กฤษณาสอนน้อง!!!

ยังอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะถึง เดือนตุลา. แต่จู่ๆ ดันหวนคิดถึงเดือนเดือนนี้ขึ้นมาแบบไหน? ยังไง? ก็มิอาจสรุปได้ เดือนที่เคยก่อให้เกิด เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ระดับสำคัญมิใช่น้อย ไม่ว่าเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 หรือ 6 ตุลาคม 2519 ก็ตามที จนบรรดาวีรบุรุษ วีรชนบางราย ไม่ว่าที่ชำรุด-ไม่ชำรุดก็แล้วแต่ ต่างภาคภูมิใจเรียกขานตัวเองว่า คนเดือนตุลา. อะไรทำนองนั้น

แม้แต่อันตัวข้าพเจ้าเอง...ที่ยังคงนุ่งกางเกงขาสั้น เมื่อช่วงตุลาคม 2516 แต่ถึงขั้น ดังคับซอย ขึ้นมาจนได้ เพราะเพียงแค่มีโอกาสไปนอนกลิ้ง นอนหงาย กับเพื่อนรัก-เพื่อนตาย อย่าง นินทร์ ระนอง แถวๆ กลางถนนราชดำเนิน

ในช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลา. นั่นแหละ จนอดีตนายทหาร นายพลเกษียณราชการ ที่มีบ้านอยู่ก้นซอย ท่านต้องส่งเทียบเชิญให้ไปพูดจา เสวนา ที่บ้านท่าน ด้วยความใคร่รู้ ใคร่เข้าใจ ว่าบรรดาพวกเด็กๆ หรือ คนรุ่นใหม่ ในขณะนั้น คิดยังไง รู้สึกยังไง กันแน่ ส่งผลให้ตัวเองเลยพลอยเป็น คนเดือนตุลา. กับเขาไปด้วย จนต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธมาตราบเท่าทุกวันนี้

แต่จะด้วยความดัง ความปลาบปลื้ม ชื่นชม ยินดี ที่ใครต่อใครมีต่อบรรดา นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา ที่สามารถเอาชนะ รัฐบาลทหาร ซึ่งมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ-เด็ดขาด หรือไม่? อย่างไร? ก็มิอาจสรุปได้ถนัดชัดเจน เลยทำให้ความ กูเป็นนิสิตนักศึกษา จึงเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร กลายเป็น นักศึกษาชุบแป้งทอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา หรือเป็นอะไรที่ใหญ่เกินกว่าความเป็นตัวตนของตน กว่าความเป็นนักศึกษาธรรมดาโดยทั่วไป เรียกว่า...ตั้งแต่ทำเนียบรัฐบาลลงมา ถึงหน่วยงานราชการ กรม กองต่างๆ นักธุรกิจเจ้าของบริษัท ร้านค้า โรงงาน ฯลฯ ไปจนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ตามเถียงนา-เถียงไร่ ต่างหวาดหวั่น ครั่นคร้าม ต่อความ กูเป็นนิสิตนักศึกษา ไปด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อบรรดาองค์กร ขบวนการของนักศึกษา พยายามเข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพัน ในเรื่องแทบจะทุกเรื่อง แม้ไม่ใช่เรื่องนักศึกษาโดยตรงก็ตามที ระดับใครที่ขวางหู ขวางตา นิสิต-นักศึกษาขึ้นมาเมื่อไหร่ ย่อมมีสิทธิ์ต้องเจอกับทัวร์ลง หรือเจอทัวร์ที่นักศึกษาจัดให้ ชนิดชุลมุน วุ่นวาย ไปตามๆ กัน

และนั่นเอง...ที่ทำให้ความปลาบปลื้ม ชื่นชม ยินดี ซึ่งใครต่อใครมีต่อบรรดานิสิต-นักศึกษา ชนิดอาจมากกว่า 14 ล้านเสียงเอาเลยด้วยซ้ำ เลยต้องมีอันแห้งลง-แห้งลง เตี้ยลง-เตี้ยลง ไปตามลำดับ ถึงขั้นบางกลุ่ม-บางราย แปรสภาพ แปรเปลี่ยนไปเป็นความโกรธ เกลียด เคียดแค้นและชิงชัง เอาเลยก็ยังมี โดยเฉพาะพวกที่ตั้งตัวเป็น ฝ่ายตรงข้าม กับนักศึกษาทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้...เพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น!!! จากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เลยต้องจบลงที่เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เหตุการณ์ โศกนาฏกรรม ที่สุดแสนเหี้ยมโหด อำมหิต ระหว่างคนไทยกับคนไทยด้วยกัน จนแทบไม่อยากจะจดจำ ไม่อยากเน้นย้ำ ให้ต้องกลายเป็นความ อาฆาต-พยาบาท อันไม่ได้ก่อให้เกิดการ สร้างสรรค์ ใดๆ แม้แต่น้อย

