อาจจะดูเหมือนไม่ได้เกี่ยวโยงอะไรกัน แต่เมื่อ “หนี้ครัวเรือน” พุ่งไปที่ 90.6% ของ GDP ขณะที่ยอดส่งออกติดลบต่อเนื่องมา 8 เดือน
นั่นคือ “สัญญาณเตือนภัย” เศรษฐกิจที่รัฐบาลใหม่จะต้องลงมือแก้ไขให้ได้ตรงจุด, ทันการณ์และยั่งยืน
ขณะที่คนไทยกำลังรอการตั้งรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้ง ปัญหาเหล่านี้ยังรอคอยการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
การเมืองต้องโปร่งใส, ตอบโจทย์, และตรงเป้าจึงจะสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ฝังรากสังคมไทยมายาวนาน
และหนึ่งในปัญหาหนักอกอย่างยิ่งสำหรับผู้บริหารประเทศคือ “หนี้ครัวเรือน” ที่ยังไม่มีสูตรแก้ไขอย่างถาวรและยั่งยืน
ขณะเดียวกัน คำมั่นสัญญาของพรรคการเมืองในช่วงหาเสียงล้วนเป็นเรื่อง “ประชานิยม” ระยะสั้นเพื่อสร้างคะแนนเสียงให้กับตน
แต่น้อยพรรคจะมีนโยบายที่แน่ชัด และ “กล้าหาญ” เพียงพอที่จะยอมรับความจริงและพร้อมที่จะใช้มาตรการระยะกลางและระยะยาวที่แม้จะ “ยาก” และต้อง “เจ็บปวด” แต่ก็จำเป็นเพื่อการยิงให้ตรงเป้าและนำพาประเทศไปสู่
เส้นทางที่ยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของคนทุกกลุ่ม
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีชีวิตอยู่กับหนี้สินที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน
ล่าสุด เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่าได้มีการปรับปรุงข้อมูลสถิติ ‘หนี้สินครัวเรือน’ ใหม่เพื่อสะท้อนถึงภาพจริงของปัญหานี้
โดยให้ครอบคลุมหนี้ 4 กลุ่ม ‘หนี้ กยศ.-หนี้ประกอบธุรกิจ-หนี้การเคหะแห่งชาติ-หนี้พิโกไฟแนนซ์’
ผลจากการปรับปรุงข้อมูลสถิติครั้งนี้ดันให้ยอดหนี้ครัวเรือนไตรมาส 1/66 พุ่งแตะเกือบ 16 ล้านล้าน คิดเป็น 90.6% ต่อจีดีพี
คุณสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ทำการปรับปรุงสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน (หนี้สินครัวเรือน) ใหม่ ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น
เป้าหมายของการปรับปรุงแก้ไขครั้งนี้ก็เพื่อทำให้ข้อมูลดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพ มีความถี่ของการจัดเก็บข้อมูลที่สม่ำเสมอ และไม่ล่าช้าเกินไป
ทั้งนี้ การเผยแพร่ข้อมูลสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนใหม่ จะเริ่มตั้งแต่ข้อมูลในไตรมาส 1/2566 เป็นต้นไป
รายละเอียดเรื่องนี้มีความน่าสนใจเพราะเป็นการเจาะลึกลงไปถึงรากแก่นของคำว่า “หนี้ครัวเรือน” ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
โดยหวังว่าเมื่อวิเคราะห์และแยกแยะปัญหานี้ให้ลึกซึ้งและครอบคลุมแล้ว การหาสูตรเพื่อแก้ปัญหาก็จะได้ตรงเป้าและมีความชัดเจนมากขึ้น
คำอธิบายของ ธปท. ครั้งนี้บอกว่าการปรับปรุงข้อมูลสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนใหม่ จะมีการเพิ่มเติมข้อมูลให้ครอบคลุมกลุ่มหนี้ใน 4 กลุ่ม ยอดหนี้รวม 7.7 แสนล้านบาท ได้แก่
1.กลุ่มหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งมียอดหนี้ 4.83 แสนล้านบาท
2.กลุ่มหนี้สหกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่สหกรณ์ออมทรัพย์ เช่น สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน และสหกรณ์ที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพ อาทิ สหกรณ์การเกษตร เป็นต้น ซึ่งมียอดหนี้ 2.65 แสนล้านบาท จากเดิมที่เก็บสถิติเฉพาะหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์เท่านั้น
3.กลุ่มหนี้ที่เกี่ยวกับการเคหะแห่งชาติ ซึ่งมียอดหนี้ 1.1 หมื่นล้านบาท และ
4.กลุ่มหนี้พิโกไฟแนนซ์ ซึ่งมียอดหนี้ 6,000 ล้านบาท
คุณสักกะภพชี้แจงว่า
