หลากหลายเรื่องอื้อฉาวการเมือง ระดับสูงสะเทือนทั้งเกาะสิงคโปร์

เรื่องอื้อฉาวกำลังกระทบชื่อเสียง “ความสะอาดสะอ้าน” ทางการเมืองของสิงคโปร์ครั้งใหญ่

เรียกว่าเป็นเรื่องร้อนที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วเกาะกันเลยทีเดียว

เพียงในช่วงสัปดาห์เศษ ๆ ก็มีเรื่องฉาวที่โยงถึงความประพฤติมิชอบทั้งด้านคอร์รัปชั่นและผิดศีลธรรม

เริ่มด้วยการสั่งจับรัฐมนตรีคมนาคมกับมหาเศรษฐีชื่อดังคนสนิท

ตามมาด้วยการเปิดเผยว่าประธานสภาฯและ ส.ส. หญิงต้องยื่นใบลาออกเพราะมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว

วันต่อมาก็มี ส.ส. พรรคฝ่ายค้านคู่หนึ่งต้องยื่นลาออกเพราะความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน

ทำให้เกิดคำถามขึ้นทันที่ว่ามาตรฐานแห่งธรรมาภิบาลของสิงคโปร์ที่เคยได้รับการกล่าวขวัญว่ามีความโดดเด่นจนได้รับความชื่นชมระดับโลกนั้นกำลังสั่นคลอนอย่างแรงหรือไม่

เรื่องเสียหายที่มาเป็นชุด ๆ อย่างนี้ทำให้เกิดคำถามว่าฐานะอำนาจทางการเมืองจะถูกบั่นทอนมากน้อยเพียงใด

หรืออาจจะกระทบต่อเสียงสนับสนุนของประชาชนต่อพรรค People’s Action Party หรือ PAP (พรรคกิจประชาชน) ที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 1959 หรือตลอดเวลา 64 ปีที่ผ่านมาอย่างไร

มิหนำซ้ำยังจะเกิดความกังขาว่าเมื่อเกิดเรื่องทำนองนี้แล้วนายกรัฐมนตรีหลี่ เสียนหลงจะสามารถส่งมอบตำแหน่งผู้นำให้กับทายาททางการเมืองได้ตามกรอบเวลาที่กำหนดได้หรือไม่

สัปดาห์ก่อนประธานรัฐสภา ตัน ฉวน-จิน วัย 54 ปี และสมาชิกสภานิติบัญญัติ เฉิง ลี่ฮุย วัย 47 ปี ต้องประกาศลาออกจากพรรคและสมาชิกสภานิติบัญญัติอย่างกระทันหัน

โดยข่าวทางการแจ้งว่าสาเหตุที่ต้องจากลาอย่างฉับพลันนั้นมาจาก "ความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม"

ตัน ชวนจินแต่งงานแล้ว มีลูกสอง

ส่วนเฉิง ลี่ฮุยแจ้งในประวัติทางการว่ายังเป็นโสด

หลังจากนั้นเพียงวันเดียวสมาชิกระดับแนวหน้า 2 คนของพรรคแรงงาน (WP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของสิงคโปร์ก็ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง

เหตุผลคือ “ความสัมพันธ์นอกสมรส” 

สส. ฝ่ายค้านชื่อลีออน เปเรรา วัย 53 ปี – หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 9 คนของพรรคในสภานิติบัญญัติ 93 ที่นั่ง

สส. หญิงที่โยงกับเรื่องนี้คือนิโคล เซียวัย 36 ปี

เธอมีตำแหน่งเป็นประธานปีกรุ่นเยาว์ของพรรคที่มีประวัติการทำงานด้านนี้ที่โดดเด่น

ทั้งสองต้องลาออกหลังจากมีวิดีโอปรากฏทางออนไลน์ซึ่งแสดงให้เห็นพฤติกรรมที่ “สนิทสนมกันเป็นพิเศษ”

ทั้งคู่แต่งงานแล้วและมีลูกสองคนทั้งคู่

เรื่องเสียหายร้ายแรงในสภาเกิดขึ้นเกือบจะต่อเนื่องจากอีกคดีหนึ่งที่ร้อนแรงไม่น้อยไปกว่ากัน

เพราะเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ป.ป.ช. หรือหน่วยงานเฝ้าระวังการต่อต้านการทุจริตของสิงคโปร์จับกุม เอส อิสวาราน รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และอ่อง เบง เส็ง นักธุรกิจโรงแรมพันล้านด้วยข้อหาที่มีข้อสงสัยว่ามีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ

ทั้งสองคนมีบทบาทสำคัญในการนำ Grand Prix มาสู่สิงคโปร์เมื่อปี 2008

ชาวสิงคโปร์ได้รับแจ้งข่าวด้วยความตกตะลึงพอสมควรว่านายอิสวารานถูกขอให้หยุดทำหน้าที่รัฐมนตรีระหว่างการสอบสวน

รองนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่อง บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า การสอบสวนการทุจริตจะดำเนินไปอย่าง "เต็มที่ ทั่วถึง และเป็นอิสระ" และจะไม่มีการซุกไว้ใต้พรม

