ตอนเลือกข้อมูลก็ขาดวิ่น แล้วยังสิ้นคิดในตอนเร่ง

ในขณะที่พรรคส้มพยายามจัดตั้งรัฐบาลผสม 8 พรรค แต่มีท่าทีว่าน่าจะไม่ราบรื่น ด้อมส้มจำนวนหนึ่งจึงออกมาโวยวายว่าเลือกตั้งมาแล้ว พรรคส้มก็ชนะแล้ว ได้จำนวน ส.ส.มากกว่าพรรคอื่นๆ แล้ว รวมเสียงกับพรรคอื่นๆ รวม 8 พรรค มีเสียง 312 เสียง ทำไมถึงยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ อันที่จริงตามกระบวนการก็ไม่ได้ช้าอะไร เพราะก่อนจะเลือกนายกรัฐมนตรีต้องเลือกประธานสภาฯ ก่อน เมื่อได้ประธานสภาฯ แล้วต้องทูลเกล้าฯ เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ จึงจะสามารถทำงานได้ เรื่องแรกก็คือ เรียกประชุมให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี กระบวนการไม่ได้ช้าอะไร

แต่กระแสข่าวที่ทำให้ด้อมส้มออกมาเร่งให้รีบเลือกนายกรัฐมนตรีคือ ความไม่เหมาะสมของพ่อของส้ม ทั้งเรื่องนโยบายของพรรค เรื่องส่วนตัวที่จะต้องพิจารณาว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งท่าทีของสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ที่เป็นองคาพยพของพรรคส้มที่จะไม่ยอมลดเพดานเรื่องการแก้ไขมาตรา 112

กระแสข่าวที่ว่า ส.ว.อาจจะไม่ยกมือให้พ่อของส้มเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ด้อมส้มจำนวนหนึ่งแสดงอาการเกรี้ยวกราดก้าวร้าวใส่ ส.ว. พวกเขาบอกว่าทำไมไม่ฟังเสียงประชาชน แม้แต่ตัวพ่อของส้มเองก็บอกว่าคะแนนที่พรรคเขาได้นั้นเป็นฉันทามติ ซึ่งเป็นการอ้างที่ไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่ฉันทามติ เพราะมันไม่ถึง 50% ของคนที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงทั้งหมด มันแค่ 30% กว่าเท่านั้น จะมาอ้างว่าเป็นฉันทามติได้อย่างไร เขาบอกให้ ส.ว.ฟังประชาชน 14 ล้านคนที่เลือกพรรคส้ม แล้วอีก 20 กว่าล้านที่เขาไม่ได้เลือกพรรคส้มล่ะ เขาไม่ใช่ประชาชนหรือไร ส.ว.เขาฟังประชาชนที่ไม่เลือกพรรคส้มได้ไหมล่ะ

ขอถามหน่อยนะว่าคนที่เลือกส้ม 14 ล้านคนนั้น คุณเห็นด้วยหรือไม่ว่านโยบายแก้มาตรา 112 มันทำลายความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่หมายถึงทำลายความมั่นคงของชาติด้วย คุณเห็นด้วยกับนโยบายกระจายอำนาจที่อาจจะนำไปสู่การแบ่งแยกดินแดนกระนั้นหรือ คุณเห็นด้วยกับนโยบายการต่างประเทศของพรรคส้มที่อาจจะทำให้ไทยเป็นศัตรูกับจีน หรืออาจจะเป็นการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านด้วยหรือ ข้อมูลเหล่านี้คุณเอามาพิจารณาด้วยหรือเปล่า หรือว่าคุณอาจจะไม่รู้อะไรพวกนี้เลย หรือคุณอาจจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย คุณบางคนบอกว่าที่เลือกพรรคส้มเพราะอยากให้ประเทศมีการเปลี่ยนแปลง แล้วคุณได้ศึกษาหรือยังว่าพรรคส้มเขาจะเปลี่ยนประเทศอย่างไร การเปลี่ยนแปลงของเขาจะมีผลกระทบกับความมั่นคงของสถาบันหลักของประเทศ คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์อย่างไร การที่คุณบางคนไม่ได้ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายของพรรค และความพยายามจะเปลี่ยนแปลงประเทศของพรรคในการตัดสินใจเลือกนั้น แสดงว่าข้อมูลที่คุณใช้ในการตัดสินใจนั้น มันขาดวิ่น ไม่มีความครบถ้วนอย่างที่ควรจะเป็น

