การจากลาพรรคประชาธิปัตย์ของ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ พี่น้องร่วมพรรคมีทั้งดีใจและเสียใจ หลายคนโพสต์แสดงทัศนะของตัวเองในเรื่องนี้ แต่บุคคลหนึ่งที่ออกมาเคลื่อนไหวไว้อย่างน่าสนใจ คือ อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
หัวอกคนเคยออกจากพรรคแล้วกลับมาใหม่ บอกว่ารักและห่วงเพื่อนที่จากไปทุกคน ได้อ่านข่าวเห็นท่านชวน หลีกภัย เตือนว่าไปแล้วให้รักษาอุดมการณ์ อย่าถูกกลืน คิดว่าเป็นการฝากหลักการหลักคิดในการครองตนของคนประชาธิปัตย์ที่ออกจากพรรคไปอยู่ที่อื่น
ตนเป็นคนหนึ่งที่เคยออกจากพรรคไปเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปฯ ตอนนั้นหมกมุ่นคิดฝันแต่เรื่องการปฏิรูปพรรคปฏิรูปประเทศ
ตั้งใจไปทำแผนปฏิรูปประเทศเหมือนสถาปนิกออกแบบพิมพ์เขียวเสร็จก็จบงาน 2 ปีกว่าที่อยู่ท่ามกลางอำนาจและโอกาส แถมมีตำแหน่งเป็นรองประธาน สปท. คนที่ 1 ลาภ ยศ สรรเสริญกองอยู่ตรงหน้า ถ้าเดินต่อบนเส้นทางนั้น มันก็น่าจะถูกกลืนเหลือเกิน ถ้าคิดเห็นแก่ตัวเพื่อประโยชน์และอนาคตของตัวเอง
แต่สุดท้ายตัดสินใจกลับพรรคที่เป็นบ้านหลังเก่า ซึ่งมีคำถามตามมาว่าทำไมถึงกลับมา
ตนบอกว่ามี 4 เหตุผลหลัก คือ 1.ถ้าจะเดินต่อทางการเมืองไปอยู่พรรคใหม่ ก็ต้องสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ ตนทำไม่ได้ที่จะต้องรบราทำศึกกับพี่น้องของตน และประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองที่ต้องรักษาไว้
2.เมื่อครั้งเดินทางเข้าพรรคสมัครเป็นสมาชิกลงเลือกตั้งที่เพชรบุรีปี 2535/1 บนเวทีปราศรัยที่สนามหน้าเขาวัง มีท่านชวน หัวหน้าพรรค ในขณะนั้นนั่งอยู่ด้วย ตนประกาศกับประชาชนคนเมืองเพชรว่า ตนเกิดที่พรรคประชาธิปัตย์และจะตายที่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียว
3.ตนอยากกลับมาปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ตามฝันที่คิดไว้ตอนเสนอปฏิรูปพรรคเมื่อปี 2556
4.บ้านเมืองยังวิกฤต ประชาธิปัตย์คือความหวังเพราะเป็นสถาบันการเมืองหลัก
“ผมเลือกกลับมาทั้งที่ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และจะอยู่อย่างไรในปลายปี 2561 เพราะผมคงเป็นคนเดียวที่ทั้งก่อนจากไปและเมื่อกลับมาโดนดุด่าว่ากล่าวหนักหนาสาหัสมากจากพี่ๆ น้องๆ ในพรรค ถ้าคิดน้อยใจหรือไม่อดทนก็คงพกความแค้นติดตัวเตลิดไปแล้ว”
“อลงกรณ์” ตบท้ายว่า เขียนมาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และเป็นอีกข้อคิดเตือนใจ สำหรับชาวประชาธิปัตย์ทุกคนที่เมื่อถึงโมเมนต์ต้องตัดสินใจ หรือถ้าไปแล้วก็กลับมาได้ ถ้าอุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงหรือถูกกลืนเสียก่อน ตามข้อเตือนใจของท่านชวน.
มินนี่เมาธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใช้ซื้อข้าวมาแล้ว
ตั้งแต่ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม อดีตที่ปรึกษาของนายกฯ หายไปด้วย
อ่อนกว่าวัย
ไม่น่าเชื่อในวันที่ 13 ม.ค. 2568 รัฐมนตรี 17 สมัย อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข จะมีอายุครบ 70 ปี เนื่องจากรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่าวัยมาก เหมือนกับคนอายุประมาณ 50 ปีเศษเท่านั้น
ขอติดทีมชาติไทย
นักการเมืองไทยรุ่นเก๋าหลายคนบ่นอุบ ยอมรับว่าเปลี่ยนยุคไปไว มีสส.หน้าใหม่เข้าสู่วงการจำนวนมาก ส่วนสส.รุ่นใหญ่นับวันก็จะมีแต่คนโบกมืออำลาวงการ ส่วนใครที่ยังใจรักก็อยู่ทำงานต่อแบบเหงาๆ เพราะเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกันก็ออกไปนั่งดูอยู่ห่างๆ แทน
'ลูกชิ้นปลาหมอคางดำ'
เริ่มแล้วกับงานวันรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2567 โดยในปีนี้ทางรัฐสภาได้จัดงานภายใต้คอนเซปต์ "กินลม ชมสภา" สู่รัฐธรรมนูญในฝัน ระหว่างวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม ซึ่งในวันแรกบรรยากาศสดใส เหล่าข้าราชการ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างมาตั้งร้านขายของกันภายในงาน
แชร์กันใส่เครื่องแต่งตัว
ว่าด้วยเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ของผู้นำประเทศ อย่าง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ส่วนใหญ่เจ้าตัวจะเน้นใส่ผ้าไทยตามสไตล์เจ้าแม่ซอฟต์พาวเวอร์
ถามเรื่องวัดแล้ว
เป็นผู้ใหญ่ใจดี สำหรับ อ.ชู-ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายประจำรัฐบาลและประจำค่ายเพื่อไทย