บันทึกหน้า4

ต้องเรียกว่าศึกชิง “ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ” หรือประธานสภาผู้แทนราษฎรช่างดุเดือดเลือดพล่านเสียจริงๆ นี่ขนาดมีแค่ 2 พรรคเท่านั้นในการชิงดำเก้าอี้ดังกล่าว ยังฟัดแย่งชามข้าวกันไม่เลิกมาตั้งแต่เดือนเมษายนจนจะสิ้นมิถุนายนแล้วก็ยังไม่สะเด็ดน้ำกันเลย งานนี้เลยทำให้ “วงกาแฟ” ถึงกับบ่นให้แซ่ด แล้วนโยบายหาเสียงทั้งของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ยังไม่รวมอีก 6 พรรคร่วมรัฐบาลที่มากกว่า 200-300 นโยบายนั้น จะตกผลึกลงตัวได้หรือ เพราะแค่ขนาดเก้าอี้เดียวยังแย่งยังยื้อกันยาวนานขนาดนี้ ...๐

หลังผลการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. บรรดา พรรคก้าวไกลและเพื่อไทยต่างกระจองอแงบอกให้ “กกต.” ในบังเหียนของ “อิทธิพร บุญประคอง” รีบรับรองจะได้ฟอร์มรัฐบาลเข้ามาทำให้ความเจริญของประเทศพุ่งพรวด แต่นับตั้งแต่ 20 เม.ย. จนถึงมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 ก.ค.นี้แล้ว ก็ไม่เห็นมีรูปธรรมอะไรออกมาเลย นอกจากมีลิเกสลับฉากว่าด้วยคณะทำงานสารพัดชุดที่ก็ยังไม่ครบ 23 ข้อตามเอ็มโอยูเสียด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่า นับตั้งแต่ผลการเลือกตั้งออกมาจนถึงวันนี้ ตลาดหุ้นถึงได้แดงเถือกรายวันอย่างต่อเนื่อง ...๐

แม้ล่าสุด “เพื่อไทย” ที่ส่ง “ชลน่าน ศรีแก้ว” เป็นผู้เจรจาว่าด้วยเก้าอี้ประธานสภาฯ ซึ่งได้ชงสูตร 14+1 ไปแล้ว มีการแพลมออกมาอาจมีสูตร 15+1 แทนเพื่อให้ “ก้าวไกล” เสียหน้าในการคว้าเก้าอี้นั้น ก็น่าจะไปไม่รอดอีกเช่นกัน เพราะก้าวไกลก็เล่นตีฆ้องร้องป่าวประกาศวิสัยทัศน์แคนดิเดตประธานสภาฯ อย่าง “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” ส.ส.พิษณุโลกมาตั้งแต่ไก่โห่ ก่อนพรรคเพื่อไทยจะชงสูตร 14+1 เสียอีก ...๐

งานนี้ก็เลยเล่นเอา “วัน อยู่บำรุง” สมาชิกพรรคเพื่อไทยถึงกับต้องออกโรงบอกพรรคให้เปิดแคนดิเดตบ้าง เพื่อจะได้วัดวิสัยทัศน์กันไปเลย แหม! ป๋าวันก็น่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าแคนดิเดตนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “สุชาติ ตันเจริญ” อดีตรองประธานสภาฯ ที่ไปผ่าฟันมาหมาดๆ ทำให้ช่วงนี้ไม่ค่อยพูดหรือไม่ค่อยออกสื่อนั่นแล ...๐

ที่สำคัญการแย่งชามข้าว “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ครั้งนี้ไม่ได้เดือดเฉพาะสมาชิกพรรคของทั้ง 2 ฝ่ายเท่านั้น เพราะหากลองไปดูในโลกโซเชียล และปฏิบัติการไอโอของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยด้วยแล้ว ก็ต้องบอกเด็ดสะระตี่เสียเหลือเกิน เพราะมีการงัดหลักการหลักกูว่าด้วย Democracy ของแต่ละสำนัก แต่ละความเชื่อของ “นางแบก” และ “ด้อมส้ม” แบบแลกหมัดกันเลือดอาบทั้ง 2 ฝ่ายทีเดียว สะท้อนได้อย่างชัดเจนว่าปากที่พร่ำเรื่องประชาธิปไตยนั้น สุดท้ายก็อีหรอบเดียวกับที่ด่าอีกฝ่ายว่าเป็นเผด็จการนั่นแล ซ้ำร้ายยังดูเหมือนจะน่ารังเกียจมากกว่าด้วยซ้ำเมื่อมีเรื่องของอำนาจ-หัวโขนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่ง ล่าสุดดูเหมือนทั้ง 2 พรรคก็กำหนดเดดไลน์ใหม่ในการเจรจาต้าอ่วยในการเคาะเก้าอี้ให้เบ็ดเสร็จแล้วในวันที่ 2 ก.ค.2566 เรียกว่าเร่งสรุปแบบไฟลนก้นให้จบก่อนวันโหวตจริงแบบเฉียดฉิวกันเลย ...๐

