สังคมที่ไม่มีผู้ชนะ...มีแต่แพ้ไปด้วยกันทุกฝ่าย!!!

พระพยอม หรืออาจารย์ พยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว อันถือเป็น พระ ที่น่าจะกราบได้ ไหว้ได้ ด้วยความสนิทใจอีกรูปหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงการทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ในการสั่งสอน เทศนา ให้ผู้คนในสังคม เข้าถึง-เข้าใจ ต่อแก่นสาระของพระพุทธศาสนามาโดยตลอด แต่เห็นว่า...วัน-สองวันที่ผ่านมา ด้วยเหตุเพราะเพียงแค่เอ่ยปากชม กิริยา อาการของหัวหน้าพรรค ก้าวไกล คุณหลาน ทิม พิธา หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพียงเท่านั้นก็ต้องเจอกับ ทัวร์ลง ชนิดทั้งที่เป็นพระ-เป็นเจ้าแท้ๆ

โดยทัวร์ที่มาลงคราวนี้...คงไม่ใช่ทัวร์ของ ด้อมส้ม ส่วนจะเรียกว่า ด้อมน้ำเงิน หรือด้อมอะไรก็แล้วแต่จะว่ากันไป

คือเพียงแค่เอ่ยปากว่า... (พิธา) มีคุณสมบัติความเป็นผู้นำสูง คนแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ขณะถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เขากลับทักทายร่ำลา โบกมือ คุมอารมณ์ได้ดีมาก ไม่มีอาการสั่นเครือ หรือร่ำไห้ออกมา” อันเป็นสิ่งที่ พระพยอม ท่านให้คำอธิบายถึงที่มา-ที่ไปในการออกปากเช่นนี้ เอาไว้ว่า... “คำว่าชมนี้ ไม่ได้บอกว่าพรรคนี้เก่ง ชมเฉพาะพฤติกรรมบางตอน เช่น ตอนที่โดนหนัก แต่ยังไม่แสดงอาการสะอึกสะอื้น น้ำตาไม่คลอ เสียงไม่สั่น อย่างนี้เขาเรียกคนเก็บอารมณ์ก็ต้องชม แต่คนบางคนเก็บไม่อยู่เลย ปี๊ดแตกตะพึดตะพือ...แบบนั้นก็ไม่ชมอยู่แล้ว” 

และ “หลักสำคัญอยู่ที่ว่า...อาตมานี้อยู่ในจังหวัดนนทบุรี แล้วคนจังหวัดนนทบุรี เขาก็ให้คะแนนคุณพิธา ยกทั้งจังหวัดเลย ไม่เหลือสักคนเดียว ส.ส.พรรคอื่นไม่ได้เลย แล้วเราอยู่บ้านเดียวกัน จังหวัดเดียวกัน จะมีความเห็นขัดแย้งไปเพื่ออะไร อาตมาชมนิด ชมหน่อย จะเป็นอะไรไป แต่ถ้าไปตำหนิสิ จะอยู่ร่วมกันในจังหวัดยาก คนจังหวัดนนท์เขาเทให้แล้ว แล้วเราจะไปท้วงไปติง ไปตำหนิติเตียน แล้วมันจะอยู่ร่วมบ้านร่วมเมืองกันได้อย่างไร เพราะฉะนั้นคนเมืองนนท์เราไม่ต้องการให้มาขัดแย้งกัน ถ้าไปตำหนิหรือว่าคุณพิธาเยอะๆ แล้ว คงไม่ต้องฉันข้าว คงต้องฉันหญ้าแทน เพราะฉะนั้นจึงอยากจะบอกว่า ไม่ว่าใครจะไปร้อง จะฟ้องก็ไปเถอะ...”

อันนี้ต้องเรียกว่า ฟังแล้ว...น่าเห็นใจพระเดช พระคุณเจ้าเป็นอย่างยิ่ง คือแค่ชมนิด ชมหน่อย มันไม่น่าจะถึงกับคอขาด บาดตาย หรือไม่น่าจะเป็น-จะตายอะไรกันมากมาย ไม่ใช่แต่แค่เฉพาะ พระ ขนาดลดระดับลงมาเหลือแค่ นักเลง ยังคงต้องสรุปว่า ขอกันกิน...ยังมากกว่านี้ แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุที่ สังคมไทย ยุคนี้-สมัยนี้ หัวจิต-หัวใจ มันชักหดแคบใกล้ๆ ขนาดอวัยวะเพศมดยิ่งเข้าไปทุกที แถมยังแทบไม่เหลืออะไร กลางๆ ไม่เหลือความเป็น มัชฌิมาปฏิปทา ติดปลายนวมเอาไว้เลยก็ว่าได้ มีแต่ต้องหันไป สุดโต่ง ไม่ว่าในด้านหนึ่ง-ด้านใด ชนิดใครก็ตามที่ไม่ได้ สวิง ไปตามความชอบ ความชัง ของแต่ละด้าน เลยเป็นอันต้องเจอกับ ทัวร์ลง โดยบรรดารถทัวร์ รถกระบะ รถซาเล้ง ฯลฯ ของแต่ละฝ่ายไปตามสภาพ