เหตุที่ต้องหยิบเอาเรื่อง 14 ตุลา.-6 ตุลา. มาพูดจาว่ากล่าวกันในอาทิตย์นี้ ก็คงไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกทั่น ส่วนหนึ่งอาจด้วยเหตุเพราะเสียงแห่งความปลาบปลื้ม ชื่นชม ยินดี ต่อ ชัยชนะเลือกตั้ง ของพรรคการเมืองอย่าง พรรคก้าวไกล ในช่วงระหว่างนี้ มันช่างเป็นอะไรที่ออกจะแผ่ซ่าน ก้องกังวาน เสียเหลือเกิน ชนิดถ้าหากใครคิดไปขัดอก-ขัดใจต่อบรรดา คนรุ่นใหม่ ประเภทคุณหลาน ทิม-พิธา หรือคุณน้อง ธนาธร-ปิยบุตร-คุณช่อ ตลอดไปจนคุณหลานตะวัน แบมและหยก ฯลฯลฯ อะไรประมาณนั้น ย่อมมีสิทธิ์ต้องเจอกับทัวร์ลง ชนิดมากันเป็นขบวนรถบัส แถมรถกะบะ รถซาเล้ง ร่วมขบวนมาด้วยเอาเลยก็ยังได้

อันนี้นี่แหละ...ที่เลยทำให้อดคิดถึงเรื่อง 14 ตุลา.-6 ตุลา. ขึ้นมาไม่ได้ คือแทบไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้นเอง อารมณ์ความรู้สึกของผู้คนในสังคมไทย จะสามารถพลิกหน้ามือ-เป็นหลังตีน ไปได้ถึงปานนั้น!!! ด้วยความเป็นห่วง เป็นใย ต่อบรรดา หนูเล็กๆ และเด็กๆ ทั้งหลาย อย่างจริงใจและบริสุทธิ์ใจ จะในฐานะที่ตัวเองก็เคยเป็นเด็กมาก่อน หรือจะด้วยความที่ไม่อยากเห็นเหตุการณ์ระดับ โศกนาฏกรรม ต้องอุบัติขึ้นมาแบบซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เลยจำต้อง กฤษณาสอนน้อง ไว้ ณ ที่นี้ด้วยกฎฟิสิกส์แบบหยาบๆ-ง่ายๆ นั่นก็คือ...อะไรก็ตามที่ก่อให้เกิด แรงเหวี่ยง ขึ้นมาในด้านใด-ด้านหนึ่ง สุดท้าย...ย่อมหนีไม่พ้นต้อง เหวี่ยงกลับ มาในด้านตรงข้าม ในระดับและอัตราที่หนักหน่วง รุนแรง ไม่น้อยไปกว่ากัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พระผู้เป็นเจ้า'กับ'กรรมดี-กรรมชั่ว'

ถ้าหากยังไม่ถึง จังหวะ และ โอกาส ที่เหมาะ-ที่ควร...ในอันที่จะทำให้ เพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป ความพยายามที่จะเคี่ยวเข็ญ-บังคับ-ขับไส

สีกากีไม่มีแผ่ว

วลี "สีกากีไม่มีแผ่ว" ดูจะไม่เกินจริงนัก ศึก "นายพล" ยังคงคุกรุ่นพร้อมจะลุกโชนตลอดเวลา "นายพัน-นายร้อย" ก็ไม่น้อยหน้า คำสั่งเด้งเข้ากรุแทบจะออกมาเป็นรายวัน

ทำไม่ดีก็ยังไม่ได้...ผลที่ได้เลยยังไม่ดี

การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่ถูกอกถูกใจคนจำนวนมาก เริ่มต้นตั้งแต่การกำหนดวิธีเลือกที่หลายคนติดตามแล้วรู้สึกสับสน เข้าใจยาก

การปะทะทางอารยธรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้

ด้วยเหตุเพราะ อ่านหนังสือหมดบ้าน จนแทบไม่เหลืออะไรให้อ่านอีกต่อไปแล้ว!!!...เลยต้องหันไปคว้าเอา พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ท่านทูตวัฒนธรรมอิหร่าน

รักในอาชีพตำรวจ

หลังนายกฯ เศรษฐา สะบัดปากกาส่ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กลับคืน "กรมปทุมวัน" ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะ