ลองตั้งตุ๊กตาย้อนกลับไปหลังวันเลือกตั้ง ๑๔ พฤษภาคม หาก ๒๕๐ สมาชิกวุฒิสภา ไม่มีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
คิดว่าหน้าตาของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร
ใช่รัฐบาล ๘ พรรคที่เซ็นเอ็มโอยูกันใช่หรือไม่
หรือก้าวไกลกับเพื่อไทยจะแข่งกันตั้งรัฐบาล
เพราะวาทกรรมฝ่ายประชาธิไตย ฝ่ายเผด็จการอนุรักษ์นิยม การเมืองถูกแบ่งเป็น ๒ ขั้วตั้งแต่การเลือกตั้งเดือนมีนาคม ปี ๒๕๖๒
ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านแบบหลวมๆกับเพื่อไทย เพราะแนวทางการเมืองไม่ตรงกันในหลายประเด็น
และหลายครั้งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก้าวไกล โวย เพื่อไทย ว่ารัฐบาลจากรัฐบาลหรือไม่
รวมทั้งเรื่อเวลาการอภิปราย ที่เพื่อไทยให้เทคนิคทางการเมืองที่สูงกว่าเบียดเวลาการอภิปรายของก้าวไกล จนนำไปสู่ความไม่พอใจระหว่างกันอยู่หลายครั้ง
นี่ยังไม่นับประเด็นที่นำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ แทบไม่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพระก้าวไกลไม่ไว้วางใจเพื่อไทย
นั่นคือปรากฎการณ์ ขณะทั้ง ๒ พรรคเป็นฝ่ายค้านร่วมกัน
แล้วครั้งนี้หากไม่มี ๒๕๐ ส.ว. คิดว่า ๒ พรรคนี้มีความประสงค์ในฐานะพรคฝ่ายประชธิปไตย จัดตั้งรัฐบาลด้วยกันหรือไม่
น่าคิดนะครับ
เพราะวันนี้เราได้รับรู้แล้วว่า คำว่า "ฝ่ายประชาธิปไตย" เป็นเพียงวาทกรรม ตั้งชื่อกลุ่มการเมืองเท่านั้น แต่เนื้อแท้ หามี "ประชาธิปไตย" ไม่
มีแต่ผลประโยชน์ทางการเมือง
แต่ละพรรคมีเป้าหมายของตนเอง
มิได้มีเป้าหมายร่วมกันแต่อย่างใด
ที่ชัดเจนที่สุดคือ เอ็มโอยูตั้งรัฐบาล ๘ พรรค ไม่มีการแก้ไขม.๑๑๒ รวมอยู่ด้วย
นี่คือความต่างอย่างมีนัยสำคัญ
และจะชี้ถึงเสถียรภาพของรัฐบาลในอนาคต
ลองตั้งคำถามในใจดูนะครับว่า ทำไมก้าวไกลยอมทิ้ง ๓๐๐ นโยบาย เพื่อแลกกับการแก้ไขม.๑๑๒ เพียงนโยบายเดียว
การเป็นพรรคการเมือง ไม่ง่ายเลยครับที่จะให้ความสำคัญนโยบายเพียงนโยบายเดียว แลกกับโอกาสในการเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล
แต่ก้าวไกลทิ้งทุกนโยบาย เพื่อแก้.ม.๑๑๒ เท่านั้น
ก็ตั้งตุ๊กตาต่อ ๘ พรรคสามารถตั้งรัฐบาลกันได้โดยมีก้าวไกลเป็นแกนนำ และ "พิธา ลิ้่มเจริญรัตน์" เป็นนายกรัฐมนตรี
ร่างกฎหมายฉบับแรกๆที่พรรคก้าวไกลจะยื่นเข้าสภาคือ การแก้ม.๑๑๒
กลับไปดูเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล ๘ พรรคกันอีกครั้งครับ โดยเฉพาะท่านอารัมภบท
“....บันทึกความเข้าใจ ทำขึ้นเพื่อสร้างพื้นฐานในการจัดตั้งรัฐบาลและทำงานร่วมกัน ระหว่างพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่า ภารกิจของรัฐบาลที่ทุกพรรคจะผลักดันนั้นต้องไม่กระทบต่อรูปแบบของรัฐ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและการดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นเคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์...”
หลังเอ็มโอยูนี้คลอดออกมาทุกฝ่ายมองตรงกัน เป็นความประสงค์ของ ๗ พรรค ที่ไม่ต้องการให้การแก้ม.๑๑๒ เข้ามาอยู่ในเอ็มโอยู
ไม่ต้องการให้ก้าวไกลผูกมัด ๗ พรรคว่าต้องแก้ม.๑๑๒ ตามก้าวไกล
เหมือนก้าวไกลจะยอมถอย
แต่ไม่ใช่เลยครับ
ก้าวไกลจะผลักดันเองในฐานะพรรคการเมือง โดยอ้างว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
ก่อนรัฐบาลเข้ารับหน้าที่ ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๖๑ เสียก่อน
“...ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ...”
