"ปกป้องสถาบัน"

ในช่วงที่พรรคอันดับหนึ่ง ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ และเงื่อนไขก็อาจตกมาเป็นพรรคอันดับสอง จัดตั้งรัฐบาลแทน  

  พรรคใหม่ที่อาจมีสิทธิ์เข้าไปร่วมรัฐบาลสูตรสองแรก คือ  พรรคตัวตรึง อย่าง "ภูมิใจไทย" ที่ ส.ส.จำนวน 71 เสียง   ที่สามารถตรึงสถานการณ์ไว้ได้ มิให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาฯล่าง  และตัวแปร กำหนดให้ฝ่ายต่างๆได้มีโอกาสลุ้นเก้าอี้นายกฯ  หรือลุ้นเปลี่ยนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี    

ภายใต้เงื่อนไข ที่จะได้มือ ส.ส. 71 เสียง  คือไม่ร่วมกับพรรคการเมือง หรือยังอุ้มพรรคการเมือง ที่แก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 

นอกจากเป็นพรรคตัวตรึงแล้ว ในพรรคคนเลือดน้ำเงิน  ยังมีส.ส.ตัวตึงอย่าง  “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รองหัวหน้าพรรคและ ส.ส.อุทัยธานี  ที่ออกอภิปรายในสภาฯปกป้องสถาบันอย่างกล้าหาญในการโหวตนายกฯครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ค.  

กระทั่งได้รับเสียงเชียร์จากชาวไทยอย่างมากมาย    ในขณะเดียวกันก็มวลชนพรรคก้าวไกล อย่างด้อมส้ม เข้าไปโจมตีอย่างหนักเช่นกัน 

เมื่อเร็วๆนี้   “อานนท์  กลิ่นแก้ว” ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส. )พร้อมตัวแทนที่ร่วมอุดมการรณ์ประมาณ  30 คน เดินทางมาที่ พรรคภูมิใจไทย เพื่อให้กำลังใจ   ส.ส.ชาดา  เพื่อคัดค้านการแก้ไข หรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างสุดความสามารถ 

"ชาดา"  ฝากบอก พี่น้องคนไทย ต้องออกมาร่วมมือปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสถาบันคือชาติไทย และถ้าใครมาดูหมิ่นสถาบันเราก็ยอมไม่ได้ และเราจะนั่งเฉยๆไม่ได้เราต้องแสดงออกมาบ้าง เพราะระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาสถาบันโดนมาตลอด  ตนจึงเห็นว่าคนถึงเวลาที่คนไทย ลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันของเราที่เปรียบเป็นหัวใจของประเทศไทย 

เมื่อถามว่ากังวลเรื่องทัวร์ลงหรือไม่  ส.ส.ชาดา บอกว่า " เราไม่ได้ท้าทายใคร แต่พฤติกรรมแบบนี้ ไม่น่าจะมีในสังคมไทย มันเป็นพฤติกรรมของอันธพาล เพราะไปขู่ลูกส.สและ ส.ว. ซึ่งลูกสาวผมก็โดน แต่ไม่สนใจ เราถือว่าคนพวกนี้ไม่มีค่ากับ ที่เราจะไปแคร์ " 

 

"ด้อมส้ม"เห็นแบบนี้ควรจะสำนึก และอย่าเอาทัวร์ไปลงใครอีกจริงไหม 

 

ช่างสงสัย 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พาดหัวกันจนจะถูกย้าย"

ต้องยอมรับความจริง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถือเป็นรัฐราชการ ที่ประชาชนยุคนี้ฝากความหวังเอาไว้ถ่วงดุล อำนาจรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นต่างๆ ที่สังคมกังขา มิให้ทำอะไรเลยเถิดหรือสุดซอย จนประโยชน์สูงสุดไม่ได้อยู่ที่ประชาชน

'ผมกำลังลื่น'

วันจันทร์ที่ผ่านมา ในการประชุมวุฒิสภามีวาระร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง โดยช่วงหนึ่งของการประชุมจะเห็นได้ว่ามี สว.เอาอวนดักปลาขึ้นมาประกอบการอภิปราย พร้อมปลากะตักแห้งที่เอามาเป็นตัวอย่างประกอบ

แจกสิทธิ์ 10 คนแรก

ต้องฝ่ากระแสร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปี 2567 สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งกระแสพรรคแตก สส.ทยอยย้ายซบพรรคอื่น กระแสข่าวหัวหน้าพรรคถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี

ออร่าจับมาก

ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย

“ไม่ต้องรอมติพรรค”

“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย