“เปลี่ยนวันชาติเพื่อ?”

พรรคก้าวไกล อาจสะดุดการกระทำของตัวเองเพราะมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่หลายประการ  อย่างล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกลเสนอให้เปลี่ยน "วันชาติ" จากวันที่ 5 ธันวาคม กลับไปเป็นวันที่ 24 มิถุนายน คำถามจึงเกิดขึ้นต้องการเปลี่ยนเพื่ออะไร  

สำหรับ "วันชาติ" ของไทย หลายคนอาจจะไม่รู้ ก่อนหน้าเคยเป็นวันที่ 24 มิถุนายน  ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นประชาธิปไตย   โดย พ.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา (ยศขณะนั้น) ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 18 กรกฎาคม 2481 ระบุถึงเรื่องวันชาติว่า  “ด้วยคณะรัฐมนตรีประชุมปรึกษาและลงมติว่า วันที่ 24 มิถุนายน ย่อมถือว่าเป็นวันชาติ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”

ก่อนจะถูกยกเลิกหลังผ่านไป 21 ปี โดยรัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 21 พฤษภาคม 2503 ระบุว่า ให้ถือ ‘วันพระราชสมภพ’ เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยแทน

ด้วยครม.ได้พิจารณาเห็นว่า ตามที่ได้กำหนดให้มีการเฉลิมฉลองวันชาติไทยในวันที่ 24 มิถุนายนนั้น ได้ปรากฏในภายหลังว่า มีข้อที่ไม่เหมาะสมหลายประการ ในด้านประชาชนและหนังสือพิมพ์ก็ได้เสนอแนะให้พิจารณาในเรื่องนี้หลายครั้งหลายคราว

โดยถือเอาวันประกาศเอกราชวันอิสรภาพ วันตั้งถิ่นฐาน วันสาธารณรัฐ วันสถาปนาพระราชวงศ์บ้าง ซึ่งไม่เหมือนกัน แต่ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติโดยทั่วไปนั้น ได้ถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติ เช่น ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน ญี่ปุ่น ฯลฯ เป็นต้น

แม้ประเทศไทยเราเองก็ได้ถือเอาวันพระราชสมภพเป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยมาแล้ว เพิ่งจะมากำหนดเอาวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันชาติเพิ่มขึ้นอีกวันหนึ่งในระยะหลังนี้เอง

 “คณะกรรมการฯ จึงมีความเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามขนบประเพณีของประเทศที่พระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็นการสมัครสมานสามัคคีรวมจิตใจของบุคคลในชาติโดยทั่วกัน จึงสมควรจะถือเอาวันพระราชสมภพของพระมหากษัตริย์เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทยต่อไป โดยยกเลิกวันชาติในวันที่ 24 มิถุนายน หลังจากนั้นเป็นต้นมา วันชาติของประเทศไทยจึงกลับมาเป็นวันที่ 5 ธันวาคม  

ด้วยข้อมูลเหล่านี้จึงพอจะคาดเดาได้ว่า ส.ส.โรม ต้องการอะไร

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งตีปี๊บผลงาน

อยู่ในช่วงเร่งตีปี๊บผลงานรัฐบาลแบบด่วนๆ ตามดำริของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายแก่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย “หมอชัย” ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ

“ชัยชนะ=อดทน”

“เกือบหลับ แต่กลับมาได้ ” มีให้เห็นเสมอ สำหรับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)

ให้ฟัง อ.วิษณุ

ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นกุนซือของ เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม มาทำงานอย่างเคร่งครัด

ต้อนรับพรรคคอมฯ เวียดนาม

การเมืองกำลังฮึ่มๆ รายวัน ส่วนใหญ่เน้นไปทางความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคอื่นดูเหมือนนานๆ ทีจะเป็นที่กล่าวถึง

“ยิ้มสยบ”

นับว่าเรื่องนี้ยาวติดต่อกันมาหลายวัน สำหรับ “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ได้คะแนนสูงสุดในการเลือกสว.ระดับประเทศในลำดับที่ 1 แต่สังคมไทยก็ยังมีเรื่องแคลนใจจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหาวิทยาลัยที่เรียน หรือวุฒิการศึกษา ล่าสุดมีคนในโซเชียลได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในหลายทาง

คุณพ่อลูกสอง

ยังทำงานแข็งขันดรีมทีมกันต่อ สำหรับทีมโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่นำโดย “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรค พร้อมด้วยรองโฆษก “เนน่” รัดเกล้า สุวรรณคีรี , “เบียร์” ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ และ “ลอรี่” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