คุณค่าของความเงียบ-สงบ-สติและสมาธิ

ช่วงเช้าๆ...ขณะที่อุณหภูมิอากาศไม่ถึงกับร้อนมากมายซักเท่าไหร่ อาจด้วยเหตุเพราะฝนฟ้าท่านซัดสาดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน บนระเบียงกำแพงหนาๆ มี นกเขา 3 ตัว เกาะกลุ่มนอนหมอบใกล้ชิด ติดกัน ชนิดหัว-หางแทบเกยกันและกัน แถมหลับตาพริ้มซะอีกด้วยต่างหาก ทำให้อดตื่นตะลึง ต้องนั่งจ้อง นั่งมอง ด้วยความดื่มด่ำ ซาบซึ้ง ประทับใจ เป็นอย่างยิ่ง

อาจด้วยเหตุเพราะภาพนกเขาที่ออกมากระโดดโลดเต้นช่วงเช้าๆ-สายๆ เดินกระต้วมกระเตี้ยม หาเศษอาหาร คุ้ยๆ เขี่ยๆ ไปตามถนนสายเล็กๆ บินโลด บินถลา เกาะเสาไฟ สายไฟ ไม่ก็จิกตีกันไป-มา ขันคุกคู จุ๊กกรู สนั่นหวั่นไหว เป็นภาพที่มักปรากฏให้เห็นแบบชินตา 

ชินความรู้สึก มานานแล้ว ดังนั้น...ภาพของนกเขา 3 ตัวที่เกาะกลุ่มหมอบนิ่งอยู่บนระเบียงกำแพง หลับสนิทนิทราคล้ายๆ กำลังมีความสุขเสียเหลือเกิน เลยทำให้อดจ้อง อดมอง อดคิดคำนึงต่างๆ นานา ขึ้นมามิได้

จะด้วยเหตุทำนองนี้หรือไม่? อย่างไร? ก็มิอาจสรุปได้...ที่ทำให้ พระเซ็น ในญี่ปุ่นเมื่อครั้งอดีต ท่านเคยเอ่ยถึง กิริยา อาการบางอย่าง บางประการ ที่ฟังแล้วออกจะ มึนซ์ซ์ซ์ๆ-งงง์ง์ง์ๆ อยู่พอสมควร นั่นคือการนั่งฟัง นอนฟัง เสียงหินงอก ในช่วงค่ำคืนอันเงียบสงัด ช่วงที่ไม่มีอะไรวูบๆ วาบๆ แวบเข้ามาใน สติ-สมาธิ จนนำไปสู่อาการที่เรียกว่า ซาโตริ เอาง่ายๆ!!! ทั้งๆ ที่ก้อนหิน ดิน ทราย อะไรต่อมิอะไรทั้งหลาย มันไม่น่าจะมีชีวิต ชีวาใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย ไม่น่างอกได้ โตได้ แต่พวกพระญี่ปุ่นท่านยังอุตส่าห์ ได้ยิน ด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่จะไปคิดๆ เอาเองก็แล้วกัน

เหตุที่ไปหยิบเอาเรื่องแปลกๆ เพ้อๆ ละเมอๆ ทำนองนี้ มาพูดจาวากล่าวเอาไว้ ณ ที่นี้...ก็คงไม่มีอะไรมากมายหรอกทั่น เพียงแต่อาจด้วยเหตุเพราะช่วงวันพุธที่แล้ว (19 พ.ค.) ดันไปนั่งฟัง นอนฟัง การถกเถียง อภิปราย โต้คารมคมคายของพวก นักการเมือง ในรัฐสภา ตั้งแต่เช้าไปยันบ่าย จนแทบผล็อยหลับคาเก้าอี้ หรือจนกระทั่งอดรน ทนไม่ไหว ต้องแอบไปงีบ แอบไปนอน ค่อยตื่นขึ้นมาตรวจสอบ ตื่นขึ้นมาประเมินสถานการณ์กันอีกรอบ แต่ครั้นตื่นขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว...ไม่ว่าผลสรุปออกมาในแนวไหน แบบไหน ตามที่ใครต่อใครรู้ๆ กันไปหมดแล้ว แต่ก็ยังอดรู้สึกเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ปวดประสาท ขึ้นมามิได้ โดยเฉพาะหลังจากที่ลองมุดเข้าไปสำรวจ ตรวจสอบ เช็กข่าว อ่านข่าว ใน โลกเสมือนจริง

