ชีวิตคน ก็คล้าย "หนังสือนิยาย" เล่มหนึ่ง
"ปกหน้า" คือ เรื่องราว
"ปกหลัง" คือความว่างเปล่า เป็นความว่างเปล่าที่ซ้อนซับ สุข, เศร้า, ผิดหวัง, สมหวัง, หัวเราะ, ร้องไห้, ติดอยู่, หลุดพ้น ของแต่ละชีวิตคน
ดุจใบไม้ แรกแย้ม ผลิใบ ออกดอก ชูกิ่งก้านไสว สุดท้ายก็ ปลิดปลิวจากขั้ว หลุดลอย เคว้งๆ คว้างๆ สู่ดิน
นิยายนั้น "คนเขียน"
แต่ชีวิตจริง "กรรมเขียน"
แต่ทั้งคนเขียนและกรรมเขียน มันก็ สุข-เศร้า คละเคล้าด้วย "เพรงกรรม" พอกัน ท่านว่าจริงไหม?
ผมอ่านแถลงการณ์ "มูลนิธิเสถียรธรรมสถาน" ฉบับที่ ๑ เมื่อวาน (๗ ธ.ค.๖๔) จะว่าเศร้า-ก็เศร้า, จะว่าเข้าใจ-ก็เข้าใจ
แต่ซึมครับ!
แถลงการณ์เขาบอกอย่างนี้........
"เสถียรธรรมสถาน" Sathira Dhammasathan ออกแถลงการณ์ "แจ้งความคืบหน้าอาการป่วยของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต"
"ตามที่สาธารณชนได้รับทราบว่าท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 และได้รับการรักษาจนสามารถควบคุมอาการของโรคได้แล้ว
ต่อมาเมื่อกลางปี พ.ศ. 2563
แพทย์ตรวจพบก้อนเนื้ออีกครั้ง ท่านจึงได้เข้ารับการรักษาเพิ่มเติมด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) ที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์
แต่เนื่องจากท่านยังทำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างหุบเขาโพธิสัตว์ ทำให้ธาตุขันธ์ของท่านอ่อนล้ามาก
ในที่สุดแพทย์ตรวจพบว่า มะเร็งได้เข้าสู่ระยะลุกลามจนเข้าสู่ระยะสุดท้าย
เสถียรธรรมสถาน จึงเลือกเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาแบบประคับประคอง (Palliative Care) ตามเจตนารมณ์ของท่านที่เคยให้ไว้ ภายใต้ความเห็นชอบของคณะแพทย์
จึงพาท่านกลับมาพำนักที่เสถียรธรรมสถาน ในวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2564
เพื่อให้ผู้ที่มีความรักและศรัทธาในท่านได้ร่วมแสดงความกตัญญู จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านได้ร่วมใจกันภาวนาและระลึกถึงท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
โดยเสถียรธรรมสถานได้เปิดให้ร่วมลงนามพร้อมข้อความในสมุดเยี่ยม ที่บริเวณด้านหน้าเสถียรธรรมสถาน ระหว่างเวลา 9.00-16.00 น. (ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด 19)
พร้อมทั้งขอเชิญชวนทุกคนสวดมนต์จากทุกที่ถวายแด่ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต เพื่อสร้างพลังมหากุศลร่วมกัน"
ต่อจากนี้ เป็นปูมชีวิตประวัติของแม่ชีศันสนีย์ จาก "ผู้จัดการ ออนไลน์"
"แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต" หรือนามเดิม "ศันสนีย์ ปัญญศิริ" (ตุ๊กตา) เกิดเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2496 ปัจจุบันอายุ 68 ปี เป็นบุตรีของนายเฉลียว จรัสศรี อดีตนายอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนางจำลอง หมินทะโรจน์ อดีตครูประจำโรงเรียนบางปะหัน (เชื่อมประชานุกูล)
สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนฝึกหัดครู วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา)
และปริญญาตรีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
แม่ชีศันสนีย์สละทางโลก บวชชีที่ "วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต" ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2523
โดยมี "พระครูภาวนาภิธาน" หรือ พระครูสรวิชัย (เส็ง) ยสินธโร อดีตเจ้าอาวาสผู้ก่อตั้งวัด เป็นพระอุปัชฌาย์
กระทั่งเมื่อปี 2530 ได้ก่อตั้ง "เสถียรธรรมสถาน" สถานปฏิบัติธรรมบนพื้นที่ 14 ไร่ บนถนนวัชรพล
ก่อนจะขยับขยายก่อตั้ง "สาวิกาสิกขาลัย" ในรูปแบบมหาวิชชาลัยธรรมะ เพื่อเยียวยาสังคม เมื่อปี 2551
และก่อตั้ง "ธรรมาศรม" ชุมชนสาธิตของวิถีชีวิตด้านธรรมะในปี 2560
...........................
