เพิ่งเขียนถึงนายกฯ ฮุน เซน แห่งกัมพูชาเมื่อวาน ก็มีเหตุจะต้องเขียนต่อถึงท่านผู้นำวาทะร้อนแรงท่านนี้อีกแล้ว
เพราะฮุน เซน บอกว่า ไม่สนใจว่าผู้นำอาเซียนเคยมีมติเรื่องเมียนมามาก่อนอย่างไร ปีหน้าพอตนเป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียนก็จะทำอย่างที่ตนอยากทำ
นั่นคือเขาเตรียมแสดงบทบาทเอียงเข้าหาผู้นำกองทัพในเมียนมาอย่างเปิดเผย
ประกาศพร้อมเยือนเมียนมาและเชิญตัวแทนทหารเมียนมาร่วมประชุมอาเซียน
“เมียนมาเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียน ต้องมีสิทธิ์เข้าประชุม”
ผู้นำกัมพูชาที่นั่งตำแหน่งสูงสุดของประเทศมา 36 ปีแล้ว บอกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะไปเยือนเมียนมาเร็วๆ นี้ เพื่อพบกับนายพลมิน อ่อง หล่าย ผู้นำสูงสุดของประเทศนั้น
ใครจะแสดงความรังเกียจคนก่อรัฐประหารคนนี้อย่างไร ฮุน เซน บอกไม่แคร์ เขารักของเขา ใครจะทำไม
“ถ้าผมไม่ทำงานร่วมกับผู้นำของเมียนมา ผมจะทำงานกับใคร” ฮุน เซน ถามกวนๆ ตามสไตล์
แถมยังตอกย้ำหลักการ “ไม่แทรกเซงกิจการภายในของประเทศสมาชิกของอาเซียน”
เป็นที่รู้กันว่ากัมพูชาเป็นหนึ่งในสามประเทศในอาเซียน (อีกสองประเทศคือลาวและเวียดนาม) ที่ไม่เคยแสดงท่าทีหรือจุดยืนทางลบต่อการยึดอำนาจและความรุนแรงในเมียนมา
พอจะสันนิษฐานได้ไหมว่าประเทศไทยคงอยู่กลางๆ ระหว่างสองกลุ่มนี้
เดือนที่ผ่านมา อาเซียนไม่เชิญมิน อ่อง หล่าย ร่วมประชุมสุดยอดเพื่อกดดันให้ผู้นำเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย
และให้ดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อที่ผู้นำอาเซียน (รวมทั้งมิน อ่อง หล่ายด้วย) ที่ตกลงกันที่จาการ์ตาเมื่อเดือนเมษายน
แต่ผู้นำทหารเมียนมาคนนี้ไม่ทำอะไรตามนั้นเลยแม้แต่ข้อเดียว อ้างว่าสถานการณ์ในประเทศยังไม่สงบ
ปีหน้ากัมพูชาทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียน ฮุน เซน จึงเล่นบท “ฉันกำหนดแนวทางตามที่ฉันเห็นควร”
คนที่ติดตามข่าวสารอาเซียนยังคงจำได้ว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ฮุน เซน ก็สร้างความปั่นป่วนในฐานะประธานด้วยการทำให้การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจบลงโดยไร้แถลงการณ์ร่วมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอาเซียน
เพราะฮุน เซน ไม่ยอมให้มีการกล่าวพาดพิงเรื่องทะเลจีนใต้ เพราะจีนมากระซิบฮุน เซน ขออย่าให้เอ่ยถึงเรื่องนี้ในเอกสารทางการของผู้นำอาเซียน
ฟิลิปปินส์ไม่ยอม เดินออกนอกห้องประชุม อาเซียนก็เลยแตกกระเจิง
เมื่อตกลงกันไม่ได้ว่าจะเขียนแถลงการณ์ร่วมอย่างไร ฮุน เซน ก็เลยใช้อำนาจของประธานที่ประชุมสั่งการว่า “ไม่ต้องมีแถลงการณ์ร่วมก็แล้วกัน”
เป็นที่รู้กันว่ากัมพูชาเป็นประเทศในอาเซียนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนที่สุด จึงเกรงใจปักกิ่งในหลายๆ เรื่อง
