เมื่อคิม จอง อึนโชว์อาวุธทำลายล้าง ต่อหน้าอาคันตุกะจากมอสโก, ปักกิ่ง

คิม จอง อึนแห่งเกาหลีเหนือแสดงบทเจ้าภาพให้รัสเซียและจีนได้อย่างตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว ในโอกาสฉลองครบ 70 ปีของการสงบศึกระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้

ด้วยการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของเกาหลีเหนืออย่างครึกโครม

ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเห็นการที่ให้รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียเซอร์เกย์ ชอยกูได้เห็นกับตาว่าเปียงยางสามารถสร้างขีปนาวุธที่มีพลังทำลายอย่างรุนแรงที่ทันสมัย

และที่สำคัญคือเป็นอาวุธ “ต้องห้าม” ตามคำสั่งของสหประชาชาติด้วย

เมื่อระดับนำของรัสเซียและจีนมาร่วมเป็นสักขีพยานในการนำแสดงอาวุธทันสมัยเหล่านี้ ก็ย่อมแปลว่าเป็นการให้ท้ายคิม จอง อึนให้เดินหน้าพัฒนาอาวุธร้ายแรงต่อ

อีกทั้งยังอาจจะส่งสัญญาณด้วยว่าให้ยิงขีปนาวุธที่ทำให้ชาวบ้านตกอกตกใจต่อไปเรื่อย ๆ

ไม่ว่าสหรัฐฯหรือเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะออกมาต่อต้านและโวยวายเพียงใดก็ไม่ต้องสนใจ

อาคันตุกะจากมอสโกและปักกิ่งไม่ธรรมดา

นอกจากรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียชอยกูแล้ว คณะผู้แทนจีนก็นำโดยหลี่ หงจงซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

การมาเยือนของรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียครั้งนี้ถือเป็นกรณีพิเศษจริง ๆ

เพราะเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีกลาโหมจากมอสโกมาเยือนเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 1991 หรือปีที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย

ขีปนาวุธนิวเคลียร์ถูกแบนภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

เป็นมติที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียและจีนด้วย

แต่สัปดาห์ที่ผ่านมา คิมจัดงานใหญ่ พร้อมฉากหลังที่สะท้อนถึงการสร้างแสนยานุภาพทางทหารที่ร้อนแรง

ตัวแทนระดับสูงจากรัสเซียและจีนนั่งชมการแสดงอาวุธที่ถูกสหประชาชาติห้ามหน้าตาเฉย

ตอกย้ำถึงการผนึกกำลังกับจีนและรัสเซียในการยืนหยักต้านด้วยกันอย่างแข็งจัน

ที่นิวยอร์ก สเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกของสหประชาชาติกล่าวว่าในขณะที่องค์กรระดับโลกไม่สามารถวิเคราะห์สิ่งที่แสดงได้ทันที "สมาชิกทุกคนของคณะมนตรีความมั่นคงและรัฐสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติมีความรับผิดชอบเดียวกันในการสนับสนุนมติของคณะมนตรีความมั่นคง "

สำหรับเกาหลีเหนือ การมาเยี่ยมเยือนของคณะผู้แทนจากสองประเทศพันธมิตรอันแนบแน่นถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ครั้งสำคัญครั้งแรกนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19

สื่อเกาหลีเหนือกล่าวว่า คิม จอง อึน "ได้แสดงจุดยืนอันแน่วแน่เกี่ยวกับประเด็นความกังวลร่วมกันในการปกป้องอธิปไตย การพัฒนา และผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศจากการปฏิบัติโดยพลการระดับสูงและตามอำเภอใจของพวกจักรวรรดินิยม และเพื่อตระหนักถึงความยุติธรรมและสันติภาพระหว่างประเทศ "

น่าสังเกตว่าในรายงานข่าวชิ้นนี้สำนักข่าว KCNA ทางการของเปียงยางไม่ได้อ้างถึงสงครามในยูเครน

แต่อ้างคำพูดของรัฐมนตรีกลาโหมคัง ซุน นัมว่าเกาหลีเหนือสนับสนุน "การต่อสู้เพื่อความยุติธรรม" ของรัสเซียและการปกป้องอธิปไตยของรัสเซียอย่างเต็มที่

ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือการที่รัฐมนตรีชอยกูมอบจดหมายจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียให้คิมเพื่อรับทราบการสนับสนุนที่ว่านี้อย่างเป็นทางการด้วย

"การสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากเกาหลีเหนือต่อปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน (และ) ความเป็นปึกแผ่นกับรัสเซียในประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญยิ่งตอกย้ำความสนใจร่วมกันของเราและความมุ่งมั่นที่จะต่อต้านนโยบายของกลุ่มตะวันตก ซึ่งขัดขวางการจัดตั้งกลุ่มหลายขั้วอย่างแท้จริง ระเบียบโลก”

นี่เป็นบางส่วนของรายงานของสำนักข่าว RIA ของรัสเซีย

ภาพถ่ายหลายชุดที่นำเสนอผ่านสื่อทางการแสดงให้เห็นถึงคิมจอง อึนและอาคันตุกะคนสำคัญกำลังจับตาดูขีปนาวุธในเครื่องยิงลำเลียงหลายเพลา

ภาพอีกชุดแสดงให้เห็นอาวุธที่เชื่อกันว่าเป็นโดรนตัวใหม่

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคิมต้องการใช้โอกาสนี้อวดศักยภาพด้านนิวเคลียร์ต่อบุคคลสำคัญระดับสูงจากต่างประเทศจากรัสเซียและจีนอย่างเต็มภาคภูมิ

และน่าสังเกตว่าการที่รัฐมนตรีชอยกูเต็มใจที่จะถ่ายรูปกับคิมในสถานการณ์เช่นนี้ย่อมเป็นหลักฐานว่ามอสโกพึงพอใจกับการปรับปรุงนิวเคลียร์ให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ

และไม่มีอาการตะขิดตะขวางใจที่ต้องมายืนอยู่ตรงหน้าอาวุธที่สหประชาชาติสั่งห้าม

คิมยังแยกพบกับหลี่ หงจง สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพื่อการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

และรับมอบจดหมายจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนด้วยเช่นกัน

ภาพถ่ายของสื่อทางการแสดงให้เห็นคิมในการแสดงอาวุธชุดใหญ่อย่างเต็มพิกัด โดยมีชอยกูและหลี่ขนาบข้าง

มีฉากหลังเป็นสโลแกนสงครามเกาหลี-กองทัพจีนที่ประกาศว่าจะ "ต่อต้านผู้รุกรานสหรัฐฯ"

เกาหลีเหนือจัดสวนสนามทางทหารในตอนกลางคืนซึ่งเป็นงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์รุ่นล่าสุด

บริษัท Umbra ซึ่งเป็นบริษัทเรดาร์ดาวเทียมซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ได้ช่วยเผยแพร่รูปภาพของที่ศึกษาแล้วอาจเป็นขีปนาวุธเคลื่อนที่ในขบวนพาเหรดที่จัตุรัส Kim Il Sung ในกรุงเปียงยาง

ภาพที่ถ่ายด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ต้องการแสงและเห็นได้ชัดแม้จะมีเมฆปกคลุมหนาทึบแสดงให้เห็นระบบไอเอสที่จัดเรียงตามลำดับ ซึ่งน่าจะยาวที่สุดของเกาหลีเหนือ

เวแดนท์ พาเทล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า วอชิงตัน “กังวลอย่างยิ่ง” เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกและเปียงยาง

"การสนับสนุนของรัสเซียสำหรับโครงการอาวุธที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ - โดยการปิดกั้นการดำเนินการเพิ่มเติมที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ, โดยการเข้าร่วมในเหตุการณ์ในกรุงเปียงยางเพื่อเฉลิมฉลองอาวุธเหล่านี้, โดยความล้มเหลวในการปราบปรามกิจกรรมการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของเกาหลีเหนือ – ทั้งหมดนี้เน้นให้เห็นถึงอันตรายของบทบาทของมอสโก”

วอชิงตันอ้างว่าเกาหลีเหนือได้จัดส่งอาวุธรวมถึงจรวดทหารราบและขีปนาวุธไปยังรัสเซียเพื่อใช้ในยูเครน

แต่ทั้งเกาหลีเหนือและรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทำธุรกรรมด้านอาวุธด้วยกัน

นักวิเคราะห์ตะวันตกเชื่อว่าที่รัสเซียให้ความสนใจกับงานปีนี้เป็นพิเศษถึงขั้นส่งระดับรัฐมนตรีกลาโหมนำทีมมาก็คงหวังว่าจะได้ความช่วยเหลือด้านอาวุธเพิ่มจากเปียงยางเพื่อทำสงครามในยูเครน

บางคนบอกว่าการเยือนพร้อมกันของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากปักกิ่งและมอสโกครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณของการคืนชีพของกลุ่มพันธมิตรรัสเซีย-จีน-เกาหลีเหนือ ซึ่งแต่เดิมมีขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1940 และ 1950

แม้ว่าขณะนี้จะมีแนวโน้มว่าปักกิ่งจะเป็นผู้นำพันธมิตรนี้มากกว่ามอสโก

(พรุ่งนี้: สหรัฐฯบอกให้จีนเตือนเกาหลีเหนือ...แต่ปักกิ่งไม่สนใจ)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