ครับ....
แม้ไม่เคยรู้จักแม่ชีศันสนีย์เป็นการส่วนตัว แต่ผมในฐานะนักข่าวสมัยนั้น คือร่วมๆ ๕๐ ปีมาแล้ว ใครบ้างที่ไม่รู้จัก "ศันสนีย์ ปัญญศิริ"
เธอเข้าประกวด "มิสออด๊าซ" เมื่อปี ๑๕๑๘ ด้วยความสวยและความเป็นหญิงบุคลิกงาม ได้ครองตำแหน่งรองมิสออด๊าซ คู่กับ "เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์"
ด้วยความสวยและบุคลิกดี มรรยาทงาม เธอจึงเป็นทั้งพิธีกรโทรทัศน์ นางแบบ และนักประชาสัมพันธ์ ผู้โด่งดัง
ชื่อและรูปเธอปรากฏตามข่าวหนังสือพิมพ์และปกนิตยสารไม่เว้นแต่ละวัน-แต่ละสัปดาห์ เรียกว่าเป็น "ดาวเด่น" ประจำเมือง
ใครจะไปคิดว่า ๔-๕ ปี ต่อมา....
จะมีข่าว หญิงสาวผู้เพียบพร้อมและโดดเด่นในสังคมผู้นี้ จะตัดใจจากสังคมฟูเฟื่องเรื่องมายา บ่ายหน้าเข้าหาความจืดชืด สงบเหงา แต่มี "สุขแท้" เป็นเนื้อใน
หั่นผมสลวยที่ชมกันว่าเจ้าสวยยิ่งนักนั้นทิ้ง นุ่งขาว-ห่มขาว เป็น "แม่ชีสาวศันสนีย์"
ประกาศตนต่อองค์พระพุทธปฏิมา เป็น "พุทธสาวิกา" ไม่หันหลังกลับสู่โลกมายาอีกต่อไป!
ข่าวศันสนีย์ "รองมิสออด๊าซ" ดาวประดับเมือง ตัดขาดทางโลกมุ่งหน้าทางธรรม ช็อกวงการช่วงนั้้นมาก
ค้นหากันควั่ก อะไรหนอ เป็นจุดหักเห ดาวเด่น ไปเป็นแม่ชี?
จะว่าไปแล้ว เส้นทางชีวิตแม่ชี....
ประหนึ่ง "กำกุหลาบงามทั้งหนาม"มันทั้งหอมหวาน ทั้งเจ็บแปลบ-ปวดหนึบและเลือดปุด ทั้งคนกำและดอกกุุหลาบที่ถูกกำ
จะเรียก "บุพเพสันนิวาส" หรือจะเรียก "รักร่วมสู่รอยบุญ" ก็คงไม่ผิด เพราะรักแรก-รักเดียวกับหนุ่มใหญ่ "เสถียร เสถียรสุต" เจ้าของ "เพลินจิตอาเขต" นั้น
เป็นรัก "ชะตากรรม" ชักพา ทำให้รักทั้ง ๒ เปลี่ยนจาก "รักโลกีย์" ทางกาย เป็น "รักอุปัฏฐาก" ในทางธรรม
ในความเป็น "คู่กรรม" ร้อยจะมีซักหนึ่ง แยกสู่ทางร่วมในสถานะ "คู่ธรรม" ในทางเกื้อ
และในความเป็น "คู่ทางใจ" นิรันดร์ในความหมาย "คู่บุญ" ทุกภพ-ทุกชาติไป ก็เช่นกัน
ดังนาม "เสถียรธรรมสถาน" และทุกสิ่ง-ทุกอย่างในความเป็น "ธรรมสถานอุทิศ" ที่แม่ชีศันสนีย์ ดำริสร้างเป็นพุทธบูชา
"คุณเสถียร เสถียรสุต" เจ้าของย่านเพลินจิต เจ้าของค่ายมวย ส.เพลินจิต เจ้าของคอกม้า นักสะสมพระเครื่อง และฯลฯ
พลีอุทิศ สนองประสงค์แม่ชีศันสนีย์ จากวันนั้น ตราบวันสุดท้ายของลมหายใจคุณเสถียร ในวัยกว่า ๙๐
จะเห็นสีขาวแห่งความผูกพัน "บุญนำ-ธรรมเกื้อ" ต่อกัน ดังที่แม่ชีศันสนีย์ โพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อ ๔ ปีที่แล้ว ว่า
เสถียรธรรมสถาน Sathira Dhammasathan
เสถียร เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน เสียชีวิตจากไปแล้วอย่างสงบ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยทางแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต และเสถียรธรรมสถาน ขอเชิญร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ตั้งแต่ 10-15 ธันวาคม 2560 เวลา 19.00 น.
ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต (ถนนวัชรพล) ศาลา 10 โดยกรุณางดพวงหรีด และขอเชิญร่วมบุญมหากุศล สร้าง "ธรรมาศรม" Mindfulness Hospital ณ เสถียรธรรมสถาน
............................
แล้วเมื่อวาน ก็มีข่าวแถลงการณ์จาก "เสถียรธรรมสถาน" ว่า
ท่าน "แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต" ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย!
ก็เกิด "ธรรมสังเวช" ครับ!
พูดโดยวัย แม่ชีอายุแค่ ๖๘ ปี บอกตรงๆ ใจหาย ความจริงก็ทราบอาการป่วยจากโพสต์เสถียรธรรมสถานมานานแล้ว แต่ไม่คิดว่า จะได้เห็นแถลงการณ์ ประหนึ่งครั้งสุดท้าย
อ้าว....ขณะเขียนตอน ๒ ทุ่มกว่า ก็มีแถลงการณ์ ฉบับ ที่ ๒ ออกมาพอดี
เมื่อเวลาประมาณ 19.50 น.ที่ผ่านมา แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน
ได้คืนสู่ธรรมชาติของท่าน เมื่อเวลา 18.23 น.ของวันนี้ (7 ธ.ค.) สิริอายุ 68 ปี
“จากที่ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและเข้ารับการรักษาตั้งแต่ พ.ศ. 2560 โดยมีอาการดีขึ้นในช่วงปีแรก
และตรวจพบก้อนมะเร็งอีกครั้งในกลางปี 2563 และเข้ารับการรักษาโดยคณะแพทย์อย่างเต็มความสามารถ
กระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2564 พบว่าอาการไม่ปกติ อ่อนเพลียมาก คณะผู้ดูแลจึงพาท่านเข้ารับการรักษาอีกครั้ง
คณะแพทย์พบว่าก้อนมะเร็งได้ขยายขนาดและลุกลามอย่างมาก ผู้ดูแลจึงตัดสินใจพาท่านกลับมาพำนักที่เสถียรธรรมสถาน ตามปณิธานของท่าน ในวันที่ 6 ธันวาคม
และคืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 18.23 น.
สิริอายุ 68 ปี 1 เดือน 7 วัน และนับเป็น 41 พรรษาบนมรรคาแห่งการตื่น
เสถียรธรรมสถานและคณะศิษยานุศิษย์ จึงขอประกาศแจ้งข่าวการคืนสู่ธรรมชาติของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ให้ได้ทราบโดยทั่วกัน ด้วยความอาลัยยิ่ง
สำหรับกำหนดการอื่นๆ จะได้แจ้งให้ทราบในวันถัดไป
อืมมมม.......
แม่ชีศันสนีย์ผู้เป็น "เนื้อนาบุญประเสริฐ" กิจอันพึงทำเพื่อมนุษยชาติในภพนี้ แม่ชีได้ทำสมบูรณ์แล้ว
อันว่าร่างกายนั้น มี ๓ ประเภท คือ
กายธรรม, กายทิพย์, กายเนื้อ
สำหรับแม่ชีนั้น เพียง "กายเนื้อ" ดินคืนดิน, น้ำคืนน้ำ, ลมคืนลม, ไฟคืนไฟ
แม้นยังไม่ถึงขั้น "กายธรรม" แต่การดำเนินตามเส้นทางมรรค ๘ ของแม่ชี "กายทิพย์" เป็นเส้นทางที่ตรง
ดังนั้น "กายเนื้อ" แตกสลาย แต่ "แม่ชีศันสนีย์" จะอยู่ในภาวะ "กายทิพย์" ก็เป็นที่หวังได้.
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'Grab rider ต้วง'
ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา
สมรภูมิ ประชาธิปไตย | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
สมรภูมิ ประชาธิปไตย จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 08 ธันวาคม 2567
'ดร.บุญส่ง-นพ.ระวี' ส่องจุดจบ! ระบอบทักษิณ ภาค 2 | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 07 ธันวาคม 2567
'เลิกแล้วค่ะ...หนูเลิกแล้วค่ะ'
ตกลง "ขึ้น-ไม่ขึ้น" VAT จาก ๗% เป็น ๑๕% ตามแนวคิดรัฐบาลเพื่อไทย?
รัฐบาล (ไม่ใช่) บริษัทชิน
"กู้มาแจก-กู้มากิน-กู้มาโกง" ผลก็คือ "รัฐบาลถังแตก"!
'วันพ่อ-วันชาติ-วันดินโลก'
รู้มั้ย..... "๕ ธันวาคม" ของทุกปี เป็นวันอะไร? ทุกคนรู้.....