ข่าวอาเซียนเตรียมซ้อมทางทหารร่วมในทะเลจีนใต้เป็นครั้งแรก ภายใต้การประสานของอินโดนีเซียในฐานะประธานของกลุ่มในปีนี้ ย่อมก่อให้เกิดความสนใจอย่างกว้างขวาง
เพราะกิจกรรมทางทหารของอาเซียนเช่นว่านี้กำลังจะเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดในหลายมิติของภูมิภาคนี้
“เราจะจัดการซ้อมรบร่วมทางทหารในทะเลนาทูนาเหนือ” ยูโด มาร์โกโน ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซียกล่าว หลังการประชุมหัวหน้ากลาโหมของอาเซียนที่บาหลีเมื่อเร็ว ๆ นี้
การซ้อมรบที่ว่านี้กำหนดไว้ว่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายน และมีสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศของกลุ่ม รวมทั้งสมาชิกผู้สังเกตการณ์ "ติมอร์-เลสเต" เข้าร่วมด้วย
แถลงข่าวอย่างนี้แปลว่าจะเชิญกองทัพเรือเมียนมาเข้าร่วมด้วยหรือไม่ คงเป็นอีกประเด็นที่ต้องถกแถลงกันพอสมควรในมวลหมู่สมาชิก
ผู้นำทางทหารของอินโดฯ แจ้งว่า การฝึกซ้อมจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาความปลอดภัยและกู้ภัยทางทะเล
ย้ำว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการรบแต่อย่างใด
แต่ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องถูกมองว่าเป็นเรื่องของความมั่นคงของภูมิภาคนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สมาชิกอาเซียนเคยจัดการซ้อมรบทางเรือกับสหรัฐฯ มาก่อน แต่ไม่เคยฝึกซ้อมทางทหารระหว่างอาเซียนด้วยกัน
บริบทและจังหวะของการประกาศเรื่องร่วมซ้อมทางทหารของอาเซียนน่าสนใจ
เพราะเกิดขึ้นหลังจากวอชิงตันเรียกร้องให้ปักกิ่งหยุดพฤติกรรม "ยั่วยุ" ในน่านน้ำพิพาท หลังเกิดเหตุใกล้ชนกับเรือของฟิลิปปินส์
และการซ้อมรบที่อันตรายของนักบินขับไล่จีนใกล้กับเครื่องบินตรวจการณ์ของอเมริกา
ขณะเดียวกัน เรือของจีนยังได้รุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำนาทูนาเหนือของอินโดนีเซียที่อินโดนีเซียอ้างสิทธิ์เป็นครั้งคราว
ทำให้เกิดการประท้วงในกรุงจาการ์ตามาแล้ว
จีนอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ทับซ้อนกับอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย
เรือของปักกิ่งออกลาดตระเวนเป็นประจำ และเมื่อเกิดเหตุเผชิญหน้ากับประเทศเพื่อนบ้านก็จะอ้างประวัติศาสตร์ของ "เส้นประเก้าเส้น" ของจีน อันหมายถึงการเป็นเจ้าของน่านน้ำแถบนี้ทั้งหมด
ในการประชุมสุดยอดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้นำอาเซียนได้หารือเกี่ยวกับ "เหตุการณ์ร้ายแรง" ในทะเลจีนใต้ และการเจรจาอย่างต่อเนื่องสำหรับการยกร่าง Code of Conduct หรือแนวทางปฏิบัติที่มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงของความขัดแย้งที่น่านน้ำแถบนี้
อาเซียนบางประเทศมองไปที่สหรัฐฯ เพื่อเป็นผู้มาร่วมปกป้องไม่ให้จีนมีนโยบาย “ก้าวร้าว” เกินเหตุ
แต่สมาชิกอาเซียนอีกจำนวนหนึ่งก็มองว่าควรจะต้องพยายามหว่านล้อมให้จีนยอมลดความกร้าวลง เพื่อไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างสองมหาอำนาจในย่านนี้
สหรัฐฯ มาตั้งพันธมิตรทางทหารในบริเวณนี้อย่างชัดเจน รวมไปถึงการตั้งกลุ่ม “จตุภาคี” หรือ Quad ที่มีสหรัฐฯ, อินเดีย, ญี่ปุ่น และออสเตรเลียเพื่อสกัดอิทธิพลของจีน
จีนกล่าวหาว่าอเมริกากำลังจะสร้าง “นาโตเอเชีย” ขึ้น เพื่อขยายบทบาททางทหารของฝ่ายตะวันตกเพื่อต่อต้านจีน
สหรัฐฯ โต้ว่าการสร้างพันธมิตรทางทหารในเอเชีย ก็เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถทำให้ย่าน Indo-Pacific นั้นเป็นเขต “เสรีและเปิดกว้าง”
และยืนยันในหลักการของ “เสรีภาพแห่งการเดินเรือ" หรือ freedom of navigation ในทะเลจีนใต้
แปลว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรสามารถจะส่งเรือรบและเรือสินค้าผ่านน่านน้ำแถบนี้ได้อย่างเสรี
โดยที่จีนจะต้องไม่ขัดขวางและอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำเป็นของตน
นั่นคือสาเหตุหลักของความขัดแย้งที่ทำให้ทะเลจีนใต้กลายเป็น “จุดเปราะบาง” ที่ “พร้อมปะทุ” กลายเป็นสงครามได้
จุดยืนร่วมของอาเซียนในกรณีนี้จึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะมหาอำนาจทั้งสองประเทศต่างก็พยายามจะชิงความได้เปรียบด้วยการดึงเอาอาเซียนเข้ามาเป็นพวกตน
แต่อาเซียนก็ไม่มีความเป็นเอกภาพในเรื่องนี้
ตรงกันข้ามกลับมีแนวโน้มว่าอาเซียนจะแตกเป็นสามกลุ่ม...คือกลุ่มเอียงไปทางสหรัฐฯ, กลุ่มเอนข้างจีน และกลุ่มที่พยายามจะไม่แสดงตนชัดเจนในประเด็นนี้
กรณีของท่าทีของอาเซียนต่อรัฐบาลทหารเมียนมา เป็นตัวอย่างของการปริแตกของอาเซียนและมหาอำนาจอย่างชัดเจน
จีนยืนเคียงข้างรัฐบาลทหารของเมียนมา ขณะที่สหรัฐฯ พยายามจะกดดันให้รัฐบาลของมิน อ่อง หล่าย ต้องยอมถอยเพื่อกลับไปสู่กระบวนการประชาธิปไตย
ผลที่ตามมาก็คือ อาเซียนเองก็พลอยแตกด้วย กลายเป็นกลุ่มที่ต้องการจะแสดงความขึงขังกับรัฐบาลทหาร และกลุ่มที่โอนเอียงไปทางพยายามจะน้าวโน้มเมียนมาด้วยการทูตแบบประนีประนอมถ้อยทีถ้อยอาศัย
ดังนั้น ความตึงเครียดที่ทะเลจีนใต้ก็ลามมาถึงประเด็นเชื่อมโยงอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาเซียนอย่างปฏิเสธไม่ได้
ดังนั้น การซ้อมทางทหารของอาเซียนไม่ว่าจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการซ้อมความพร้อมเพื่อสงครามหรือไม่ก็ตาม ย่อมจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ของความกังวลต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคงของกลุ่ม
ความท้าทายสำหรับอาเซียน (และประเทศไทย) มีเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ในภาวะความผันผวนปรวนแปรกับความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ขณะนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