“ชุดข้อมูลที่เราได้มาใหม่นั้น เราได้รับมาย้อนหลังไปถึงปี 2555 ดังนั้น การปรับปรุงข้อมูล (สถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนชุดใหม่) จะอัพเดตย้อนหลังไปจนถึงปี 2555 และเราจะเริ่มเผยแพร่ตัวเลขตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ข้อมูลชุดนี้จะมีความครอบคลุมมากกว่าประเทศส่วนใหญ่ ทั้งในมิติผู้ให้กู้และเครื่องมือทางการเงินต่างๆ เพราะในหลายประเทศนั้น ข้อมูลหนี้ครัวเรือนของเขา จะไม่รวมหนี้ถึงเพื่อการประกอบอาชีพและหนี้เพื่อการศึกษา”
คุณสักกะภพ ระบุด้วยว่า การปรับปรุงสถิติเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือนใหม่หรือข้อมูล 'หนี้สินครัวเรือน' ในครั้งนี้ จะทำให้หนี้สินครัวเรือนของไทย ณ ไตรมาส 1/2566 มีจำนวน 15.96 ล้านล้านบาท หรือเกือบ 16 ล้านล้านบาท และคิดเป็น 90.6% ต่อจีดีพี
เมื่อเทียบกับข้อมูลหนี้สินครัวเรือนก่อนปรับปรุง ซึ่ง ณ ไตรมาส 1/2566 หนี้สินครัวเรือนมีจำนวน 15.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86.3% ต่อจีดีพี หรือเพิ่มจากข้อมูลก่อนปรับปรุงคิดเป็น 4.3% ต่อจีดีพี
คุณสักกะภพบอกด้วยว่าภายหลังการปรับปรุงข้อมูลแล้ว โครงการหนี้ครัวเรือนจำแนกตามวัตถุประสงค์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากข้อมูลก่อนปรับปรุงแต่อย่างใด
โดยหลังปรับปรุงข้อมูล หนี้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์จะมีสัดส่วนคิดเป็น 34% ของหนี้ทั้งหมด ,
หนี้เพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลมีสัดส่วน 27% ,
หนี้เพื่อการประกอบการอาชีพมีสัดส่วน 18% ,
หนี้ซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์มีสัดส่วน 11% ,
หนี้เพื่อการศึกษามีสัดส่วน 4%
และหนี้อื่นๆมีสัดส่วน 6%
เจ้าหน้าที่ ธปท. อธิบายว่า
“ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน เรามีกังวลในภาพรวมอยู่แล้ว แต่การปรับในครั้งนี้ อย่างที่เรียนไปมันไม่ใช่หนี้ใหม่ โดยหนี้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นหนี้เพื่อการประกอบธุรกิจ และหนี้เพื่อการศึกษา ซึ่งเราไม่ได้กังวลกับหนี้ในส่วนนี้มากนัก...
คุณสักกะภพย้ำว่าสิ่งที่เราทำในวันนี้ เป็นการทำให้ข้อมูลครบถ้วน และครอบคลุม ซึ่งหน่วยงานต่างๆสามารถใช้ข้อมูลชุดนี้ไปใช้ในการทำนโยบายเพื่อดูแลหนี้ครัวเรือนได้ต่อไป
แม้ว่าแบ็งก์ชาติจะบอกว่าตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่เปลี่ยนไปไม่ได้แปลว่าสถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม
เพราะ “ไม่ใช่หนี้ใหม่”
ส่วนใหญ่ยังเป็นหนี้เพื่อประกอบธุรกิจและหนี้เพื่อการศึกษา “ซึ่งเราไม่ได้กังวลกับหนี้ส่วนนี้มากนัก”
แต่ก็ยอมรับว่า “ปัญหาหนี้ครัวเรือน เรามีความกังวลในภาพรวมอยู่แล้ว...”
เอกชนรายงานว่าการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 แล้วนั้นกำลังจะส่งผลให้อัตราการผลิตเหลือเพียง 60%
หลายบริษัทกำลังพูดถึงการลดคน, ลดค่าใช้จ่ายอย่างน่ากังวลขณะที่ประเทศต้องการกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นคืนจากความเสื่อมทรุดของโรคระบาดโควิด
เมื่อหนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง แต่รายได้ของประชาชนกำลังหดหาย นั่นคือการซ้ำเติมที่จะกลายเป็นวิกฤตรอบใหม่ที่กำลังคุกคามคนไทย
สำหรับรัฐบาลใหม่ (ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ) นี่คือความท้าทายที่สำคัญยิ่ง
เพราะนี่คือปัญหาที่เซาะกร่อนความมั่นคงของชีวิตของคนไทยชนชั้นกลางและระดับรากหญ้าที่รอการแก้ไขอย่างจริงจังจากนักการเมืองที่กำลังต่อสู้เพื่อให้ได้ “อำนาจรัฐ” มารับใช้ประชาชน
บทพิสูจน์รอคอยผู้ต้องการอำนาจบริหารประเทศอยู่ตรงหน้านี้แล้ว!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