ไม่มีรายละเอียดว่าทั้งสองคนมีการกระทำที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับคอร์รัปชั่นอย่างไร

แต่เห็นชัดว่าเป็นการร่วมมือระหว่างรัฐมนตรีและนักธุรกิจระดับชาติที่เกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ทางธุรกิจที่พัวพันกับการใช้อำนาจในหน้าที่ค่อนข้างชัดเจจ

เท่านั้นยังไม่พอ กรณีของรัฐมนตรีกับพ่อค้าคู่นี้มีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีอาวุโสอีก 2 คนถูกสอบกรณีเช่าบังกะโลในยุคอาณานิคมในย่านหรูในราคาต่ำกว่าตลาด

แม้ว่าผลการสอบสวนจะไม่พบความผิดของรัฐมนตรีมหาดไทยเค ชานมากามและรัฐมนตรีต่างประเทศวิเวียน บาลากริสนันก็ตาม แต่กรณีกลับจุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติและความโปร่งใสของการเมืองสิงคโปร์ขึ้นมาอีกวาระหนึ่ง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา พรรค PAP ได้ชูความสะอาดบริสุทธิ์ในการบริหารประเทศโดยอ้างมาตรฐานทางศีลธรรมอันสูงส่งของนักการเมืองของฝั่งรัฐบาล

และยังยืนยันว่าระบอบการปกครองแบบสิงคโปร์สามารถทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า, ร่ำรวย, มีระเบียบแบบแผน, สงบเรียบร้อยและปราศจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการบริหารและศีลธรรม

แต่พอเกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นก็เท่ากับเป็นการทำลายภาพลักษณ์เดิมต่อหน้าต่อตากันเลยทีเดียว

นายกฯหลี่ เสียนหลงออกแถลงข่าวและตอบคำถามด้วยการยืนยันว่าจะลงโทษผู้กระทำผิดอย่างรุนแรงและตรงไปตรงมา

และยังสำทับว่าเมื่อรัฐบาลเอาจริงกับเรื่องไม่ชอบมาพากลเหล่านี้อย่างโปร่งใสก็เท่ากับเป็นการยืนยันว่า "ระบบของเรามีประสิทธิภาพ สามารถจับสิ่งที่ผิดจากกรอบได้อย่างทันท่วงที"

และย้ำว่า “มาตรฐานระดับสูงของความเหมาะสมและความประพฤติส่วนบุคคล… เป็นเหตุผลพื้นฐานที่ชาวสิงคโปร์ไว้วางใจและเคารพพรรค PAP”

แต่นักวิจารณ์ก็มองว่ามีอะไรที่ซ่อนอยู่ใต้พรมมากกว่านี้หรือไม่

 

ที่ผ่านมา ผู้นำทางการเมืองสิงคโปร์ยังไม่ยอมให้มีกฎหมายที่กำหนดให้ต้องเปิดเผยรายได้และทรัพย์สินต่อสาธารณะโดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิด

ที่ผ่านมาสิงคโปร์ติดอันดับที่ 5 ของประเทศที่มีการทุจริตน้อยที่สุดในดัชนีการรับรู้การทุจริตล่าสุดของ Transparency International

รัฐบาลสิงคโปร์ยืนยันมาตลอดว่าวิธีหนึ่งที่ป้องกันพฤติกรรมฉ้อราษฎร์บังหลวงนั้นก็คือนโยบายการจ่ายเงินเดือนคนระดับรัฐมนตรีด้วยตัวเลข 7 หลัก

แต่นักวิเคราะห์มองว่าเพราะพรรคการเมืองเดียวครองอำนาจมายาวนานตลอด จึงเป็นเรื่องยากที่จะใช้กลไกของการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม

เหตุการณ์ล่าสุดยังทำให้เกิดข้อสงสัยว่านายกฯหลี่จะส่งมอบตำแหน่งให้กับทายาททางการเมืองได้เมื่อใด

ปีนี้ หลี่อายุ 71 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2004 หรืออยู่ในอำนาจมาเกือบ 20 ปีแล้ว

ได้มีการวางตัวนายกฯใหม่แล้วคือรองนายกฯ และรัฐมนตรีคลัง ลอเรนซ์ หว่อง

แต่เมื่อเกิดเรื่องอื้อฉาวที่สั่นคลอนสถานภาพทางการเมืองของรัฐบาลรุนแรงเช่นนี้ จึงเกิดคำถามว่าจะมีการปรับไทม์ไลน์ของการส่งมอบอำนาจต่อไปอย่างไรหรือไม่

ล่าสุด เซียเคียนเป็งได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานรัฐสภาคนใหม่ของสิงคโปร์

เซียได้รับการเสนอชื่อในที่ประชุมรัฐสภาครั้งต่อไปในเดือนสิงหาคม หลังจากการลาออกของ ตัน ฉวน-ตินชวนติน

ก่อนหน้านี้เซียเคยถูกมองว่าเป็นตัวเก็งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

แต่วันนี้นายกฯหลี่ต้องให้แน่ใจว่าคนที่จะมานั่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องมีประวัติที่ขาวสะอาดพอที่จะฟื้นคืนความเชื่อถือของพรรคในสายตาประชาชนให้จงได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