ภายใต้ลักษณะอาการเช่นนี้นี่เอง...ที่ต้องถือเป็น อันตราย เอามากๆ!!! เพราะโอกาสนำไปสู่ โศกนาฏกรรม ชนิดเผลอๆ อาจหนักซะยิ่งกว่า โศกนาฏกรรม 6 ตุลาคม 2519 เอาเลยก็เป็นได้ โดยเฉพาะถ้าฝ่ายหนึ่งมีอยู่ 14 ล้านคน 14 ล้านเสียง ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมีอยู่ 30-40 ล้านคน 30-40 ล้านเสียง แนวโน้มที่สังคมทั้งสังคม มีแต่ต้อง ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ โดยเฉพาะถ้าวันใด-วันหนึ่ง ที่แรงเหวี่ยง แรงสวิง มันก่อให้เกิด แรงปะทะ อุบัติขึ้นมาจริงๆ อันมีแต่นำไปสู่ ความพ่ายแพ้ ไปด้วยกันทุกฝ่าย หรือนำไปสู่ภาวะที่ไม่มีฝ่ายใด-ฝ่ายหนึ่งได้รับ ชัยชนะ เอาเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุเพราะสังคมทั้งสังคมนั่นแหละ...หนีไม่พ้นต้อง ล่มสลาย ไปตามความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาท ริษยาและชิงชัง ระหว่างกันและกัน อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้เลย

แต่คงไม่ใช่เฉพาะ สังคมไทย เท่านั้น...ว่าไปแล้ว อาจต้องเรียกว่า สังคมโลก แทบจะทั่วทั้งโลกนั่นแหละ ที่ตกอยู่ภายใต้ลักษณะอาการที่ว่า จน พระพยอม ท่านอดปรารภ รำพึง ขึ้นมาไม่ได้ว่า... "หลวงพ่อท่านพุทธทาส...เคยพูดไว้ไม่มีผิดเลย ต่อไปโลกจะวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี ซึ่งจะนำไปสู่ความวินาศทางศีลธรรม ตอนนี้ก็ชัดแล้ว...ด่ากันทางติ๊กต๊อก ด่ากันทางโซเชียล อาตมาไม่คิดเลยว่าเขามีอาชีพด่าคนแล้วได้สตางค์ นี่มันยุคอะไรกันแน่!!!” หรือสรุปสุดท้าย...ไม่ว่าสังคมโลก หรือสังคมไทยก็ตาม ดูๆ แล้ว...ต่างกำลังไหลเลื่อนเข้าสู่ภาวะที่อภิมหาพระ ท่านพุทธทาสภิกขุ อาจารย์ของ พระพยอม ท่านได้พูดแล้ว พูดอีก เตือนแล้ว เตือนอีก เอาไว้นั่นแหละว่า... “ศีลธรรมไม่กลับมา...โลกาย่อมวินาศ” นั่นแล!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พระผู้เป็นเจ้า'กับ'กรรมดี-กรรมชั่ว'

ถ้าหากยังไม่ถึง จังหวะ และ โอกาส ที่เหมาะ-ที่ควร...ในอันที่จะทำให้ เพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป ความพยายามที่จะเคี่ยวเข็ญ-บังคับ-ขับไส

สีกากีไม่มีแผ่ว

วลี "สีกากีไม่มีแผ่ว" ดูจะไม่เกินจริงนัก ศึก "นายพล" ยังคงคุกรุ่นพร้อมจะลุกโชนตลอดเวลา "นายพัน-นายร้อย" ก็ไม่น้อยหน้า คำสั่งเด้งเข้ากรุแทบจะออกมาเป็นรายวัน

ทำไม่ดีก็ยังไม่ได้...ผลที่ได้เลยยังไม่ดี

การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่ถูกอกถูกใจคนจำนวนมาก เริ่มต้นตั้งแต่การกำหนดวิธีเลือกที่หลายคนติดตามแล้วรู้สึกสับสน เข้าใจยาก

การปะทะทางอารยธรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้

ด้วยเหตุเพราะ อ่านหนังสือหมดบ้าน จนแทบไม่เหลืออะไรให้อ่านอีกต่อไปแล้ว!!!...เลยต้องหันไปคว้าเอา พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ท่านทูตวัฒนธรรมอิหร่าน

รักในอาชีพตำรวจ

หลังนายกฯ เศรษฐา สะบัดปากกาส่ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กลับคืน "กรมปทุมวัน" ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะ