'วอกเกิลคืออะไรวะ?'

พวกเราต้องยอมรับกันว่า ในตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ประเทศไทยของเราหยุดชะงักเกือบทุกเรื่อง เพื่อตามการเมืองไม่ว่าจะนั่งซีกไหน ความนิยมจะอยู่ซ้าย ขวา หรือกลาง ทุกสี ติดตามเรื่องราวการเลือกนายกรัฐมนตรี

แน่นอนครับ ผู้ผิดหวังจะต้องแสดงความไม่พอใจ และแสดงความโกรธที่คนของเขาไปไม่ถึงดวงดาว อันนี้ผมเข้าใจและไม่ว่ากัน แต่ซีกที่ “ขวาง” อย่าออกหน้าฉลองการขวางขนาดนี้ครับ เป็นดุลพินิจและอำนาจของวุฒิสมาชิกจริงที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้เป็นอำนาจที่น่าภูมิใจหรือสง่างามขนาดนั้นครับ

พวกคุณ “ขวาง” คนแรก ผมเข้าใจเหตุผลและหลักการ เพราะกรณีคุณพิธาเอาปัญหาส่วนตัวที่ไม่ได้จัดการเรื่องหุ้นตัวเองมาเป็นปัญหาประเทศ แต่ถ้าพวกคุณเล่นใช้อำนาจ “ขวาง” เพื่อได้คนที่คุณสบายใจให้เป็นผู้นำประเทศนั้น ผมคนหนึ่งล่ะจะไม่ “ทน”

เอาเถอะ ขอออกจากวังวนการเมืองสักนิดหนึ่ง ขอเล่าเรื่องเบาๆ ที่ออกไร้สาระ แต่เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเช้าวันศุกร์ ในวันที่ผมตั้งใจเขียนคอลัมน์ ซึ่งผมเตรียมประเด็นอื่นจะเขียนในใจอยู่แล้ว แต่มีเหตุต้องเปลี่ยนเรื่องครับ

เล่าที่มาก่อนครับ ที่โรงเรียนลูกผม มีตารางวันไหนใส่ชุดอะไรไปโรงเรียน บางวันจะเป็นชุดนักเรียน บางวันจะเป็นชุดพละ และส่วนใหญ่วันศุกร์จะเป็นชุดไปรเวต (อันนี้เป็นเรื่องที่ผมสงสัยว่าใครเป็นคนแรกที่เรียกชุดไปรเวตครับ?) ในแต่ละเดือนศุกร์สุดท้ายจะเป็นวันที่เด็กๆ ใส่ชุดลูกเสือ ในการประกาศให้ผู้ปกครอง เขาจะเขียนว่า “แจ้งท่านผู้ปกครองครับ วันศุกร์ที่ 21 นี้ เด็กๆ ใส่ชุดลูกเสือนะครับ โดยใส่กับชุดพละ มีหมวก ผ้าพันคอ และวอกเกิล….ขอบคุณครับ”

อย่าหาว่าผมเป็นอย่างงั้นอย่างงี้เลยครับ จะบอกว่าผมเป็นเด็กนอก จะบอกว่าผมเป็นเด็กวานซืน จะบอกว่าผมมีปัญญาน้อย ว่าไปเลยครับ แต่ให้ตายเถอะ ผมไม่รู้เลยว่าวอกเกิลคืออะไร (!!!) ผมพยายามทับศัพท์ในใจ เพราะดูยังไงๆ วอกเกิลไม่ใช่ศัพท์ภาษาไทยแน่ๆ ผมก็เลยพยายามคิดว่า คำไหนจะใกล้เคียงกับคำว่า วอกเกิล ผมเลยคิดถึงคำว่า Walker คำแรก ซึ่งไม่น่าใช่ครับ เพราะ Walker ในความเข้าใจผมคือ วอล์กเกอร์ที่เป็นอุปกรณ์ช่วยเดิน ที่เรามักเห็นผู้สูงอายุใช้กัน หรือเห็นคนไข้ในโรงพยาบาลตอนกายภาพบำบัด

แต่สำหรับลูกเสือโรงเรียนลูกผมนั้น วอกเกิลคงไม่ใช่วอล์กเกอร์แน่ๆ ก็เลยยืนงงต่อไป ยังคิดต่อว่า ถ้าไม่ใช่ Walker แล้วจะเป็นคำว่าอะไร เลยเสิร์ชหาตามกูเกิลว่า “วอกเกิล” ผมบอกได้เลยว่าผมตกใจที่ขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราวเลย เลยเข้าใจว่าส่วนที่เป็นทองๆ ที่ไว้ผูกผ้าพันคอนั้น เรียกว่าวอกเกิล เพราะผมไม่เคยรู้ว่าในส่วนที่เป็นทองๆ นั้นมีชื่อเรียก เพราะผมเรียก “that thing” มาตลอด แล้วถ้าพูดไทย ผมก็เรียก “ไอ้ทองๆ นั้น”

สิ่งที่แฟนคอลัมน์ต้องเข้าใจคือ ครั้งสุดท้ายที่ผมเรียนลูกเสือนั้น ผมอายุเท่ากับลูกชายผม (6 ขวบ) และการเรียนลูกเสือที่อเมริกาต้องเริ่มจาก Cub Scouts ถึงจะขึ้นมาเป็น Boy Scouts แล้วเป็นการสมัครใจ ไม่ไช่บังคับครับ ผมยอมรับว่าช่วงแรกที่เรียน Cub Scouts มันก็สนุกไปอีกแบบ แต่พอเขาพาออกไป Camping กลางป่า ผมไม่เอาอีกแล้ว ดังนั้นผมจะไม่คุ้นเคยกับลูกเสือเลย แล้วตอนผมกลับมาอยู่เมืองไทย โรงเรียนของผมไม่มี (โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี)

ดังนั้นตั้งแต่ผมเกิดมา ไม่เคยได้ยินคำว่า วอกเกิล และสิ่งที่ขำหลังจากที่เสิร์ชกูเกิลหาคำนี้ มีกระทู้ถามว่า วอกเกิล สะกดยังไงกันแน่ เพราะมีทั้ง วอกเกิ้ล วอกเกิล ว้อกเกิ้ล วอคเกิ้ล ไม่ว่าจะสะกดแบบไหนก็ตาม ความหมายเหมือนกันคือ That Thing ที่ไว้ผูกผ้าพันคอสำหรับลูกเสือ เลยต้องถามกูเกิลต่อ “วอกเกิล ภาษาอังกฤษคืออะไร” ปรากฏว่า วอกเกิลคือ Woggle ครับ

ยิ่งแล้วใหญ่ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยได้ยินคำว่า Woggle มาก่อนเลย….จนถึงวันนี้…. และเพราะผมเป็นผม ครั้งแรกที่เห็นคำว่า Woggle ผมพูดออกมาทันทีว่า “Why the hell is it called a woggle, wah?” เพราะตอนแรกพอเห็นเป็นคำว่า วอกเกิล ผมนึกว่าเป็นชื่อหรือนามสกุล Walken ซึ่งถ้าผมเห็นเป็น Walken ผมก็สงสัยว่า Walken คือใครอยู่ดีครับ ผมเลยต้องอาศัยองค์ความรู้ของกูเกิลให้ความกระจ่างชัดเรื่องที่มาที่ไปของคำว่า Woggle และสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเราคือสังคมประชาธิปไตย และมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด ผมต้องกระจาย ความรู้ใหม่ (ของผม) นี้ให้กับทุกๆ คน

ถ้าย้อนเวลากลับไปยุคแรกๆ ของการมีลูกเสือในประเทศอังกฤษนั้น ผ้าพันคอของลูกเสือจะมีการผูกให้เป็นมัด เหมือนเวลาเราผูกผ้าพันคอทั่วไป ปัญหาอยู่ที่ว่า เวลาเด็กจะผูกผ้าพันคอจะผูกหลวมเลยหลุดบ่อย ไม่งั้นจะผูกแน่นเกินจนหายใจไม่ออก ในขณะเดียวกัน ลูกเสือในสหรัฐอเมริกาพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการเอาอุปกรณ์มาผูกมัดตัวผ้าพันคอไม่ให้หลุด ซึ่งทำมาจากกระดูก ทำมาจากเชือก หรือทำมาจากไม้ แต่ในที่สุด สิ่งที่ฝ่ายอเมริกาพยายามทำมันไม่ทน และเด็กๆ ไม่ชอบ (ผมหมายถึงสิ่งที่จะทำให้ผ้าพันคออยู่นะครับ ไม่ใช่การเมืองไทย)

