เพื่อไทยส่ง 'พิธา' ขึ้นเขียง

ไปกองกันอยู่ในวันพุธที่ ๑๙ กรกฎาคม นั่นแหละครับ

ด้อมส้ม ด้อมแสด คนไหนที่ใจไม่แข็งพอ แนะนำว่าให้ไปปลีกวิเวกเสีย อย่ารับข้อมูลข่าวสารเป็นอันขาด

เพราะมันเป็นวันสุดท้ายของ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"

มาสุดทางแล้วครับ ไม่ได้ไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

หนักสุดอาจซ้ำรอย "ธนาธร-ปิยบุตร" ต้องเว้นวรรค ๕ ปี ๑๐ ปี

เบาสุดก็ไปเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

ก็ไม่รู้อะไรมาก่อนมาหลัง ระหว่างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีถือหุ้นสื่อ กับที่ประชุมรัฐสภาคว่ำคำขอโหวต "พิธา" รอบสอง

๑๙ กรกฎาคมนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มประชุมเวลา ๐๙.๓๐ น.

ที่ประชุมรัฐสภา ก็เริ่มต้นเวลา ๐๙.๓๐ น. เช่นกัน แต่จะเรียกว่าประชุมโหวตเลือกนายกฯ ก็คงไม่ใช่ เพราะมันต้องจบให้ได้ก่อนว่า สามารถเสนอชื่อ "พิธา" รอบสองได้หรือไม่

ก็น่าจะใช้เวลาถกเถียงกันหลายชั่วโมงอยู่ มีความเป็นไปได้ว่าจะลากยาวจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมา

ดูทรงแล้ว "พิธา" จะไม่อยู่บนกระดานการเมือง การจัดตั้งรัฐบาลอีก

ถ้ามีก็คงในโซเชียลของด้อมส้มด้อมแสด

แต่ถ้าหลุดออกมา เจอโลกความเป็นจริง เอ็มโอยูถูกฉีก ก้าวไกล ถูกเขี่ยออกมาจากว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล

เอาเป็นว่า ถึงนาทีนี้ มีพรรคร่วมรัฐบาลแน่ๆ แล้ว ๒ พรรค

คือ เพื่อไทย กับประชาชาติ

รวมแล้วมี ส.ส. ๑๕๐ ที่นั่ง 

๒ พรรคนี้ต้องกระเตงกันไปครับ

"วันมูหะมัดนอร์ มะทา" จะไปอยู่ฝ่ายค้านไม่ได้ เพราะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา มันผูกติดกับเพื่อไทยอยู่

พรรคที่เสียบแทนก็เดาไม่ยาก ภูมิใจไทย ๗๑ พลังประชารัฐ ๔๐

รวมแล้ว ๒๖๑ ตั้งรัฐบาลสบายๆ โหวตเลือกนายกฯเสร็จยังตามจีบได้อีกหลายพรรค

รวมไทยสร้างชาติ ๓๖

ชาติไทยพัฒนา ๑๐

ดีลนี้จบมี ส.ส.ในมือถึง ๓๐๗ เสียง ถือว่ามีเสถียรภาพพอควร

เป็นรัฐบาล ๖ พรรค

ครับ...ก็ไม่หนีไปจากนี้สักเท่าไหร่

ฉะนั้น ๑๙ กรกฎาคม หากการประชุมจบลงตรงที่เสนอชื่อ "พิธา" รอบสองไม่ได้ แล้ว ประธานวันนอร์ นัดวันประชุมเพื่อเลือกนายกฯ ใหม่อีกครั้ง "พิธา" ก็จบในวันนั้น

แต่ถ้าหลังรู้ผลเสนอ "พิธา" ต่อไม่ได้ แล้วสภาฯ ทำการเสนอชื่อใหม่ เพื่อโหวตในวันเดียวกันเลย แบบนี้มีช็อกครับ เหมือนหล่นจากหน้าผาแบบฉับพลัน

"ด้อมส้ม" น้ำตานองแน่

ที่สำคัญมันไม่ใช่การส่งไม้รับไม้ต่อระหว่างพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทย

 เพราะ ก้าวไกล ไม่เคยคิดจะส่งไม้อย่างมีมารยาททางการเมือง แต่เก็บไม้ไว้ หลังลากยาวให้อีก ๗ พรรคเดินตามตัวเองไปด้วย ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยากไป

แต่หมากของก้าวไกลตื้นเกินไป

เข้าขั้นอ่อนหัด

ดังนั้นฟันเฟิร์ม สูตรตั้งรัฐบาล ๘ พรรคจบลงในวันที่ ๑๙ กรกฎาคมนี้แน่นอน โฉมหน้ารัฐบาลใหม่จะค่อยๆปรากฏขึ้น อย่างที่ระบุไว้ข้างต้น

บทเรียนที่พรรคก้าวไกลควรจะนำไปทบทวนคือ ฟังคนอื่นให้มากขึ้น เพ้อฝันให้น้อยลง และอยู่กับความเป็นจริง

ย้ำกันอีกครั้งนะครับ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคมที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ไม่เลือก "พิธา" ไม่ใช่เพราะตัว "พิธา"

แต่เป็นการไม่เลือกพรรคก้าวไกล

ฉะนั้นการโหวตนายกฯ ที่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลนั้น ไม่ว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองไหน ชื่ออะไร สมาชิกวุฒิสภาก็จะคว่ำเช่นเดิม

รัฐบาลใหม่จึงไม่มีพรรคก้าวไกลอย่างแน่นอน

เหตุผล ก็อย่างที่รับรู้กันดีอยู่แล้ว ก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ ยืนกราน เสนอแก้ กฎหมายอาญา ม.๑๑๒ ให้ได้ 

เป็นทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างรุนแรง 

พรรคการเมืองที่ยอมเป็นฝ่ายค้าน แต่ไม่ยอมลดเพดานแก้ ม.๑๑๒ ก็แสดงว่าให้ความสำคัญกับการแก้ ม.๑๑๒ มากกว่าสิ่งอื่นใด

ราวกับประเทศไทยมิอาจเดินหน้าไปได้ หาก ม.๑๑๒ ยังคงดำรงอยู่

คำตอบสุดท้ายของพรรคก้าวไกลอยู่ที่ การแก้ไข ม.๑๑๒ จริงหรือ

เป็นเหตุผลที่น่ากลัวครับ พรรคการเมืองยอมไม่เป็นรัฐบาล เพื่อไม่ให้เสียหลักการที่จะแก้ ม.๑๑๒ 

แสดงว่าพรรคก้าวไกลมีเป้าหมายที่ใหญ่ว่า การแก้ ม.๑๑๒

มันคืออะไร?

ตอบตรงนี้เลยครับ ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

หากไม่แก้ ม.๑๑๒ เสียก่อน ก็ไม่มีทางวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อสร้างความชอบธรรมในการปฏิรูปสถาบันได้

สถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์

พระราชอำนาจ

คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการเปลี่ยนแปลง

และเป็นหนึ่งในแคมเปญเปลี่ยนประเทศไทย

หากไม่ถูกยุบพรรค เพราะนำประเด็นแก้ ม.๑๑๒ มาหาเสียงเสียก่อน เลือกตั้งครั้งถัดไปหากเกิดขึ้นหลังเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่ง ส.ว.ชุดนี้หมดวาระลง และรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๒ หมดสภาพการบังคับใช้ ก็มีโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะกลับมา

พรรคก้าวไกล อาจชนะเลือกตั้งถล่มทลาย สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ หรืออย่างน้อยชนะเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ ๑ ที่มีเสียงปริ่มๆ กึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นการเมืองไทยจะเข้าสู่บรรยากาศแห่งความน่าสะพรึงกลัวอีกครั้ง

ทันทีที่รัฐบาลก้าวไกลประกาศแก้ ม.๑๑๒ ให้เสร็จภายใน ๑ ปี เมื่อนั้นความขัดแย้งของสังคมไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจะบังเกิดขึ้น

และด้วยนิสัยทำงานการเมืองของพรรคก้าวไกล จะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่จะทำให้ไฟแห่งความขัดแย้งโหมรุนแรงขึ้น

การเมืองที่บ้าคลั่งจะเผาทุกอย่างที่ขวางหน้า

ครับ...มติ ๘ พรรคให้เสนอชื่อ "พิธา" อีกรอบ

เพื่อไทยใจเย็นส่ง "พิธา" ขึ้นเขียงเรียบร้อย ไม่ต้องลงทุนอะไร รอให้ ส.ว.กับพรรคการเมืองขั้วตรงข้ามชำแหละจนหาชิ้นดีไม่ได้

เสร็จแล้วเพื่อไทยได้ความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลแทน 

ได้เวลาไปทัวร์สวนกล้วยครับ!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มิตรเทาศัตรูเทียม

ฝุ่นตลบ... ตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้ บางพรรค บางคน ไม่ค่อยจะเห็นหัวประชาชนสักเท่าไหร่

เปิดตัวผู้จัดการรัฐบาล

ดูทรงแล้ว งานนี้ได้หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง จะมีการเปลี่ยนแปลงพรรคร่วมรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ วันนี้แปรสภาพเป็น พลังประชาเละ ไปเรียบร้อย

ผลงานเผด็จการ

นับเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวงจริงๆ ครับ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีถอดถอนนายกฯเศรษฐาออกจากตำแหน่ง ได้สร้างบรรทัดฐานทางการเมืองให้คนไทยได้ลิ้มรสมิติใหม่ในการแต่งตั้งรัฐมนตรี

เป็น 'พระ' หรือ 'มาร' ให้ลูก

นับหนึ่งรัฐบาลระบอบทักษิณ ภาค ๕ มีทั้งคนชอบ และคนไม่ชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ "แพทองธาร ชินวัตร" แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาๆ ของการเมือง

ผู้สืบสันดาน

เรียบร้อยนักโทษชายครับ สภาผู้แทนราษฎร ลงมติเลือก "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

'สินบน' หายไปไหน

ช่างมันเถอะครับ! ใครจะมาเป็นนายกฯ คงไม่ต่างไปจากที่้เป็นอยู่สักเท่าไหร่ ไอ้พวกที่แหกปาก อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน สุดท้ายลิงหลอกเจ้า