อุกอาจ ท้าทาย ไม่ยำเกรง

เริ่มต้นได้อัปลักษณ์เหลือเกิน

ตกลงแล้วนี่เป็นรัฐบาลเศรษฐา

หรือรัฐบาลนช.ทักษิณกันแน่

เห็นชื่อ "พิชิต ชื่นบาน" เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล้วตกใจ!          

เห็นข่าวบอกว่า จะให้รับผิดชอบงานเกี่ยวกับกฎหมายให้กับ นายกฯเศรษฐา 

บาน....ครับ

ภาพถุงขนม ๒ ล้านบาทลอยมาทันที

ไม่อยากให้นักการเมืองเห็นรัฐธรรมนูญเป็นของเล่น ควรจะเคารพสิ่งที่ปรากฎอยู่ในรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์

มาตรา ๑๖๑ ระบุถ้อยคำที่รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณ มันเหมือนคำมั่นสัญญา ต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้าแผ่นดิน

 “ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

การจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตได้ บุคคลที่กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ด้วย

ไมใช่กล่าวแบบขอไปที

หรือมองถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นแค่พิธีกรรมที่ต้องทำให้จบๆ

ที่จริงรัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมา ก็มองอย่างนั้น ถึงได้มีรัฐมนตรีติดคุก นายกฯหนี 

ทนายถุงขนม เป็นกรณีที่ท้าทายจริยธรรมอย่างมาก การมีชื่อ "พิชิต ชื่นบาน" ในรัฐบาลเศรษฐา จึงหนีไม่พ้นการตั้งคำถามตัวโตๆ

รัฐบาลนี้่เริ่มต้นด้วยการไม่สนใจเรื่องจริยธรรมใช่หรือไม่

มุ่งสนองความต้องการของ "นายใหญ่" ใช่หรือเปล่า

ลำพัง " พ.ต.อ.ทวี สองส่อง" นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถูกจับตามองเรื่องการอำนวยความสะดวกให้นักโทษชายทักษิณ พอแล้ว

  "พิชิต ชื่นบาน" ก็ยิ่งชัดเจนว่า คือความต้องการของทักษิณ

มาปูพื้นกันหน่อยเผื่อเด็กรุ่นหลังที่ไม่เคยสนใจการเมืองเลย แต่วันนี้ล้วนเป็นผู้นำเคลื่อนไหวในโซเชียลกันทั้งนั้น

ประวัติ "พิชิต ชื่นบาน" ถูกตีแผ่ซ้ำอีกครั้งตั้งแต่วานนี้ (๒๙ สิงหาคม)  ก็สรุปง่ายๆว่าเป็นทนายความประจำตัวของ "ทักษิณ" มาอย่างยาวนาน

แต่ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งรัฐบาลควรจะตระหนักคือคำพิพากษาของศาล ในคดีละเมิดศาล หรือคคีถุงขนม ๒ ล้านนั่นเอง

ชิต หรือพิชิฏ ชื่นบาน, ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ และนายธนา ตันศิริ คือผู้ถูกกล่าวหาที่ ๑, ที่ ๒ และที่ ๓ ตามลำดับ

ศาลฎีกาพิพากษาไว้ดังนี้ครับ               

....ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยประการสุดท้ายมีว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เห็นว่า เงินที่ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๓ มอบให้หม่อมหลวงฐิติพงศ์เพื่อนำไปแบ่งกันกับเจ้าหน้าที่ในแผนก มีจำนวนมากถึงสองล้านบาท แสดงให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามมีเจตนาที่จะจูงใจให้หม่อมหลวงฐิติพงศ์และเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งอาจเชื่อมโยงไปเป็นประโยชน์แก่จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑/๒๕๕๐

การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๓๑ (๑), ๓๓ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ และน่าจะมีมูลความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงาน

การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม เป็นการกระทำที่อุกอาจ ท้าทาย และเกิดขึ้นที่ศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลยุติธรรมชั้นสูงสุดของประเทศ ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามประกอบอาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย ย่อมตระหนักดีว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันศาลยุติธรรม และจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือและความศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในอำนาจตุลาการ จึงเห็นสมควรลงโทษในสถานหนัก เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป

ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม คนละหกเดือน ส่วนความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ หรือความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงานนั้น ให้ผู้กล่าวหาไปดำเนินการตามกฎหมายแก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามและผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป....

