เมื่อจีน ‘ฉีดน้ำ’ ใส่เรือฟิลิปปินส์ยกระดับตึงเครียดในทะเลจีนใต้

ความตึงเครียดรอบใหม่ในทะเลจีนใต้มาพร้อมกับการเผชิญหน้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯในน่านน้ำและน่านฟ้าย่านนี้ที่น่ากังวล

ฟิลิปปินส์อ้างว่าเรือยามฝั่งจีนยิง “ปืนใหญ่น้ำ” ใส่เรือฟิลิปปินส์ที่กำลังขนส่งอุปกรณ์ให้กับหน่วยนาวิกโยธินบนเกาะที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของตน

จีนโต้ว่าฟิลิปปินส์ล่วงล้ำน่านน้ำของจีน

กรณีเรือยามฝั่งลำหนึ่งของจีนใช้ “ปฏิบัติการฉีดน้ำ” ใส่เรือฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากลายเป็นเรื่องร้อนที่ทำให้หลายประเทศตะวันตกส่งเสียงสนับสนุนฟิลิปปินส์และเตือนจีน

สถานการณ์ตึงเครียดที่ถูกยกระดับขึ้นฉับพลันเช่นนี้อาจเห็นสหรัฐฯ และพันธมิตรเร่งความเร็วที่จะเปิดแผนการลาดตระเวนร่วมในทะเลจีนใต้

ซึ่งก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์เสื่อมทรุดลง

คลิปวิดีโอจากฟิลิปปินส์แสดงให้เห็นเรือหน่วยยามฝั่งขนาดใหญ่ของจีนกำลังฉีดพ่นน้ำใส่เรือฟิลิปปินส์ที่มีขนาดเล็กกว่ามาก

เรือฟิลิปปินส์อ้างว่ากำลังพยายามส่งเสบียงให้กับกองทหารรักษาการณ์ของนาวิกโยธินฟิลิปปินส์บน Second Thomas Shoal

ซึ่งเป็นสันดอนในทะเลจีนใต้ที่ฟิลิปปินส์อ้างว่าอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของตน

แต่จีนเรียกจุดนี้ว่า Ren-ai (เหรินอ้าย)  Reef และ ยังอ้างว่าเป็นดินแดนภายใต้อธิปไตยของตน

 

ภาพจากหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ยังแสดงให้เห็นเรือของจีนเคลื่อนตัวเข้าใกล้ด้านหน้าเรือหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ในระยะประชิด “อย่างเสี่ยงอันตราย”

ขณะที่เรือฟิลิปปินส์บอกว่ากำลังทำภารกิจคุ้มกันเรือเสบียงของตน

“หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ (PCG) ขอประณามการซ้อมรบที่เป็นอันตรายของหน่วยยามฝั่งจีน (CCG) และการใช้ปืนฉีดน้ำอย่างผิดกฎหมายกับเรือ PCG”

นั่นคือแถลงการณ์ของ PCG ใน Facebook ทางการที่ปรากฏทันทีที่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์

วันต่อมาวอชิงตัน พันธมิตรหลักของฟิลิปปินส์ออกมาประณามการกระทำของจีนและย้ำว่าจะปฏิบัติตามพันธกรณีในสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันกับฟิลิปปินส์

 

“สหรัฐฯ ยืนยันอีกครั้งว่าการโจมตีด้วยอาวุธต่อเรือสาธารณะ เครื่องบิน และกองกำลังติดอาวุธของฟิลิปปินส์ รวมถึงหน่วยยามฝั่งในทะเลจีนใต้ จะถือเป็นการกระตุ้นให้เราต้องพิจารณาพันธสัญญาด้านการป้องกันร่วมกันของสหรัฐฯ ภายใต้มาตรา IV ของสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันของสหรัฐฯ ในปี 1951” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ Matthew Miller กล่าวในแถลงการณ์

ตามมาด้วยออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเยอรมนีที่เรียกการกระทำของจีนว่า “อันตราย” และ “บั่นทอนเสถียรภาพ”

สถานทูตแคนาดาในกรุงมะนิลา  “ขอประณามการกระทำที่เป็นอันตรายและยั่วยุของหน่วยยามฝั่งจีน”

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ออกข่าวเกือบจะทันทีเช่นกันว่า รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งบันทึกการร้องเรียนทางการทูต “พร้อมภาพและวิดีโอเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น” ไปยังเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมะนิลา

ในขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์และกองกำลังติดอาวุธได้จัดแถลงข่าวร่วมกันประณามสิ่งที่เรียกว่า "การปฏิบัติที่อันตรายและผิดกฎหมาย" ของจีนในการใช้วิธียิงน้ำแรงดันสูงเข้าใส่เรือที่ลำเล็กกว่าของตน

โดยย้ำว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ "ชีวิตของลูกเรือชาวฟิลิปปินส์ตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ”

พอมีข่าวเรื่องนี้ก็ต้องย้อนไปดูข้อพิพาทอันยาวนานระหว่างสองประเทศนี้เพราะทะเลจีนใต้เป็นสาเหตุแห่งความตึงเครียดระหว่างมะนิลาและปักกิ่งมาช้านาน

 

ปักกิ่งอ้างสิทธิ์ใน “อำนาจอธิปไตยที่ไม่อาจมีใครโต้แย้งได้” เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ขนาด 1.3 ล้านตารางไมล์ ตลอดจนเกาะส่วนใหญ่ในย่านนั้น...รวมถึงเกาะแก่งที่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของจีนหลายร้อยไมล์

รวมถึงหมู่เกาะสแปรตลีย์ซึ่งปักกิ่งเรียกว่า Nansha “นันชา” ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 100 เกาะ และแนวปะการังยังถูกอ้างสิทธิทับซ้อนทั้งหมดหรือบางส่วนโดยฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน

แต่ฟิลลิปปินส์เรียกบริเวณนี้ว่า “ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก”

ในปี 1999 กองทัพฟิลิปปินส์ส่งเรือขนส่งของกองทัพเรือ BRP Sierra Madre ไปประจำการที่สันดอน Second Thomas Shoal ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของนาวิกโยธินฟิลิปปินส์

เพื่อยืนยันสิทธิ์ของตนเหนือพื้นที่นี้

 

คำกล่าวอ้างของมะนิลาได้รับการสนับสนุนจากศาลอนุญาโตตุลาการถาวรระหว่างประเทศในกรุงเฮก ซึ่งตัดสินในปี 2016 ว่าจีนไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายในการอ้างสิทธิ์ในประวัติศาสตร์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้

แต่ปักกิ่งเพิกเฉยต่อคำตัดสินนั้น อ้างว่าจีนไม่รับรองอำนาจของศาลแห่งนี้

หากฟังเสียงจากจีนเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ก็จะเชื่อไปอีกทางหนึ่ง

“เรือเสบียงของฟิลิปปินส์ 2 ลำและเรือยามฝั่ง 2 ลำล่วงล้ำเข้าไปในน่านน้ำที่อยู่ติดกับแนวปะการังเหรินอ้ายในหมู่เกาะ Nansha ของจีนอย่างผิดกฎหมาย” โฆษกของ China Co ยืนยัน

จีนเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์ย้ายเรือรบออกจากแนวแห่งนี้

   

จีนวิจารณ์ฟิลิปปินส์ว่าไม่สนใจข้อเสนอจากจีนให้มีการเจรจาซ้ำแล้วซ้ำเล่าของจีน

จีนขอให้ฟิลิปปินส์หยุดนำวัสดุก่อสร้างใส่เรือรบที่ "จอดอยู่" และหยุดบุกรุกน่านน้ำรอบแนวปะการังแห่งนี้

นอกจากนี้ จีนยังเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์ถอดเรือรบออก และเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดการแทรกแซงและหว่านความบาดหมางกัน

จีนอ้างว่าได้พยายามดำเนินการด้วย “ความอดกลั้น” โดยใช้เพียงปืนฉีดน้ำเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองและหลีกเลี่ยงการปะทะกันโดยตรง

ปักกิ่งเตือนฟิลิปปินส์ว่าการระดมซากเรืออับปางให้เป็นฐานถาวรตรงจุดนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ

พร้อมเตือนว่ามะนิลาควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินตามหลังสหรัฐฯ ในการดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นเพื่อยกระดับความตึงเครียด

(พรุ่งนี้: มองความขัดแย้งจากมุมปักกิ่ง)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