งานนี้ก็อยากให้ลองไปฟังไปดู “ชวน หลีกภัย” อดีตประธานรัฐสภา ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านทีวีรัฐสภา ในรายการ 91 ปี ก้าวแห่งความมั่นคงรัฐสภาไทย เนื่องในวันสถาปนารัฐสภา ที่บอกว่า หากเอาทุกอย่างเรื่องก็ไม่จบ ก็น่าจะเตือนสติและเตือนใจได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ “ประธานชวน” ยังตอกย้ำด้วยว่าประธานสภาฯ กับการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น ดูเหมือนสัมพันธ์กัน แต่จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งที่ประธานชวนต้องพูดและอธิบาย เพราะเชื่อว่า “ก้าวไกล” คงหวาดผวาว่าจะซ้ำรอยยุค “อาทิตย์ อุไรรัตน์” เป็นประธานสภาฯ ที่มีการเปลี่ยนชื่อในการทูลเกล้าฯ ถวายนั่นแล ซึ่งในความเป็นจริงนั้นไม่สามารถทำได้ ก็เหมือนกับที่ไม่สามารถยกเลิกให้โหวตกันเองได้ โดยต้องมี ส.ว.ด้วย ยกเว้นแต่จะรวบรวมเสียงได้ 376 เสียง อย่างนั้นก็ไร้ปัญหา ...๐

สิ่งน่าปริวิตกคงไม่ใช่เรื่อง “ประธานสภาฯ” หรอก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เสียมากกว่า เพราะนอกจากมีคดีคาราคาซัง รวมทั้งข้อสงสัยในคุณสมบัติแบบพะเรอเกวียนแล้ว ล่าสุดยังมีกรณี “สันธนะ ประยูรรัตน์” สมาชิกพรรคก้าวไกลที่ไปให้ถ้อยคำกับ กกต.ในเรื่อง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ทั้งเรื่องทำร้ายร่างกายในพรรคเอย การให้เป็นผู้ช่วยหาเสียงทั้งที่ไม่มีการแต่งตั้งเอย ซึ่งเรื่องนี้ “สันธนะ” ยังยอมรับเองว่าเป็นเรื่องเล็กจ้อย แต่ กลับจะเป็นยอดหญ้าที่จะทำให้ “พิธา” หัวทิ่มหัวตำไม่ได้เป็นนายกฯ แน่นอน แหม งานนี้ต้องบอกว่า “ด้อมส้ม” เตรียมทำใจกันไว้บ้างก็ดี เพราะพรรคตัวเองดันมั่นใจในการส่งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหัวเดียวกระเทียมลีบ หากมีอันเป็นไปก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเสนอชื่อแคนดิเดตพรรคอันดับสองเข้าชิง หรือ จะยกเก้าอี้ให้ตั้งแต่ตอนนี้เพื่อแลกกับเก้าอี้ประธานสภาฯ เลยก็น่าจะดีนะ เพราะสุดท้ายแล้วก็เป็นพรรคฝั่งประชาธิปไตยที่ได้บริหารประเทศมิใช่เหรอ ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

"นายหัวชวน" ออกโรงตวัดใบมีดโกนกรีดปาก "นายใหญ่" เจ้าของตำแหน่ง สทร. "คุณทักษิณบอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ผมเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง

บันทึกหน้า 4

ต้องยกนิ้วให้ “โทนี่ วู้ดซัม” เสียจริงๆ เพราะขยับปากแต่ละทีนอกจากสร้างความฮือฮาให้สังคมแล้ว ยัง สร้างภาระให้กับลูกสาวอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีอีกด้วย โดยล่าสุดก็ในการไปหาเสียงให้ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ศรีภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่จะลงชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นั่นแล ...๐

บันทึกหน้า 4

เมื่อวันอังคารมีการประชุม ครม.ครั้งแรกในปี 2568 หลังจากผ่านวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแก้ตัวแทน พ่อนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร

บันทึกหน้า 4

” นึกว่าจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อบจ.เชียงราย แต่ที่ไหนได้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาล โชว์บทบาทกำหนดทิศทางการทำงานของประเทศ การปรับ ครม. แถมยังด่ากราดคนเห็นต่างในหลายประเด็น

บันทึกหน้า 4

เปิดบันทึกด้วยความตะลึงตึงตึงกับตำแหน่ง "ที่สุด" อีกครั้งของนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีทรัพย์สินอยู่ถึง 13,846 ล้านบาท และตัวเลขที่ออกนี้ วิเคราะห์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า อาจจะเป็นนายกฯ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกนะเออ!! ...0

บันทึกหน้า 4

หลังกลับเข้าสู่โหมดการทำงาน-การใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ ตามปฏิทินประจำปี 2568 กันแล้ว ตลอดปี 2568 ที่เป็นปีมะเส็ง นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักก็ยังมองว่า การเมืองไทยปีหน้า ก็ยังมีหลายเรื่องให้น่าติดตาม เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.พ.2568