อยากรู้ใช่มั้ยครับว่าคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑/๒๕๕๐ คือคดีอะไร

คือคดีซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกนั่นแหละครับ

ผัวเซ็นต์เมียซื้อ

คดีถุงขนม ๒ ล้าน มีประเด็นต่อเนื่องมาถึงปี ๒๕๕๗

"พิชิต ชื่นบาน" กับ "ศุภศรี ศรีสวัสดิ์"  ยื่นต่อศาลปกครองฟ้อง สภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความ และ คณะกรรมการสภาทนายความ  ได้มีคำสั่งชี้ขาดยืนตามคำสั่งของคณะกรรมการมรรยาททนายความ ลงโทษทั้งคู่ ให้ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ

คำพิพากษาศาลปกครองน่าสนใจมากครับ

...ศาลเห็นว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ที่ถูกศาลฎีกามีคำสั่งลงโทษจำคุก ๖ เดือน กรณีเข้าไปมีส่วนกับการนำเงิน ๒

ล้านบาทใส่ถุงกระดาษไปมอบให้กับ หม่อมหลวงฐิติพงศ์ ชุมพูนุท นิติกร ๕ และเจ้าหน้าที่ในศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อปี ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยหน้าที่ จึงถือว่าผู้ฟ้องคดีทั้ง ๒ มีพฤติกรรมไม่เรียบร้อยบริเวณศาล เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล และแม่พนักงานอัยการจะมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องผู้ฟ้องคดีทั้ง ๒ ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ฟ้องคดีทั้ง ๒ ไม่ได้ประพฤติ ผิดมรรยาททนายความ

การที่คณะกรรมการมรรยาททนายความ และคณะกรรมกรสภาทนายความ ได้มีคำสั่งลงโทษผู้ฟ้องคดีทั้ง ๒ และให้ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความจึงเป็นการใช้ดุลนิจมีคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายเหมาะกับพฤติการณ์ในการกระทำผิด ไม่ได้เป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินสัดส่วนแห่งการกระทำความผิด ประกอบกับอำนาจในการวินิจฉัยว่าผู้ใดกระทำกรละเมิดอำนาจศาล โดยเฉพาะไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดที่ให้อำนาจองค์กรอื่นมาตรวจสอบทบทวนคำวินิจฉัยของศาลฎีกาได้

เมื่อการกระทำของผู้ฟ้องคดีทั้ง ๒ เป็นการกระทำที่อุกอาจท้าทายอำนาจศาล ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ยำเกรงอำนาจศาลจึงเป็นพฤติกรรมที่ผิดพรรยาททนายความอย่างร้ายแรง ดังนั้นการที่ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าไม่ได้ประพฤติผิดมรรยาททนายความ และระบุว่าเป็นกาารลงโทษที่รุนแรงเกินนั้น จึงไม่อาจรับฟังได้ จึงพิพากษายกฟ้อง...

ครับ...แม้ "พิชิต ชื่นบาน" จะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ เพราะติดคุกเลย ๑๐ มาแล้ว

แต่พฤติกรรมในอดีต อุกอาจ ท้าทาย ไม่ยำเกรง

จะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯจริงหรือ?

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่าปล่อยให้เหลิง

นักร้องยังไม่ทำงาน... จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการปราศรัยของ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปยัง กกต.เลยครับ

เจอตอ ชั้น ๑๔

งวดเข้ามาทุกทีครับ... หากไม่มีอะไรผิดพลาด วันที่ ๑๕ มกราคมนี้ พยานหลักฐานกรณีนักโทษเทวาดาชั้น ๑๔ น่าจะอยู่ในมืออนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจแพทยสภา ชุดที่ คุณหมออมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ครบถ้วนสมบูรณ์

'ทักษิณ' ตายเพราะปาก

แนวโน้มเริ่มมา... ปลาหมอกำลังจะตายเพราะปาก เรื่องที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปปราศรัยใหญ่โต เวทีเลือกตั้งนายก อบจ.หลายจังหวัด ทำท่าจะเป็นเรื่องแล้วครับ

พ่อลูกพาลงเหว

มันชักจะยังไง.... พ่อลูกคู่นี้จะไปได้สักกี่น้ำกันเชียว ก่อนนี้ "ทักษิณ" ริ "ยิ่งลักษณ์" ยำ

นี่แหละตัวอันตราย

การเมืองปีงูเล็กจะลอกคราบ เริ่มต้นใหม่ ไฉไล กว่าเดิม หรือจะดุเดือดเลือดพล่าน ไล่กะซวก เลือดสาดกันไปข้าง