แต่สมาชิกอาเซียนหลายประเทศเห็นว่าอาเซียนต้องไม่ยอมปล่อยให้มิน อ่อง หล่าย “ลอยนวล” ด้วยการไม่ทำอะไรตามข้อตกลงเลย
อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และบรูไน ยืนยันหนักแน่นว่าอาเซียนต้องแสดงจุดยืนเรื่องนี้ให้แข็งขัน
หาไม่แล้ว ภาพลักษณ์ของอาเซียนจะถูกด้อยค่า ถูกมองว่าไม่มีน้ำยา
เป็นที่มาของการที่ไม่เชิญมิน อ่อง หล่าย มาร่วมประชุมผู้นำอาเซียนสุดยอดปีนี้
แต่ฮุน เซน กำลังจะบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องฟังเสียงสมาชิกอื่นในอาเซียน
เมื่อเขานั่งหัวโต๊ะ เขาจะเชิญผู้นำทหารมาร่วมประชุมอย่างเต็มภาคภูมิ
นี่ย่อมสะท้อนว่าอาเซียนจะแตกดังโพละด้วยเรื่องเมียนมาเป็นแน่แท้
ฮุน เซน ไม่ได้พูดเฉยๆ เขาทำให้เห็นด้วยว่าพูดจริงทำจริง
หนึ่งวันหลังจากศาลเมียนมาตัดสินให้อองซาน ซูจี ถูกจำคุก 4 ปี (มิน อ่อง หล่าย ลดลงเหลือ 2 ปี) ข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายภัยพิบัติกรณีหาเสียงช่วงโรคระบาดโควิด-19 และ “ยุยงปลุกปั่น” เขาก็ต้อนรับรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมามาเยือนพนมเปญหน้าตาเฉย
วันนา หม่อง ลวิน บินมาที่เมืองหลวงกัมพูชาทันทีและเข้าพบฮุน เซน
มีภาพทางการที่เห็นทั้งสองแตะศอกทักทายก่อนการพบปะพูดจากันอย่างสนิทสนม
ขิ่น มอน ซอว์ ทนายความของจำเลย บอกว่ามีแนวโน้มสูงที่จะมีการอุทธรณ์คำตัดสิน
แต่ยังคงไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้
เป็นไปได้ว่าเธออาจถูกย้ายจากการกักบริเวณภายในบ้านพักในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาไปยังสถานที่กักกันของทางการ
รัฐบาลทหารเมียนมาได้ฟ้องนางซูจีทั้งหมด 12 ข้อหา
มีตั้งแต่ข้อหาฉ้อราษฎร์บังหลวง ละเมิดกฎหมายปกปิดความลับของทางการ มีเครื่องมือสื่อสารครอบครองอย่างผิดกฎหมาย และใช้ที่ดินของรัฐในทางมิชอบ
แปลว่าหากถูดตัดสินว่ามีความผิดในทุกข้อหา เธออาจต้องโทษจำคุกนานกว่า 100 ปี
ไม่ต้องแปลกใจหากนักวิเคราะห์การเมืองเมียนมาจะมองว่า การฟ้องนางซูจีในหลายข้อหา เป็นวิธีการที่รัฐบาลทหารเมียนมานำมาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เธอกลับมามีอิทธิพลทางการเมืองได้อีกในอนาคต
คำตัดสินจำคุกก็อาจทำให้เธอไม่สามารถกลับมาลงสมัครเลือกตั้งได้ทันการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่รัฐบาลทหารกำหนดไว้ในปี 2023 ได้
ปีนี้เธอเข้าสู่อายุ 76 แล้ว
มิน อ่อง หล่าย คงคิดว่าถ้าซื้อเวลาไปเรื่อยๆ อีกไม่นานเธอก็คงหมดสภาพที่จะเป็นคู่กรณีทางการเมืองกับกองทัพ
เมื่อได้น้ำเลี้ยงจากฮุน เซน เพื่อนรักด้วยแล้ว ผู้นำทหารเมียนมาคนนี้ก็คงจะกระดี๊กระด๊าพอสมควร
แต่ผลที่ตามมาก็คือ ฮุน เซน กำลังจะสร้างความปั่นป่วนให้กับอาเซียนอย่างหนักอีกครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