจะใช้เงินอุดหนุนรวม 5,446 ล้านบาท/ปี

ส่วนกรณีให้สิทธิ 20 บาทตลอดสายสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ทาง ขร.ได้ประสานกรมบัญชีกลาง เพื่อขอข้อมูลจำนวนผู้มีรายได้น้อย (เทียบเคียงผู้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ) เพื่อนำมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการให้สิทธิ 20 บาทตลอดสายกับประชาชนกลุ่มดังกล่าว โดยเมื่อพิจารณาจากแบบจำลองฯ จะพบว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นประมาณ 6,061 คน/เที่ยว หรือ 0.56% และเมื่อวิเคราะห์เงินที่ต้องอุดหนุนกรณีผู้มีรายได้น้อย จะต้องใช้เงินอุดหนุน 34.63 หรือประมาณ 35 บาทต่อคน ดังนั้นเมื่อสรุปรวมจะพบว่ารัฐต้องใช้เงินอุดหนุนกว่า 307.86 ล้านบาท/ปี

นอกจากนี้ในผลการศึกษายังระบุอีกว่า ประโยชน์ของนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะทำให้เกิดประโยชน์ทั้งทางด้านจราจรและขนส่ง และผลประโยชน์อื่นๆ ทั้งเรื่องของการลดระยะเวลาการเดินทางบนถนน/ลดปัญหาการจราจรติดขัด, ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน, ลดค่าใช้จ่ายทางสุขภาพของประชาชนในประเทศ, ลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน, ส่งเสริมการใช้ระบบราง นอกจากนั้นยังส่งเสริมแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ปี พ.ศ.2564-2573 โดยการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และฝุ่น PM 2.5 รวมถึงส่งเสริมการเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพของเมือง

อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงคมนาคมต้องดำเนินการให้มีการจัดเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายโดยเร็ว ขั้นตอนต่อไป กระทรวงคมนาคมจะต้องหารือกับหน่วยงานภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การดำเนินงานด้วยความรอบคอบ คุ้มค่า และเหมาะสม โดยจะได้จัดทำข้อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลใหม่ เพื่อพิจารณาในรายละเอียดต่อไปในประเด็นต่างๆ ดังนี้

1.เกณฑ์และแนวทางในการกำหนดอัตราค่าโดยสารราคา 20 บาทตลอดสาย 2.กลุ่มเป้าหมายของการให้สิทธิค่าโดยสารราคา 20 บาทตลอดสาย 3.ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน และความคุ้มค่าของโครงการ 4.ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 5.งบประมาณอุดหนุนและชดเชยให้กับผู้ประกอบการ 6.นโยบายเจรจากับผู้ประกอบเดินรถคิดค่าโดยสารในอัตรา 20 บาทตลอดสาย

จากข้อมูลปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้โดยสารระบบรางใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะวันที่ฝนตก รถติด มักมีการทำสถิติผู้โดยสารสูงสุดอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นวันศุกร์ปลายเดือนสิงหาคม 2566 และมีฝนตกช่วงเย็น ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT BTS และ Airport Rail Link มากสุด ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมเป็น 1,757,790 คน/เที่ยว สูงที่สุดอีกครั้ง (New High) ตั้งแต่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19).

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปี68สินเชื่อระบบแบงก์ไทยหืดจับ

ปี 2568 ยังเป็นอีกปีที่ต้องจับตากับทิศทางของเศรษฐกิจไทย เพราะยังมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งบวกและลบ ที่จะเข้ามามีผลกับภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถานการณ์กดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน

แผนดัน ‘เกษตรครบวงจร’

อุตสาหกรรมเกษตร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย และที่ผ่านมาเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนไปได้ด้วยสินค้าเกษตร แต่ก็มีบางช่วงที่ติดขัดและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จากปัจจัยกระทบต่างๆ

เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม

แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ

ของขวัญรัฐบาล

อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว

ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