'สายลมแห่งการเปลี่ยนไป'

ตามหลัก "กลศาสตร์ควอนตัม" 

ก้าวไกลก็แค่สสาร "เล็กที่สุด-น้อยที่สุด" ในอะตอมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่ดูเหมือนใหญ่

นั่นมันแค่รูปทรงตามวัตถุอาศัย คือ ปฏิบัติการไอโอรูปแบบต่างๆ ทั้งปั่นแฮชแท็ก ปั่นเฟกนิวส์ ปั่นทวิตเตอร์ ปั่นเฟซ ปั่นม็อบ

ดังนั้น จริงที่เป็นจริง

ก้าวไกลไม่อยู่ในฐานะจะมาเป็นรัฐบาลได้แต่ไหน-แต่ไรแล้ว

ที่ดูเหมือนจะ ก็เพียงทึกทักกันไปตามรูปทรงปั่นเท่านั้น

แล้วเมื่อวาน (๒ ส.ค.๖๖) เพื่อไทยก็พิสูจน์ให้เห็นความจริงข้อนี้ โดยเปลี่ยนการประสานมือกับก้าวไกล

จากรูป "หัวใจ" หวานแหวว

เป็นรูป "มะเหงก" วาบหวิว!

พร้อมแถลงการณ์ "ถอนหมั้น" ขอไปเลือกคู่ใหม่ตั้งรัฐบาลตามหัวใจกระซิบ โดยขอออกจากพันธสัญญา MOU ๘ พรรค

เหตุผลที่เพื่อไทยถอนหมั้่น เพราะก้าวไกลยืนยันจะคงนโยบาย "ยกเลิก/แก้ไขมาตรา ๑๑๒" ไม่เปลี่ยนแปลง

เพื่อไทยบอก เช่นนี้ก็คงไปด้วยกันต่อไม่ได้ เพราะจะไม่ผ่านทั้ง สส.-ทั้ง สว.ในรัฐสภา!

"ชลน่าน ศรีแก้ว" อ่านแถลงการณ์ตอนหนึ่งว่า

"........ในสถานการณ์เช่นนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ปรึกษาหารือกับพรรคก้าวไกล ขอถอนตัวจากการร่วมมือกันและ

เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่

เสนอชื่อ "นายเศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี"

เรื่องแรกที่เพื่อไทยจะทำทันทีเมื่อเป็นรัฐบาล  ๒ ข้อ คือ

-ประชุม ครม.ครั้งแรกปั๊บ จะลงมติปุ๊บ

ให้ประกาศวาระแห่งชาติ ทำประชามติ ตั้ง ส.ส.ร. "เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่"

ประกาศใช้แล้ว จะยุบสภาให้มีเลือกตั้งใหม่ทันที

-รัฐบาลเพื่อไทยจะนำนโยบายก้าวไกลมาทำต่อ ทั้งเรื่อง กฎหมายสมรสเท่าเทียม, สุราก้าวหน้า

ปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ-กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม, ยกเลิกเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ

ผลักดันการกระจายอำนาจ ทั้งแง่ภารกิจและงบประมาณ ยกเลิกผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม และ ฯลฯ

นี่....ในความแถลงการณ์ก็ประมาณนี้

ส่วนก้าวไกล "นายชัยธวัช ตุลาธน" เลขาฯ พรรคก็แถลงว่า ตกลงถอนหมั้น สะบั้น MOU ๘ พรรค กันด้วยดี

แต่ ชัยธวัชบอก....

"ทั้งนี้ ในการพูดคุยกันกับพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีการขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาถอยเรื่องการเสนอมาตรา ๑๑๒

และตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีการเจรจากันเรื่องนี้

 พรรคเพื่อไทยให้เหตุผลว่า พรรคการเมืองเกือบทั้งหมดที่พรรคเพื่อไทยไปพูดคุย ไม่ต้องการให้พรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะมีเรื่อง ม.๑๑๒ หรือไม่ก็ตาม"

เอาละ ไหนจริง-ไหนเท็จ ยกประโยชน์ให้คู่ความ

สรุป ก้าวไกล ต้องเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ งั้นหรือ?

ก็ไม่รู้ซีนะ ได้ยินนักข่าวถาม ก้าวไกลจะไปอยู่ในสถานะใด ชัยธวัชก็ตอบว่า

"พรรคก้าวไกลจะทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่อย่างดีที่สุด"

คือไม่เป็นทั้งฝ่ายค้าน ไม่ได้เป็นทั้งฝ่ายรัฐบาล แต่จะเป็นฝ่ายขวางคลอง (รอจังหวะ "ขยิบตา" เสียบ?)

ก็ดี พรรคเทวดา จุติมาจากดาวโจรบ้าง ดาวกาลีบ้าง ดาวหยำฉ่าบ้าง ก็ต้องอยู่ส่วนเทวดา จะส้องเสพ-ส้องสุมกับพรรคมนุษย์ ไม่คู่ควรกัน

ก็สรุปเรื่องพอให้เข้าใจ จากนี้ เป็นทีผมคุย (โม้) บ้างละ

แล้วจะมีพรรคไหนร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยบ้างล่ะ?

ล้านเปอร์เซ็นต์ตอนนี้มี ๑ พรรค คือ

"พรรคประชาชาติ" ของท่านประธานรัฐสภา "นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา"

ส่วนพรรคอื่นๆ ไม่ต้องกระแด่วรู้ไปหรอก ยังไงๆ วันนี้ ๓ สิงหา.เพื่อไทยก็ต้องแจงหน้าไพ่อยู่ดี ว่ามีพรรคไหนบ้าง

เพราะพรุ่งนี้ ๔ สิงหา.ต้องประชุมรัฐสภา เสนอชื่อนายเศรษฐาให้สมาชิกรัฐสภาโหวตเป็นนายกฯ กันแล้ว!

เพื่อไทยมีต้นทุน ๑๔๑ เสียง

จะได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ก็ต้องหาพรรคร่วมให้ได้เสียงมากกว่า ๒๕๐ เสียงขึ้นไปก่อน

ไม่ต้องไปสีฟข่าวที่ไหนหรอก มองด้วยตาก็พอรู้ ไม่หนี ภูมิใจไทย ๗๑ เสียง พลังประชารัฐ ๔๐ เสียง ชาติไทยพัฒนา ๑๐ เสียง ประชาชาติ ๙ เสียง ชาติพัฒนากล้า ๒ เสียง

แค่นี้ ก็ปาเข้าไปตั้ง ๒๗๓ เสียง เหลือเฟือ

ถ้า สว.เชื่อถือสัจจะเพื่อไทย ไม่ระแวงในตัวนายเศรษฐาว่า "วันนี้" กับ "วันหน้า" ที่พูดจาจะไม่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีน

สว.น่าจะโหวตให้ เลยป้าย  ๓๗๖ เสียงด้วยซ้ำ!

แล้ววันที่ ๑๐ สิงหา. คณะรัฐบาลเพื่อไทย ก็ตื่นกันแต่เช้าๆ ไปตั้งแถวรอรับ "หัวหน้าคอก" ที่จะบินมาลงที่ดอนเมือง

จาก "ฮ่องกง" ไป "ห้องกรง"!

ผมอ่านแถลงการณ์เพื่อไทย ดูท่าที-สีหน้าก้าวไกล ผมว่าเรื่องนี้ เป็นรายการ "พบเพื่อจาก-พรากเพื่อรวม" มากกว่า "ที่เพื่อไทย-ก้าวไกล" จะไม่เป็น "แดงอมส้ม"

แล้วจะไปรวมกันที่ไหน?

ก็ที่คนจะตั้งเป็น ส.ส.ร.และการ "เขียนรัฐธรรมนูญ" ฉบับใหม่นั่นแหละ เพราะเป้าหมายที่ไปสู่ "จุดหมายร่วมกัน" มันก็อยู่ตรงนั้น

รัฐบาลเพื่อไทย ไม่ยกเลิก/ไม่แก้ไขมาตรา ๑๑๒ เองแน่ เพราะนั่น แค่กฎหมายลูก

แต่ ส.ส.ร.ที่เพื่อไทยตั้งตะหาก จะเป็นผู้เขียนกฎหมายแม่ คือ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ

นั่นคือ ใครจะรับประกันได้

ว่า "หมวด ๑ หมวด ๒" ว่าด้วยราชอาณาจักรไทยและพระมหากษัตริย์ จะไม่ถูกรื้อเขียนใหม่เป็นอย่างอื่น

และจะยังคงอยู่ในหมวด "ความมั่นคง" หรือย้ายไปอยู่ในหมวดอื่น เช่น ไปอยู่ในหมวดสิทธิเสรีภาพ ซึ่งในแถลงการณ์เพื่อไทย ไม่พูดถึง

ตรงจุดนี้....

