ว่าด้วยบรรยากาศการเมืองไทย

อาจจะดูจืดๆ อยู่มั่ง!!!...สำหรับการพูดถึงการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. ในช่วงนี้ เพราะเห็นว่าอาจต้องชักสะพานแหงนเถ่อรอคอยไปถึงช่วงกลางๆ หรือช่วงใกล้ๆ ปลายปีหน้า โน่นเลย บรรดาชาว กทม.เมืองแห่งคนตกท่อทั้งหลาย ถึงจะได้มีโอกาส เขย่าประชาธิปไตยในมือของท่าน ได้อย่างเป็นงาน เป็นการ และเป็นจริง เป็นจัง...

----------------------------------------------------

แต่ก็นั่นแหละ...การเปิดตัว เปิดผ้าม่านกั้ง ว่าใครเป็นใคร  ไผเป็นไผ เอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ ก็อาจต้องถือว่า เก๋ไปอีกแบบ  อย่างน้อย...การได้มีชื่อติดหู ติดตา และติดปากผู้คนต่างๆ เอาไว้มั่ง ย่อมถือเป็นการออกสตาร์ทด้วยความมั่นอก-มั่นใจ และไม่มีอะไรผิดกติกาแต่อย่างใด โดยผู้ที่น่าจะถือว่าเป็นผู้ออกวิ่ง ออกวอร์ม ก่อนใครเขาเพื่อน คงหนีไม่พ้นไปจาก 

บุรุษผู้กล้ามใหญ่ (ประทานโทษ) บุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี อย่างคุณพี่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เขานั่นแหละ ที่พร้อมจะสลัดความเป็น ว่าที่ ในเรื่องอื่นๆ หันมาแสดงความตั้งอก-ตั้งใจ ที่จะเป็น ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. รายต่อไปให้จงได้...

-----------------------------------------------------

ส่วนประเภทบิ๊กป๊ง บิ๊กแป๊ะ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่โดยหน่วยก้าน แนวโน้ม ก็ไม่ถึงกับเป็นรองใครต่อใครเค้าซักเท่าไหร่ แต่จะด้วยเหตุผลกลใด ก็ยากจะอธิบายได้  เห็นว่า...ถอดใจ ถอดเขี้ยว ถอดงาและถอดเล็บไปซะแว้วว์ว์ว์ ปล่อยให้อดีตตำรวจและอดีตรองผู้ว่าฯ ที่ส้มหล่น บุญหล่นใส่ ชักหัวแม่เท้าข้างซ้ายหนียังไงก็หนีไม่ทัน ชนิดได้ผงาดขึ้นชั้น มาเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน โดยความอนุเคราะห์ของ  คสช. เขานั่นแหละ หรือผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง ที่ชักดูจะออกอาการติดอก-ติดใจ ต่อสถานะ ตำแหน่งดังกล่าวมิใช่น้อย  กลายเป็นแคนดิเดตไปแทนที่ แต่จะอยู่คอกไหน สีเสื้อแบบไหน มาถึง ณ ขณะนี้ ก็ยังไม่ถึงกับสามารถฟันธงและฟันเฟิร์มลงไปได้ชัดๆ...

------------------------------------------------------

สำหรับอีกรายที่โผล่ขึ้นมาแบบใหม่ๆ หมาดๆ ซึ่งออกจะมีชื่อเรียกยาก สะกดยาก อยู่พอสมควรเหมือนกัน คือ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อะไรประมาณนั้น เห็นว่า...ค่าย หรือคอก ประชาธิกัด กทม.อาจส่งเข้าประกวดแข่งขัน หรือไม่?  อย่างไร? ก็คงต้องรอไปตัดสินใจกันดูอีกที แต่โดยสรุปรวมความแล้ว ยังไม่น่าจะถึงกับตื่นเต้ลล์ล์ล์ ฮือฮา โดยเฉพาะเมื่อเทียบน้ำหนักแบบปอนด์ต่อปอนด์ กับ หญิงนักสู้ หรือ หญิงเหล็ก อย่างคุณ รสนา โตสิตระกูล ที่ก็เคยป่าวประกาศมาตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันโห่ ว่าอาจตัดสินใจลงประกวด ลงชิง ในสนามการเมืองสนามนี้อีกด้วยเช่นกัน...

--------------------------------------------------------

ส่วนใครจะอยู่-ใครจะไป ใครมาแรง-แซงโค้ง...คงต้องรอไปจนกว่าจะเข้า โค้งวัดเบญจะ นั่นแหละทั่น!!! หรือคงต้องชักสะพานแหงนเถ่อรอไปจนประมาณกลางปี ปลายปีหน้า โน่นเลย ถึงพอจะเกิดสีสัน เกิดบรรยากาศ ที่ชวนให้น่ารัก น่าลุ้น กันอย่างจริงๆ จังๆ อย่างเป็นระบบและกิจการ ไม่ถึงกับแห้งแหงแก๋แบบช่วงระหว่างนี้มากมายเกินไปนัก ที่แม้จะเปิดตัว เปิดผ้าม่านกั้ง กันยังไงก็แล้วแต่ ก็ยังออกไปทาง...งั้นๆ!!! เทียบไม่ได้กับการเปิดตัวกลุ่มสามมิตร กลุ่มสาม ส. การตั้งกลุ่ม ตั้งค่าย ย้ายค่าย ย้ายพรรค ย้ายกลุ่ม ย้ายมุ้ง ของพวก  ส.ส. เขา ที่แม้จะต้องชักสะพานแหงนเถ่อรอคอยไปอีกถึง 2  ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย หรือประมาณปีพุทธศักราช 2566  ตามคำป่าวประกาศ ตามการยืนยัน นั่งยัน และนอนยัน ของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ว่ายังไงๆ...คงต้อง อยู่ยาวว์ว์ว์ อยู่แล้วแน่ๆ...

---------------------------------------------------------

แต่ก็แปลก!!!...ที่กลับไม่ได้ก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ-เรียบ-นิ่ง อย่างเท่าที่ควรจะเป็น ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเต็มไปด้วยอาการ พล่านน์น์น์ เกิดการขยับปีก ขยับหาง การขยับเขี้ยว เสริมเขี้ยวด้วยระบบไฮดรอลิก จนทำให้กลายเป็นข่าวคราวพาดหัว โปรยหัว กลายเป็นเรื่องที่ถูกนำไปซุบซิบ นินทา ยิ่งกว่าเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ทั้งๆ ที่ระยะห่างระหว่างการเลือกตั้ง ส.ส. กับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ห่างไกลกันไปเป็นปีๆ แต่จะด้วยเหตุผลกลใดก็มิอาจสรุปได้ มันถึงทำให้สีสัน บรรยากาศ ของการเลือก ส.ส.ครั้งใหม่ กลับเข้มข้นและขุ่นคลั่ก ยิ่งกว่าการเลือกผู้ว่าฯ กทม.รายใหม่ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน...

---------------------------------------------------------------

คือคล้ายๆ กับอาจต้องเลือก ส.ส.กันในวันนี้ วันพรุ่งนี้ ยังไงยังงั้น หรือคล้ายๆ กับสภาผู้แทนราษฎรยุคปัจจุบัน กำลังใกล้จะ หมดสภาพ เต็มที บรรดาสิงสาราสัตว์ หรือบรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด กระซู่ และสมเสร็จ ฯลฯ ถึงได้เคลื่อนไหว เคลื่อนที่ย้ายไปโน่น ย้ายมานี่ ตั้งกลุ่ม ตั้งมุ้ง ตั้งกระบอกสูบเอาไว้ดึง เอาไว้ดูด ใครต่อใครให้มาเข้าคอก เข้าค่ายของตัวเอง อย่างเป็นระบบเป็นกิจการและเป็นกระบวนการ อันนี้นี่แหละ...ที่เลยทำให้ผู้ที่คิดจะ อยู่ยาวว์ว์ว์ หรืออยู่ไปจนครบอีก 2 ปีข้างหน้า อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา เลยออกอาการง่อกๆ แง่กๆ ง่อนๆ แง่นๆ จนแทบไม่รู้ว่าจะมีสิทธิ์อยู่ไปจนกว่า สภาฯ ล่ม หรือ ยุบสภาฯ หรือจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตีความ แปลความ เรื่องอายุของความเป็นนายกรัฐมนตรีไปในแบบไหน??? ทำนองไหน???

-----------------------------------------------------------

สรุปรวมความแล้ว...ความแน่นอน ในช่วงนี้ ก็คือ  ความไม่แน่นอน นั่นเอง!!! พอๆ กับการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสสายพันธุ์เก่า-สายพันธุ์ใหม่เขานั่นแหละ ที่ยังไม่อาจสรุปได้ ไม่อาจคาดคะเนได้ ว่าผลสรุปท้ายมันจะแฮปปี้ เอนดิง หรือจะหักมุมไปในแง่ไหนต่อแง่ไหน ด้วยเหตุนี้...บรรดาปุถุชน ประชาชน อย่างเราๆ-ทั่นๆ คงต้องหาทางยกการ์ด สวมการ์ด ต้องระมัดระวังตัวกันเอาเองนั่นแหละเป็นหลัก ไม่ว่า Delta มันจะแรงกว่า Omicron หรือ Omicron มันจะเร็วกว่า Delta แต่สุดท้าย...ก็อย่าให้ถึงกับต้อง ป่วยตาย หรือ อดตาย ไปซะก่อนก็แล้วกัน...

-------------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก ภาษิต-คำคม คณะพุทธนิคม เชียงใหม่...When the period of your life  shortened, be careful not to lengthen egoism and  vanity. - เมื่อชีวิตสั้นเข้า...อย่าปล่อยให้ตัวกู-ของกู ยาวออกไป...”

-----------------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น