คืออะไรมันจะแตกซ่าน แตกระส่ำระสาย ย่อยแยก แตกกระจาย แทบไม่เหลืออะไรเป็นชิ้น เป็นอัน เท่านี้ ย่อมไม่มีอีกแล้ว แต่ละคน แต่ละราย แต่ละฝ่าย ฯลฯ ต่างก็ ตัวกู-ของกู ไปด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง หรือต่างเต็มไปด้วย อัตตา ในแบบฉบับของใคร-ของมันไปตามสภาพ อะไรถูก-อะไรผิด อะไรดี-อะไรชั่ว อะไรชอบธรรม-ไม่ชอบธรรม ฯลฯ แทบหาข้อสรุป ข้อยุติใดๆ แทบไม่ได้ ด้วยความเป็นไปในลักษณะเช่นนี้นี่เอง เลยทำให้ภาพ นกเขา 3 ตัว ขณะนอนนิ่ง นอนหมอบ อยู่บนกำแพง หรือคำพูด คำจา ของพระญี่ปุ่น ว่าด้วยการนั่งฟัง นอนฟัง เสียงหินงอก ในช่วงดึกดื่นค่ำคืน มันเลยแวบเข้ามาในสมอง ซึมซาบเข้าไปในความรู้สึก-นึกคิด ขึ้นมาจนได้

เพราะอันที่จริงแล้ว การหัดนิ่งๆ-เงียบๆ เอาไว้มั่ง ไม่น่าจะถึงกับต้องเป็น-ต้องตายอะไรกันมากมาย แถมเผลอๆ ยังกลายเป็นกรรมวิธี เป็นมรรควิธี ที่บรรดาผู้นำทางจิตวิญญาณทั้งหลาย ท่านเคยใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหา สัจธรรม หรือ ความจริงสูงสุด ที่อยู่เหนือไปจาก ความจริงสัมพัทธ์ อันเป็นแค่ มายาภาพ ชั่วครั้ง-ชั่วคราวเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะพระมหาวีระแห่งศาสนาเชน หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฯลฯ ของหมู่เฮาก็แล้วแต่ เพราะท่ามกลางความเงียบ นอกจากมันจะนำมาซึ่งความสงบ มันยังช่วยให้เกิด สติ-สมาธิ-และปัญญา ตามมาอย่างเป็นระลอก

ด้วยคุณค่า ราคา อันยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ของสิ่งที่เรียกว่าความ เงียบ ความ สงบ ไปจนถึงความมี สติ และ สมาธิ ที่แฝงฝังอยู่ใน จิตวิญญาณ ความเป็นมนุษย์นี่เอง ย่อมช่วยให้เกิดขีดความสามารถในอันที่จะนำไปสู่ข้อสรุป ข้อยุติใดๆ ก็ย่อมได้ โดยเฉพาะเมื่อถูกยกระดับ พัฒนา ถึงขั้น...เหนือไปกว่าความถูก-ความผิด ความดี-ความชั่ว ความชอบธรรม-ไม่ชอบธรรม ฯลฯ ซึ่งมักถูก ปรุงแต่ง ไปตาม อารมณ์-ความรู้สึก ของใคร-ของมัน จนเกิดการปฏิสัมพัทธ์-ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างสรรพสิ่งทั้งหลาย ให้ต้องไหลไปตามกระแส ตาม กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ อันว่าด้วย ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ดังนั้น...ท่ามกลางความสับสน ระส่ำระสาย ความเข้มข้นใน อัตตา แต่ละคน แต่ละราย ที่แผ่ซ่านครอบคลุมไปทั่วโลกเสมือนจริง โอกาสที่ สันติภาพ-สันติธรรม อันมีความเงียบ สงบ สะอาด สว่าง เป็นพื้นฐาน จะอุบัติขึ้นมาได้อย่างเป็นจริง-เป็นจัง มันเลยค่อนข้างยากส์ส์ส์ที่จะเป็นไปได้ ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พระผู้เป็นเจ้า'กับ'กรรมดี-กรรมชั่ว'

ถ้าหากยังไม่ถึง จังหวะ และ โอกาส ที่เหมาะ-ที่ควร...ในอันที่จะทำให้ เพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป ความพยายามที่จะเคี่ยวเข็ญ-บังคับ-ขับไส

สีกากีไม่มีแผ่ว

วลี "สีกากีไม่มีแผ่ว" ดูจะไม่เกินจริงนัก ศึก "นายพล" ยังคงคุกรุ่นพร้อมจะลุกโชนตลอดเวลา "นายพัน-นายร้อย" ก็ไม่น้อยหน้า คำสั่งเด้งเข้ากรุแทบจะออกมาเป็นรายวัน

ทำไม่ดีก็ยังไม่ได้...ผลที่ได้เลยยังไม่ดี

การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่ถูกอกถูกใจคนจำนวนมาก เริ่มต้นตั้งแต่การกำหนดวิธีเลือกที่หลายคนติดตามแล้วรู้สึกสับสน เข้าใจยาก

การปะทะทางอารยธรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้

ด้วยเหตุเพราะ อ่านหนังสือหมดบ้าน จนแทบไม่เหลืออะไรให้อ่านอีกต่อไปแล้ว!!!...เลยต้องหันไปคว้าเอา พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ท่านทูตวัฒนธรรมอิหร่าน

รักในอาชีพตำรวจ

หลังนายกฯ เศรษฐา สะบัดปากกาส่ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กลับคืน "กรมปทุมวัน" ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะ