![คอลัมนิสต์ คันปากอยากเล่าcontent](https://storage-wp.thaipost.net/2021/10/คอลัมนิสต์-คันปากอยากเล่าcontent-.jpg)
"สีส้ม" เวลานี้ อาจกลายเป็นสีแสลงตาของบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย หลังจากช่วงเลือกตั้งถือเป็นคู่แข่งโดยตรง และทำให้พรรคแดงพลาดเป้าแลนด์สไตล์ไปมาก
ก่อนถูกชาวบ้านคลุมถุงชนจัดตั้งรัฐบาล และกระทั่งหย่าขาดกันไปในที่สุด เพราะเป้าหมายการเมืองคนละอย่างกัน ที่เปรียบพรรคส้มและพรรคแดงเป็นปลาคนน้ำ
เรื่องของสีเสื้อ นั้นยังมีคนมองและโยงไปถึงวงการฟุตบอลไทยลีกอีกด้วย เพราะ เมื่อไม่นานมานี้ "ทีมค้างคาวไฟ" หรือ สุโขทัย เอฟซี ภายใต้การทำทีมของ "เจ๊เป้า" อนงค์วรรณ เทพสุทิน ประธานสโมสรฯ และอดีตรัฐมนตรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภรรยาสุดที่รักของ "สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย
ถือโอกาสเปิดฤดูกาลแข่งขันไทยลีก 2023-2024 เปลี่ยนสีเสื้อชุดเหย้าใหม่จากเดิม "สีส้ม "เปลี่ยนเป็น"สีแดง" ซึ่งรับทราบมาว่าขายดิบขายดีเป็นอย่างยิ่ง
"เจ๊เป้า" อธิบายว่า เสื้อแข่งได้ปรับโฉมให้เข้ากับการปรับโฉมของค้างคาวไฟ ที่มาดมั่น ดุดัน ทรงพลังกว่าฤดูกาลใดๆ ผสมกับเอกลักษณ์ของแฟนบอลสุโขทัย เสื้อทีมจะมี 3 สี ประกอบด้วย สีแดง ซึ่งปรับจากสีส้ม ที่เป็นสัญลักษณ์ของเปลวเพลิง ซึ่งสีแดงเป็นสีประจำจังหวัดสุโขทัย จะเป็นสีหลักของฤดูกาล, สีฟ้า ที่เปรียบเหมือนพลังของแฟนบอลที่เป็นลมใต้ปีก และสีขาว ที่เปรียบเป็นสีศูนย์รวมศรัทธาของคนสุโขทัย ซึ่งทั้ง 3 สีที่ปรับนั้นถือเป็นสีมงคล
การเปลี่ยนสีชุดเหย้า จากที่ใช้เป็นสีส้ม เป็นสีแดง นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพราะฤดูกาลนี้ทีมปรับนักเตะเกือบยกทีม ซึ่งล้วนเป็นนักเตะเลือดใหม่ พลังใหม่ ที่มีความฮึกเหิม มีพละกำลัง ความแข็งแกร่ง
ที่ผ่านมาเราใช้เสื้อสีส้มมาหลายฤดูกาล นับตั้งแต่ปี 2013 พบว่าหลายครั้งช่วงท้ายฤดูกาลเราต้องเล่นเพื่อหนีตกชั้น จึงคิดร่วมกันว่าถึงเวลาที่เปลี่ยนในหลายๆ องค์ประกอบ รวมถึงสีเสื้อแข่งให้เป็นสีที่เป็นมงคล คือ สีแดง ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดและสีที่พวกเราใช้มาตั้งแต่ทำทีมยุคแรก
"สิ่งที่ปรับนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง เพราะสโมสรฟุตบอลไม่สามารถเลือกกลุ่ม เลือกขั้ว หรือ เลือกที่รักมักที่ชังได้" ประธานสโมสรค้างคาวไฟ อธิบาย
แล้วไป...นึกว่าเปลี่ยนเพราะมีใครแสลงใจสีส้มเสียอีก (อิอิ)
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งตีปี๊บผลงาน
อยู่ในช่วงเร่งตีปี๊บผลงานรัฐบาลแบบด่วนๆ ตามดำริของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายแก่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย “หมอชัย” ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ
“ชัยชนะ=อดทน”
“เกือบหลับ แต่กลับมาได้ ” มีให้เห็นเสมอ สำหรับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)
ให้ฟัง อ.วิษณุ
ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นกุนซือของ เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม มาทำงานอย่างเคร่งครัด
ต้อนรับพรรคคอมฯ เวียดนาม
การเมืองกำลังฮึ่มๆ รายวัน ส่วนใหญ่เน้นไปทางความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคอื่นดูเหมือนนานๆ ทีจะเป็นที่กล่าวถึง
“ยิ้มสยบ”
นับว่าเรื่องนี้ยาวติดต่อกันมาหลายวัน สำหรับ “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ได้คะแนนสูงสุดในการเลือกสว.ระดับประเทศในลำดับที่ 1 แต่สังคมไทยก็ยังมีเรื่องแคลนใจจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหาวิทยาลัยที่เรียน หรือวุฒิการศึกษา ล่าสุดมีคนในโซเชียลได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในหลายทาง
คุณพ่อลูกสอง
ยังทำงานแข็งขันดรีมทีมกันต่อ สำหรับทีมโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่นำโดย “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรค พร้อมด้วยรองโฆษก “เนน่” รัดเกล้า สุวรรณคีรี , “เบียร์” ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ และ “ลอรี่” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