ฉิน กัง, รมว.ต่างประเทศจีน, หายไปไหน?

กลายเป็นประเด็นคาดเดากันไปต่างๆ    นานา เมื่อรัฐมนตรีคนสำคัญของจีนคนนี้ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นเวลากว่า 3   สัปดาห์แล้ว

การขาดงานนานผิดปกติในช่วงกิจกรรมทางการทูตที่แสนคึกคักในกรุงปักกิ่ง ก่อให้เกิดการคาดเดาอย่างกว้างขวาง

ฉิน กัง วัย 57 ปี นักการทูตอาชีพและมือทำงานด้านต่างประเทศของสี จิ้นผิง ผู้นำจีน   ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในเดือนธันวาคม หลังจากดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ ได้ไม่นาน

 ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ ฉินออกมาซัดวอชิงตันอย่างเผ็ดร้อนหลังความสัมพันธ์ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่หลังอันสืบเนื่องจากเหตุบอลลูนสายลับจีนต้องสงสัยที่ถูกยิงตกเหนือสหรัฐฯ

นอกจากนี้ เขายังมีบทบาทสำคัญในความพยายามที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและฟื้นฟูการสื่อสาร

รวมถึงการพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลินเกน ระหว่างการเยือนปักกิ่งเมื่อกลางเดือนมิถุนายน

 แต่นักการทูตที่มีชื่อเสียงระดับสูงคนนี้ไม่ได้ถูกพบเห็นในที่สาธารณะเลยตั้งแต่วันที่  25 มิถุนายน หลังจากที่เขาพบกับเจ้าหน้าที่จากศรีลังกา เวียดนาม และรัสเซีย ในกรุงปักกิ่ง

ในการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งสุดท้าย ฉิน กัง ที่ยิ้มแย้มเดินเคียงข้างกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย อันเดรย์ รูเดนโก ซึ่งบินไปปักกิ่งเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ของจีนหลังจากการจลาจลโดยกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ในรัสเซียในช่วงสั้นๆ

ในช่วงที่หายหน้าไป 26 วัน ฉิน กัง พลาดงานสำคัญหลายงาน เช่น การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกับกลุ่มอาเซียนในกรุงจาการ์ตาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

กระทรวงต่างประเทศจีนระบุในถ้อยแถลงว่า เขาไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้เนื่องจาก "เหตุผลด้านสุขภาพ”

ที่ข่าวนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะฉิน กัง เป็นมือขวาคนสำคัญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

ฉิน กัง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนในเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว

เขาเกิดที่เทียนจิน รับหน้าที่ต่อจากหวัง อี้  นักการทูตระดับแนวหน้าที่เป็นผู้มีบทบาทด้านการทูตของจีนมาตั้งแต่ปี 2013

ก่อนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ  ฉิน กัง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกาในปี 2021

เขารับตำแหน่งนี้ที่วอชิงตัน 17 เดือนทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้น ทูตฉุย เทียนไข่ อยู่ในตำแหน่งนั้นยาวนานถึง 8 ปี

กัง ฉิน เป็นนักการทูตอาชีพ ไต่เต้าขึ้นจากหลายตำแหน่งในกระทรวงต่างประเทศของจีน

ที่ทำให้เขาเป็นที่สนใจของคนทั่วไป ก็คงตอนที่ทำหน้าที่โฆษกกระทรวงระหว่างปี  2005-2014

และที่เห็นว่าเขาสนิทสนมกับท่านผู้นำเป็นพิเศษ ก็ตอนที่เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่พิธีสารระหว่างปี 2014-2018

ความโดดเด่นของฉิน กัง เริ่มเห็นได้ชัดเมื่อทำหน้าที่เป็นโฆษกกระทรวงต่างประเทศ

เพราะวาทะอันเผ็ดร้อนของเขาในการตอบโต้ข้อกล่าวหาจากตะวันตกต่อจีนในหลายๆ โอกาส

ได้ชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในนักการทูตจีนรุ่นแรกๆ ที่แสดงความคิดเห็นอย่างเฉียบขาดเพื่อปกป้องนโยบายต่างประเทศที่กล้าแสดงออกมากขึ้นของจีน

จนมีสมญาว่าเป็นทีม "นักการทูตหมาป่า"

สะท้อนถึงวิธีการและภาษาอันรุนแรงและแข็งขันในการเผชิญหน้ากับโลกตะวันตก

ในปี 2020 ฉิน กัง ประกาศว่าภาพลักษณ์ของจีนในโลกตะวันตกเสื่อมโทรมลง เพราะชาวยุโรปและอเมริกา โดยเฉพาะสื่อ ไม่เคยยอมรับระบบการเมืองและการเติบใหญ่ทางเศรษฐกิจของจีน

ระหว่างการแถลงข่าวนอกรอบการประชุมรัฐสภาประจำปีในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ ฉิน กัง ออกมาพูดปกป้อง "การทูตนักรบหมาป่า" อีกครั้ง

“เมื่อหมาจิ้งจอกและหมาป่าขวางทาง และหมาป่าที่หิวโหยกำลังโจมตีเรา นักการทูตจีนจะต้องเต้นรำกับหมาป่า ปกป้องและปกป้องบ้านและประเทศของเรา” เขาเปรียบเปรยอย่างเจ็บแสบ

ที่น่าสนใจคือ แม้ด้วยภาษาทางการเขาจะแสดงมีจุดยืนที่เข้มข้น แต่ในอีกด้านหนึ่งนักการทูตอาชีพคนนี้ยังมีบทบาทสำคัญในความพยายามของจีนและสหรัฐฯ ในการสร้างเสถียรภาพและแก้ไขสภาวะของความสัมพันธ์ที่เย็นชา

ฉิน กัง บอกว่าเขามีความเต็มใจที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในการแก้ปัญหาของสองมหาอำนาจ

ตอนเดินทางถึงกรุงวอชิงตันในเดือนกรกฎาคมสองปีก่อนนี้ หลังจากช่วงที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และจีน เขายืนยันว่าปักกิ่งและวอชิงตันต้องพยายามแสวงหา   "โอกาสและศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเพื่อประโยชน์ร่วมกัน"

ฉิน กัง เดิมมีนัดหมายพบกับโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปในกรุงปักกิ่งในวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา

แต่พอถึงวันที่ 5 กรกฎาคม ก็มีคำประกาศจากสหภาพยุโรปว่าฝ่ายจีนได้ขอยกเลิกการเยือนของบอร์เรลล์

โดยไม่ได้มีการแจ้งถึงเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร

“การหายตัว” ไปนานผิดปกติของคนระดับนี้ของจีนไม่ใช่เรื่องธรรมดา

ดูเหมือนสื่อแรกๆ ที่จับประเด็นนี้คือสื่อออนไลน์ของสหรัฐฯ ไปเว็บไซต์ข่าวการเมืองของสหรัฐฯ Politico

ความจริง หากเป็นเรื่องการป่วยไข้จริง ก็ไม่น่าจะยากเย็นที่ทางการจีนจะอธิบายสาเหตุที่รัฐมนตรีต่างประเทศไม่อาจจะทำภารกิจปกติได้

แต่กรณีของฉิน กัง มีความไม่ปกติตรงที่คำตอบจากฝ่ายต่างๆ ในจีนค่อนข้างคลุมเครือ

และพอหวัง อี้ ซึ่งเป็นเจ้านายของฉิน กัง ในฐานะเป็นผู้อำนวยการใหญ่ด้านต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์ต้องมาออกงานแทนเขา ก็ทำให้ความสงสัยคลางแคลงยิ่งจะขยายวงออกไปอีก

นักวิเคราะห์บางสำนักมองว่าที่มีข่าวลืออย่างนี้ ก็เพราะการขาดความโปร่งใสในระบบการเมืองของจีน

ในช่วงที่มีคำถามมากมายเกี่ยวกับสถานภาพทางการเมืองของรัฐมนตรีต่างประเทศ ก็มีข่าวลือที่ไม่มีใครยืนยันหรือปฏิเสธในโซเชียลมีเดีย

หนึ่งในข่าวลือที่แชร์กัน รวมถึงการคาดเดาความสัมพันธ์กับ Fu Xiaotian นักข่าวทีวีจาก Phoenix Television ของทางการจีน

ฝูเคยสัมภาษณ์ฉิน กัง ในรายการ Talk with World Leaders ของ Phoenix TV ในเดือนมีนาคม 2022

ในทวีตแรกของเธอในรอบ 9 เดือน เธอขึ้นภาพถ่ายของเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวในลอสแองเจลิส และภาพถ่ายลูกคนเล็กของเธอ

ตามโปรไฟล์ของฉิน กัง บนเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศของจีน เขาแต่งงานแล้วและมีลูกชายหนึ่งคน

ยิ่งคลุมเครือนานเท่าไหร่ ความลือความปล่อยก็จะยิ่งรุนแรงและลามไปกว้างไกลแค่นั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