ข้อหาร้ายแรงต่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มีมากมายหลายกระทง
ใครที่ไม่ได้ติดตามอย่างต่อเนื่องจะงุนงงว่าเมื่อนักการเมืองโดดเด่นอย่างนี้โดนฟ้องคดีอาญาร้ายแรงมากมายอย่างนี้ ยังจะสมัครเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งได้หรือ?
คำตอบคือเขายังเดินหน้าท้าทายคำฟ้องทั้งหลาย และตอบโต้ว่าทั้งหมดนี้คือการสมรู้ร่วมคิดของฝ่ายตรงกันข้ามที่ต้องการจะสกัดเขาไม่ให้กลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง
ที่น่าแปลกใจคือ แม้จะโดนข้อหาหนักๆ อย่างนี้ ฐานเสียงของทรัมป์ก็ยังเหนียวแน่น
โพลกี่โพลที่ทำในช่วงนี้ก็ยังย้ำว่าเขายังเป็นขวัญใจของชาวรีพับลิกันอยู่ดี
ถามว่าคดีใหญ่ๆ ที่ทรัมป์กำลังเจออยู่มีอะไรบ้าง?
เอาล่าสุดก่อน เมื่อสัปดาห์ก่อนคณะลูกขุนใหญ่ในกรุงวอชิงตันยื่นฟ้องทรัมป์ในข้อหาว่าพยายามพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020 เพื่อหวังจะยังนั่งเก้าอี้ในทำเนียบขาวต่อ ทั้งๆ ที่ผลการนับคะแนนที่ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าคนชนะคือ โจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมแครต คู่แข่งคนสำคัญของทรัมป์
นี่คือคดีใหม่ล่าสุดที่ทรัมป์เผชิญขณะที่ยังคงเดินหน้ารณรงค์หาเสียงเพื่อหวังจะโค่นไบเดนในการเลือกตั้งอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนปีหน้านี้
ผู้ฟ้องในคดีล่าสุดคือ แจ็ก สมิธ อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ตั้งข้อหาใน 4 คดีใหญ่ต่อทรัมป์
ความเคลื่อนไหวใหม่ล่าสุดเกิดขึ้นหลังคณะลูกขุนใหญ่รับฟังข้อมูลพยานจากพันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์ที่โยงกับการดิ้นรนของเขาในการทำให้ผลการเลือกตั้งที่ทรัมป์แพ้ให้กับ โจ ไบเดน ที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2021 "ให้เป็นโมฆะ"
หากจะสรุปเนื้อหาสาระของคดีหลักๆ ที่ทรัมป์โดนฟ้องจนถึงวันนี้ ซึ่งอาจมีผลต่อท่าทีของประชาชนคนอเมริกันต่อเขาก็พอจะลำดับได้อย่างนี้
คดีโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ
นี่คือชุดข้อกล่าวหาล่าสุดที่อัยการกล่าวหาทรัมป์ว่า “สมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงประเทศ”
โดยบรรยายพฤติกรรมว่ามีการบีบบังคับไม่ให้สภาคองเกรสรับรองชัยชนะของการหย่อนบัตรของประชาชนให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อปี 2020
สำทับด้วยข้อหาว่าเขาได้ละเมิดสิทธิในการเลือกตั้งอันชอบธรรมของผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง
เหตุการณ์ที่สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในฐานะเป็นแม่แบบประชาธิปไตยคือเหตุการณ์วันที่ 6 มกราคม 2021
อันเป็นวันที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกพังอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อพยายามระงับยับยั้งไม่ให้สภาคองเกรสดำเนินพิธีรับรองชัยชนะของไบเดน
โดยอัยการกล่าวว่า ทรัมป์ “หาประโยชน์” จากเหตุดังกล่าว
อีกทั้งเขายังถูกกล่าวหาว่าได้จงใจปฏิเสธรับฟังคำแนะนำของที่ปรึกษาให้เขาประกาศบอกให้ผู้ก่อจลาจลออกจากพื้นที่โดยทันที เพราะการกระทำเช่นนั้นถือเป็นการจงใจทำผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง
ในคำฟ้องนั้น อัยการยังชี้ด้วยว่า ทรัมป์และพันธมิตรยังคงเดินหน้าอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่รู้ว่าคำกล่าวอ้างนี้ไม่มีพื้นฐานของความจริงแม้แต่น้อย
อัยการร้องต่อว่า ปรึกษาใกล้ชิดของทรัมป์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรองได้รายงานแจ้งและเสนอแนะต่อทรัมป์หลายครั้งหลายหนว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปอย่างชอบธรรมแล้ว
แต่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะรับฟังความเห็นและหลักฐานที่ไม่สอดคล้องกับข้อสรุปที่เขาต้องการ
ศาลสั่งให้ทรัมป์ปรากฏตัวที่ศาลรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตันในอีก 2 วันต่อมา
ถือเป็นการประกาศให้ทั้งประเทศรับรู้ถึงอุปสรรคทางกฎหมายของทรัมป์บนเส้นทางการเมืองที่ทับถมกับข้อหาเดิมๆ ทั้งหลาย
อีกข้อหาหนึ่งคือ การกล่าวหาว่าทรัมป์มีเอกสารลับในครอบครองโดยมิชอบ
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ทรัมป์ปฏิเสธที่จะยอมสารภาพผิดต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ต่อข้อหาว่าเขาเก็บข้อมูลความมั่นคงแห่งชาติไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังเขาลงจากตำแหน่งเมื่อปี 2021
อีกทั้งยังเพิ่มข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ที่พยายามเสาะหาเอกสารเหล่านี้กลับคืนไปเป็นสมบัติหลวง
ศาลมีนัดพิจารณาคดีนี้ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2024
อัยการพิเศษคนเดียวกันนี้คือ แจ็ก สมิธ ซึ่งชี้ว่าทรัมป์ทำให้ความลับของประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงด้วยการนำเอกสารที่มีข้อมูลอ่อนไหวที่ตีตราชั้นความลับสุดยอดหลายพันฉบับมาเก็บไว้กับตัว หลังเขาลงจากตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อเดือนมกราคม 2021
คำฟ้องยังบรรยายด้วยว่า ทรัมป์ยังใช้วิธีเก็บเอกสารเหล่านั้นอย่างไร้ระบบและหละหลวมในบ้านพักส่วนตัวที่มาร์-อะ-ลาโก ในรัฐฟลอริดา และที่กอล์ฟคลับของเขาในรัฐนิวเจอร์ซีย์
มีภาพประกอบคำฟ้องที่เผยให้เห็นกล่องเอกสารจำนวนมากถูกเก็บบนเวทีในห้องบอลรูม ในห้องน้ำ และถูกวางกระจัดกระจายบนพื้นห้องเก็บของ
คำฟ้องแจ้งว่าข้อมูลในเอกสารมีทั้งข้อมูลลับของโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ รวมถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่อาจเอื้อต่อฝ่ายตรงกันข้ามในกรณีที่สหรัฐฯ ถูกโจมตี
ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายการจารกรรมที่กำหนดเป็นโทษอาญาอันสืบเนื่องจากการครอบครองข้อมูลความมั่นคงโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำทับด้วยข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
ยิ่งกว่านั้นอัยการยังตั้งข้อหาทรัมป์, วอลท์ นอว์ตา คนรับใช้ของทรัมป์และจำเลยร่วม และคาร์ลอส ดี โอลิเวียรา พนักงานของทรัมป์ว่า
พยายามลบข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่บ้านพักมาร์-อะ-ลาโก หลังคณะลูกขุนใหญ่ออกหมายเรียกให้มีการส่งข้อมูลคลิปวิดีโอในกล้อง
อัยการกล่าวหาว่า ดี โอลิเวียรา กล่าวกับพนักงานอีกรายว่า “หัวหน้า” ต้องการให้มีการลบข้อมูลคลิปกล้องวงจรปิดในเซิร์ฟเวอร์
อีกคดีหนึ่งเป็นประเด็นข้อหาทรัมป์แทรกแซงผลการเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย
อัยการเขตปกครองฟัลตัน รัฐจอร์เจีย แจ้งนักข่าวว่า กำลังสอบสวนประเด็นทรัมป์และพวกพยายามพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในรัฐจอร์เจีย เมื่อปี 2020 หรือไม่
คาดกันว่าจะมีการตัดสินใจจะยื่นฟ้องด้วยข้อหาในคดีอาญาต่อทรัมป์หรือไม่ภายใน 1 กันยายนนี้
การสืบสวนนี้มุ่งไปที่บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับแบรด แรฟเฟนสเปอร์เกอร์ เลขานุการรัฐจอร์เจีย
มีเนื้อหาการพูดคุยกันทำนองว่า ทรัมป์ขอให้แรฟเฟนสเปอร์เกอร์ “หา” คะแนนให้มากพอที่จะพลิกผลการเลือกตั้งที่เขาแพ้ในรัฐเจอร์เจียได้
หมายความว่าเขาพยายามจะทำให้ “ความพ่ายแพ้” ของตัวเองกลายเป็น “ชัยชนะ” ด้วยวิธีการฉ้อฉล
ซึ่งก็อาจจะนำไปสู่การตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อทุจริตการเลือกตั้ง จูงใจให้มีการทุจริตการเลือกตั้ง และตั้งใจแทรกแซงผลการปฏิบัติหน้าที่ด้านการเลือกตั้ง
นอกจากนั้นยังมีคดีปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจที่ทรัมป์เป็นผู้ถูกกล่าวหา
คณะลูกขุนใหญ่รัฐนิวยอร์กตั้งข้อหาทรัมป์ว่า ปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016
ข้อหานี้โยงถึงไมเคิล โคเฮน อดีตทนายส่วนตัวของทรัมป์ซึ่งได้จ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์ ให้สตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่
โดยมีเจตนาจะให้เธอปิดปากจากกรณีที่เธอแฉว่าเคยมีความสัมพันธ์กับทรัมป์เมื่อปี 2006 โดยอัยการในเขตแมนฮัตตันกล่าวหาว่า ทรัมป์พยายามปกปิดการละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง
ทรัมป์ปฏิเสธทั้ง 34 ข้อหา และยืนยันว่าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับแดเนียลส์
แม้จะยอมรับว่าได้จ่ายเงินคืนให้โคเฮน หลังโคเฮนจ่ายเงินให้แดเนียลส์
แต่โคเฮนเองยอมรับเขาละเมิดกฎหมายการหาเงินทุนเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงความผิดในข้อหาอื่นๆ
และถูกตัดสินจำคุก 3 ปีเมื่อปี 2018 ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
สำหรับคดีนี้ ศาลมีกำหนดพิจารณาคดีในวันที่ 25 มีนาคม 2024
เห็นหรือยังว่าทรัมป์กำลังเจอกับพายุคดีความหนักหน่วงอะไรมากมาย...แต่ดูเหมือนนักการเมืองอย่างเขาจะไม่ยอมถอย
เพราะการถอยคือการยอมแพ้...และในเกมนี้ทรัมป์จะยอมให้มีภาพลักษณ์ว่าเพลี่ยงพล้ำไม่ได้เป็นอันขาด!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