แต่คำปฏิญาณของส.ส.นั้นต่างออกไป
"...ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ...”
นี่อาจเป็นการตีความรัฐธรรนูญของพรรคก้าวไกลว่า ส.ส.ไม่จำเป็นต้องจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ระบุไว้ ต่างกับคณะรัฐมนตรีทีระบุเอาไว้ชัดเจน
ฉะนั้นการเสนอแก้ม.๑๑๒ ของก้าวไกล จึงไม่ขัดเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล รวมทั้งไม่ขัดคำปฏิญาณตน
ตั้งตุ๊กตากันต่อไปครับ หลังรัฐบาลก้าวไกลแถลงนโยบายเสร็จสิ้น พรรคก้าวไกลเสนอ ร่างแก้ไขม.๑๑๒ เข้าสภา
มาวันหนึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ถึงคิวต้องพิจารณาในสภา
คิดว่า ๗ พรรคร่วมรัฐบาลจะทำอย่างไร
ที่สำคัญ จะจัดการกับความไม่พอใจของมวลมหาประชาชน ที่ไม่ต้องการให้แก้ไข ม.๑๑๒ อย่างไร
ย้ำกันอีกทีนะครับ ความไม่พอใจของประชาชน จะมากมายกว่าที่ประชาชนไม่พอใจการคอร์รัปชั่นในรัฐบาลระบอบทักษิณหลายเท่าตัว
นี่ไม่ใช่เดิมพันกันที่รัฐบาล
แต่เดิมพันด้วยโครงสร้างของประเทศ ด้วยการดำรงอยู่หรือไม่ของสถาบันพระมหากษัตริย์
ถึงเวลานั้น ๗ พรรค จะยอมกอดคอกับก้าวไกลกี่พรรค
กลับไปที่การตั้งตุ๊กตาแรก หากไม่มี ๒๕๐ ส.ว. สามารถตั้งรัฐบาล ๘ พรรคหรือไม่
คำตอบคือตั้งได้
แต่จะมีอายุยืนยาวแค่ไหน
คำตอบคือทันทีที่พรรคก้าวไกลยื่นร่างกฎหมายแก้ม.๑๑๒ คือวันนับถอยหลังรัฐบาลก้าวไกล
ครับ....ก็อยากให้เห็นการเมืองอีกมุม หากเดินไปอีกทาง รัฐบาลไม่น่าจะมีอายุเกิน ๑ ปี
กลับมาสู่สถานการณ์ที่่แท้จริง รัฐบาลเพื่อไทยน่าจะจบที่กว่า ๓๐๐ เสียง มีพรรค ๒ ลุงร่วมด้วย
อายุจะยืนยาวแค่ไหน
ถ้าเอาตามคำที่โม้ไว้ว่าตั้งสสร.แก้รัฐธรรมนูญ กระบวนการกว่าจะเสร็จสิ้น ก็เกิน ๒ ปี
ระหว่างนั้นทำดีไม่มีชั่ว อายุรัฐบาลไม่ใช่เรื่องน่าวิตก
ดูรัฐบาลลุงตู่เป็นตัวอย่าง อยู่ครบ ๔ ปี แบบไม่มีอะรระคายผิว เพราะสร้างอะไรเอาไว้มากมาย
แต่ถ้าคิดแต่จะทำเรื่องชั่วๆ โกงซ้ำซาก เหมือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์-ทักษิณ
ได้เลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนดแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าปล่อยให้เหลิง
นักร้องยังไม่ทำงาน... จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการปราศรัยของ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปยัง กกต.เลยครับ
เจอตอ ชั้น ๑๔
งวดเข้ามาทุกทีครับ... หากไม่มีอะไรผิดพลาด วันที่ ๑๕ มกราคมนี้ พยานหลักฐานกรณีนักโทษเทวาดาชั้น ๑๔ น่าจะอยู่ในมืออนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจแพทยสภา ชุดที่ คุณหมออมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ครบถ้วนสมบูรณ์
'ทักษิณ' ตายเพราะปาก
แนวโน้มเริ่มมา... ปลาหมอกำลังจะตายเพราะปาก เรื่องที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปปราศรัยใหญ่โต เวทีเลือกตั้งนายก อบจ.หลายจังหวัด ทำท่าจะเป็นเรื่องแล้วครับ
พ่อลูกพาลงเหว
มันชักจะยังไง.... พ่อลูกคู่นี้จะไปได้สักกี่น้ำกันเชียว ก่อนนี้ "ทักษิณ" ริ "ยิ่งลักษณ์" ยำ
นี่แหละตัวอันตราย
การเมืองปีงูเล็กจะลอกคราบ เริ่มต้นใหม่ ไฉไล กว่าเดิม หรือจะดุเดือดเลือดพล่าน ไล่กะซวก เลือดสาดกันไปข้าง
แก้รัฐธรรมนูญแกงส้ม
ก็เผื่อไว้... อาจจะมีการลักไก่ ลัดขั้นตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