พอได้ข่าวว่าในสหรัฐพยายามทำอะไร Scoutmaster คนหนึ่งชื่อ Bill Shankley แห่ง Gilwell Park เอาไปต่อยอดสิ่งที่ฝ่ายอเมริกาพยายามทำ ทาง Shankley ได้ประกอบอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง ทำมาจากหนัง และเย็บด้วยเส้นไหมที่ แข็งแกร่งพอ จะทำให้ผ้าพันคออยู่กับที่ เขาเลยเสนอให้กับผู้ใหญ่ของเขาทั้งระดับ Camp Chief และเสนอต่อไปที่ Chief Scout ซึ่งทั้งหมดเห็นชอบกับสิ่งที่ Shankley สร้างขึ้นมา

ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงตั้งชื่อว่า Woggle เป็นเพราะสิ่งที่ฝ่ายสหรัฐทำขึ้นมาจากกระดูก ไม้กับเชือกนั้น เขาตั้งชื่อว่า “Bone Doggles” ทาง Shankley เลยอยากเล่นคำ และตั้งชื่อให้สอดคล้องกัน Doggles เลยตั้งชื่อว่า Woggle เลยทำให้คำว่า Woggle ปรากฏครั้งแรกในวารสาร The Scout เมื่อวันที่ 9 June ค.ศ.1923 (100 ปีที่แล้วครับ) อย่างเป็นทางการ และในแวดวงของโลกลูกเสือเป็นคำที่ทุกคนรู้จัก

ไม่ว่าจะเป็น Woggle วอกเกิ้ล วอกเกิล ว้อกเกิ้ล หรือวอคเกิ้ล ผมรู้อย่างเดียวว่า ทุกคนในโลกนี้คงรู้จักคำนี้หมด…ยกเว้นผม…แต่ผมภูมิใจว่า ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นมา ผมมีความรู้เท่าคนอื่นๆ ทั่วโลกแล้วครับ

วันนี้ถือว่าเป็นเรื่องเบาๆ ละกันครับ เอาไว้พักใจ พักกาย และพักสมอง จากเรื่องการเมืองที่ทุกฝ่ายจะเอาชนะให้ได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กินฮอตดอกไหมครับ?

กินฮอตดอกไหมครับ? ขอแจ้งครับ ถ้าแฟนคอลัมน์ท่านใดอยากอ่านบทความที่มีเนื้อหาสาระ ที่มีประเด็น ที่สมศักดิ์ศรี มาตรฐานหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์นั้น

รื้อฟื้นความทรงจำเรื่อง Wikileaks

ในที่สุด หลังใช้เวลา 14 ปีในการติดคุกในอังกฤษบ้าง ลี้ภัยในสถานทูตเอกวาดอร์บ้าง นาย Julian Assange ได้เดินทางกลับบ้าน (ออสเตรเลีย) ในฐานะ Free Man ครับ

ที่มาของ Presidential Debates

ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ถือว่าเป็นการริเริ่มฤดูกาลหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในสหรัฐอเมริกาครับ เพราะในวันนั้นจะเป็นการ Debate

Thank you, Jerry West….the Logo

อีกไม่กี่วันข้างหน้า โลก (ในไทย) น่าจะหยุดหมุนชั่วคราว เรื่องชี้ชะตาอนาคตอดีตนายกฯ นายกฯ ปัจจุบัน และพรรคที่น่าจะมีว่าที่นายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

Donald Trump ยังเป็นผู้สมัครได้ไหม?

เมื่อสัปดาห์ก่อน ข่าวที่โด่งดังทั่วโลกไม่ใช่ข่าวน้องไนซ์เชื่อมจิตนะครับ ถึงแม้สังคมไทยจะติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจังก็ตาม ผมเชื่อว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีเรื่องอื่นเข้ามาแทน

ทำไม Pride Month ต้องมีทุกมิถุนายน?

ขออนุญาตสวมหมวกคนขี้บ่นนิดหนึ่งครับ ในฐานะบ้านอยู่เมืองทองธานี เวลาบอกใครว่าอยู่เมืองทองฯ ส่วนใหญ่เขาจะพูดว่า “โห…ไกลจัง!!”