คนบางคนเลือกเพราะอยากได้สิ่งที่พรรคส้มเขาหาเสียงว่าจะแจก สุดท้าย เขาก็ทำไม่ได้ตามที่หาเสียงไว้ รู้สึกแล้วยัง และถ้าทำจริง บ้านเมืองก็พินาศ

ตอนลงคะแนนเลือก ก็ใช้ข้อมูลในการพิจารณาขาดๆ วิ่นๆ ไม่ถี่ถ้วน แล้วก็ลงคะแนนจนพรรคส้มชนะการเลือกตั้งเป็นที่หนึ่ง และเมื่อมองเข้าไปในจำนวนคนที่ได้รับเลือกตั้งนั้น ขอพูดตรงๆ โดยไม่ขอเกรงใจนะว่าหลายคนที่ได้เป็น ส.ส.ในพรรคส้มครั้งนี้มีคุณสมบัติที่ไม่น่าจะได้เป็นผู้แทนราษฎรเลย บางคนก็มีคดีเพราะทำผิดกฎหมาย บางคนมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม แต่เป็นเพราะคนลงคะแนนไม่หาข้อมูลให้ถี่ถ้วน ไม่ได้พิจารณาว่าถ้าหากพรรคส้มได้เป็นรัฐบาล บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงกันอย่างไร คิดแต่อยากได้ของใหม่บ้าง อยากเปลี่ยนแปลงบ้าง เบื่อของเก่าบ้าง เชื่อวาทกรรมว่า 8 ปีไม่มีอะไรบ้าง ทั้งๆ ที่ลุงตู่มีผลงานมากมาย แบบนี้แหละที่เราอยากบอกว่า 1 คนมี 1 คะแนนเหมือนกัน ในเชิงปริมาณนั้นใช่ แต่ในเชิงคุณภาพมันไม่ใช่ เมื่อใช้ข้อมูลในการตัดสินใจที่ต่างกัน 1 คะแนนของบางคนก็เป็น 1 คะแนนที่มีคุณภาพ ส่วนคนที่ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจขาดๆ วิ่นๆ ก็เป็น 1 คะแนนที่ไม่มีคุณภาพ (อย่าหาว่าดูถูกกันเลยนะ)

มาถึงตอนนี้ก็มาเร่งให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ โดยยืนกรานว่าพ่อของส้มจะต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรี นี่ก็อีกเหมือนกัน ไม่รู้สี่รู้แปดอะไรเลย ไม่รู้เลยว่าที่ยังไม่อาจจะตั้งได้นั้นเป็นเพราะอะไร ส.ว.ที่จะต้องร่วมลงคะแนนด้วยนั้น เขาก็ต้องพิจารณาทั้งนโยบายของพรรคส้มและคุณสมบัติส่วนตัวของพ่อส้มเอง อย่าลืมว่า ส.ว.เขาปฏิญาณตนว่าจะทำหน้าที่ด้วยความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และนโยบายพ่อส้มนั้น มันมีปัญหาเรื่องความมั่นคงของสถาบันหลักของประเทศหรือเปล่าล่ะ ในด้านชาตินั้น ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของชาติจะเสื่อมสลาย ศาสนาจะหมดความสำคัญ และสถาบันพระมหากษัตริย์จะสั่นคลอน แล้วยังมีนโยบายเรื่องการแบ่งแยกดินแดน และนโยบายการต่างประเทศอีก เป็นเรื่องที่คนรักชาติ รักแผ่นดินไม่อาจจะยอมให้พ่อของส้มเป็นนายกรัฐมนตรีได้

นอกจากเรื่องนโยบายแล้ว เรื่องส่วนตัวของพ่อส้มก็ไม่ได้ใสสะอาด ทั้งเรื่องถือหุ้น ITV เรื่องการขายที่ดิน เรื่องรายงานทรัพย์สิน เรื่องที่พูดจาเกี่ยวกับเรื่องเดียวกัน ต่างเวลา ต่างวาระไม่ตรงกันกี่เรื่องแล้ว เรื่องทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่างที่คนเขาเรียกว่า “หิวแสง” นั้น ทำมากี่เรื่องแล้ว เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็ก 3 กีบที่ออกมาชุมนุม และทำผิดกฎหมาย ทั้งหมดนี้มันทำให้คนเขาไม่มั่นใจวุฒิภาวะของพ่อของส้ม แล้วเขาจะสบายใจให้พ่อส้มเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร เพราะว่าพฤติกรรมหลายอย่าง วาทกรรมหลายๆ เรื่องมันส่อไปทางสร้างความขัดแย้ง ก่อให้เกิดความแตกแยก ที่สำคัญ พวกเขามองว่าคนในพรรคส้มที่ได้รับการวางตัวให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ นั้น เมื่อออกมาแสดงวิสัยทัศน์ในการจะบริหารประเทศ หลายคนฟังแล้วตกใจ เพราะมันแสดงถึงความไม่มีประสบการณ์เพียงพอ ดังนั้น อย่าโวยวายว่าเลือกตั้งมาแล้ว ชนะแล้ว ทำไมตั้งรัฐบาลไม่ได้ หัดหาข้อมูลบ้างว่านโยบายพรรคส้มเป็นอย่างไร คนที่เลือกพรรคส้ม ทำไมถึงเลือก แล้วจะได้ตามที่เขาสัญญาหรือไม่ คุณสมบัติของพ่อส้มก็ไม่ใส อย่าเร่งอย่างไร้ข้อมูล จะได้มองเห็นว่าทำไมคนจำนวนมาก (น่าจะมากกว่า 14 ล้านคน) ไม่อยากให้พรรคส้มที่ได้ ส.ส.มากที่สุดเป็นรัฐบาล จะแสดงความคิดเห็นอะไร หาข้อมูลให้ถี่ถ้วนหน่อยนะคะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สับสนอลหม่าน แพทองธาร...พาลแพแตก

เราเคยทำนายไว้ว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีที่ชื่อเศรษฐาพ้นจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และได้แพทองธารมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

โลกแห่งความเป็นจริงที่กำลังถูกกลืนกิน

ด้วยความก้าวหน้า-ก้าวไกลของเทคโนโลยีข้อมูล-ข่าวสาร ที่เตลิดเปิดเปิงไปถึงระดับ 5G-6G และไม่รู้จะอีกกี่ G ภายในอนาคตอันใกล้ แถมยังมีตัวเร่ง ตัวกระตุ้น

เก้าอี้ 'ผบ.ตร.' ชัด

อุ๊ย....อุ๊ย แม้ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.จะปฏิเสธเสียงแข็งการเข้าพบ นายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับการทาบทาม

เลือกผู้แทนกันยังไง...เมืองไทยจึงเป็นเช่นนี้

หลังจากรู้ผลการเลือกตั้งในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 บ้านเมืองไทยก็ดูพิกลพิการ อยู่ในสภาพที่ไม่อาจจะเดินหน้าเพื่อการพัฒนาที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้า

ว่าด้วยการ'ฟันธง'ของนักวิเคราะห์ทั้งหลาย

ถึงเคยคลุกคลีอยู่กับการ วิเคราะห์ การบ้าน-การเมือง มาร่วมกว่าๆ 2 ทศวรรษเห็นจะได้ แต่ด้วยอายุปูนนี้และด้วยสภาพแวดล้อมที่ทำให้ตัวเองใกล้ๆ