จะเป็นจุดทำให้พระมหากษัตริย์ไปอยู่ในสภาพเดียวกับประชาชนทั่วไป ใครหยามหมิ่นอย่างใดก็ได้ แค่โทษปรับแถมยอมความกันได้ด้วย

ทั้งให้พระมหากษัตริย์ต้องลงมาเป็น "คู่ความ" โดยตรงกับคู่กรณี ต้องฟ้องร้องเอง หรือ  "สำนักพระราชวัง" เท่านั้น มีสิทธิแจ้งความแทนพระมหากษัตริย์

ทั้งประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ก็จะแบ่งแยกได้ ตามมุ่งหมายซ่อนเร้นผ่านการปฏิรูประบบราชการ

การให้ "เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด" นั่นคือ ปฐมบทนำสู่การ "แยกอำนาจ-แยกแผ่นดิน" ในขั้นตอนต่อๆ ไป

ทั้งจะเปลี่ยนการปกครองจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เป็นเหลือแต่คำว่า "ระบอบประชาธิปไตย" ก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะมีหน่อแนวในทางพยายามให้เกิดขึ้นมาตลอดจากก้าวไกล ที่มีเพื่อไทยกลมกลืนในแนวทาง เห็นได้จากเวทีสัมมนาร่วมหลายๆ แห่ง

เหล่านี้ เป็นเพียง "ข้อวิตก" ของผมเท่านั้น

หากแต่เห็นแถลงการณ์เพื่อไทย นำนโยบายหลักก้าวไกลมาประกาศเป็นนโยบายเพื่อไทยจะทำเมื่อเป็นรัฐบาล นั่นมันมีเหตุผลที่ผมต้องวิตก!

เพราะ ในคำว่าปฏิรูปกองทัพ มันไม่แค่ยกเลิกเกณฑ์ทหารเพื่อเอาใจวัยรุ่น เท่านั้น

หากแต่มันยังหมายรวมถึงการยุบ กอ.รมน., ยุบ ศอ.บต.ภาคใต้ ยุบกองบัญชาการทหารสูงสุด

ย้ายหน่วยทหารออกจากกรุงเทพฯ ทั้งหมด  และใช้เรือประมงแทนเรือรบ ตามนโยบายก้าวไกล

รวมทั้งการลดสถานะพระมหากษัตริย์ให้ลงมาอยู่เท่ากับประชาชน และการทำหมันกองทัพให้มีสภาพเป็นตุ๊ด-เป็นแต๋ว

เหล่านี้ คือ เส้นทางนำไปสู่การ "ล่มชาติ-ล้มสถาบัน" ตามแผนที่มันเป็นอยู่และกำลังพยายามทำกันอยู่ชัดๆ!

วันนี้ ๓ สิงหา. ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตอบว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งมาตีความ กรณีเสนอพิธาที่ตกไปแล้วให้นำมาเสนอโหวตใหม่ได้หรือไม่?

ส่วนพรุ่งนี้ ๔ สิงหา. เพื่อไทยบอกแล้ว เสนอนายเศรษฐาให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตเป็นนายกฯ

เห็นว่าจะเปิดให้แสดงวิสัยทัศน์และให้สมาชิกซักถามข้อข้องใจก่อนโหวต

สว.หรือ สส.ช่วยซักถามประเด็นนี้ด้วยก็ดี

ว่าที่เพื่อไทยยกนโยบายก้าวไกลมาปฏิบัติ หมายถึงอะไร?

และรัฐธรรมนูญที่จะเขียนใหม่ จะให้เชื่อได้อย่างไร ว่าจะไม่มีเนื้อหานำไทยจากราชอาณาจักรไปเป็นสาธารณรัฐ

จะไม่เปลี่ยนเนื้อหา "หมวด ๑ หมวด ๒" และย้ายออกไปจากหมวดความมั่นคง?

การเมืองวันนี้ เท่าที่ดู หนักไปทาง "รับปาก" ไปก่อน

คือ วันนี้...ไม่ แต่จะเชื่อได้อย่างไร ....

ว่าพรุ่งนี้ จะไม่กลับไปเป็น "ใช่" ตามลายเดิม?

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สาวะถี "เทวดาเหนือคุก"

ชั่วโมงนี้.... คนอยากเห็นหน้า "คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง" ว่าที่ "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ" คนใหม่ มีไม่เท่าไหร่

๑๗ ปี 'นาทีทอง' มาถึง

๑๑ พฤศจิกา.เรียกให้เท่แบบฝรั่งว่า 11.11 ลืมกันหรือเปล่าว่า "วันนี้เรามีนัดกัน?" ความจริงก็ไม่ใช่ "เรา"

ไทยยุค 'เสน่หาพาโกง'

ถ้าบอกว่า "อเมริกากับไทย" เป็นฝาแฝดกัน ใครก็อย่าต้องสงสัย เพราะมัน "ใช่" อยู่แล้ว! เพียงแต่ "แฝดอยู่คนละซีกโลก" เท่านั้น ไทยอยู่ซีกตะวันออก ส่วนอเมริกาอยู่ซีกตะวันตก