'คิม จองอึน' สูบบุหรี่..มีนัยต่อ อนาคตคาบสมุทรเกาหลีอย่างไร?

เพราะหากบุหรี่มีผลต่อสุขภาพของผู้นำเกาหลีเหนือคนนี้ ก็อาจจะนำไปสู่ผลกระทบด้านการสืบอำนาจต่อจากเขาในประเทศที่ยังเป็นคอมมิวนิสต์เข้มข้นเต็มที่

หากคิมเป็นอะไรไป ก็ย่อมมีผลต่อสถานภาพการเมืองและความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลี

ดังนั้น ผมจึงขออนุญาตคุณหมอประกิตที่ได้ทุ่มเททำกิจกรรมต่อต้านการสูบบุหรี่มาตลอดชีวิต เพื่อนำเอาสาระที่วิเคราะห์คิม จองอึน กับบุหรี่มาถ่ายทอดต่อ

ท่านเขียนไว้อย่างน่าสนใจแบบนี้ครับ...

ภาพคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือสูบบุหรี่ มีนัยอย่างไร

ผมอ่านข่าวที่ ทางการเกาหลีเหนือประกาศรณรงค์ไม่สูบบุหรี่อย่างจริงจัง “เพื่อปกป้องชีวิตและสุขภาพของประชาชน” ในวันไม่สูบบุหรี่โลกที่ผ่านมา มีความคิดเกิดขึ้น 2 อย่าง

หนึ่งคือ คนอ้วนที่สูบบุหรี่ ยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

สองคือ รัฐบาลเกาหลีเหนือรณรงค์ให้ประชาชนเลิกสูบบุหรี่ แต่ผู้นำประเทศสูบบุหรี่ “อย่างเปิดเผย” ท่าจะลำบาก

ประเด็นแรก เป็นเรื่องสะกิดใจที่ผมเจอแทบทุกวันเวลาขับรถ ที่เห็นคนขับรถมอร์เตอร์ไซค์ที่ "อ้วนและสูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า” ด้วยความเป็นห่วง ถึงสุขภาพของเขาตามประสาคนที่รู้มาก

คนอ้วนมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว จากหลอดเลือดแข็งตัว/เสื่อมเร็ว ผลจากความอ้วนเกินไปทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังของหลอดเลือด

คนที่อ้วนยังเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน มีความโลหิตสูงร่วมด้วย รวมทั้งเลือดแข็งตัวง่ายขึ้น เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเส้นเลือดสมองอุดตัน และเส้นเลือดหัวใจตีบในขณะที่อายุยังน้อย เรื่องนี้คนอ้วนส่วนใหญ่ในบ้านเราน่าจะยังไม่รู้

ขณะที่การสูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า นิโคตินและสารเคมีพิษ ก็ทำให้เส้นเลือดอักเสบ เสื่อมเร็ว แข็งตัวและเปราะ เกล็ดเลือดเกาะตัวง่ายและเกิดความผิดปกติของไขมันในเลือด เพิ่มความเสี่ยงเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจหรือสมองอุดตัน

 “คนอ้วนที่สูบบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า จึงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลายเท่า ที่จะเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจหรือสมองอุดตันแม้อายุยังน้อย” ซึ่งมีรายงานวิจัยยืนยันแนวโน้มนี้แล้ว

ส่วนนายคิม จองอึน ที่อ้วนและสูบบุหรี่ สูบบุหรี่ทุกที่ต่อหน้ากล้องถ่ายรูป ในที่สาธารณะ สูบบุหรี่แม้เมื่อเขาไปเยี่ยมห้องปฏิบัติการดาวเทียมสอดแนมทางทหาร ที่ต้องการความสะอาดอย่างยิ่งยวด            

ข่าวกล่าวว่าคงจะทำให้การรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ในเกาหลีเหนือไม่น่าจะได้ผลตามที่คาดหวัง

งานวิจัยพบว่า พ่อที่สูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงที่ลูกจะสูบบุหรี่ แม่ที่สูบบุหรี่เสี่ยงที่ลูกสาวจะสูบบุหรี่ นักเรียนในชั้นที่ครูสูบบุหรี่ มีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่านักเรียนในชั้นที่ครูไม่สูบบุหรี่

งานวิจัยถึงบุหรี่ไฟฟ้า ก็พบว่าพ่อแม่สูบ ลูกก็เสี่ยงที่จะสูบเพิ่มขึ้น

นับเป็นโชคดีของประเทศไทย ที่นายกรัฐมนตรี ผู้นำของสังคมไทยที่ยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ ไม่สูบต่อหน้าสาธารณะ

ส่วนกรณีที่นายคิม จองอึน สูบบุหรี่จัด ทีมแพทย์ประจำตัวท่านผู้นำสูงสุดต้องเป็นห่วงแน่นอน ที่ไม่รู้ว่าท่านผู้นำจะเกิดหัวใจวายกะทันหัน หรือเกิดสโตรก เส้นเลือดสมองอุดตันกะทันหันเมื่อไร

ผมเชื่อว่า ทีมแพทย์จะบอกท่านผู้นำเกาหลีเหนือว่า ท่านควรจะเลิกสูบบุหรี่ แต่คงไม่กล้าที่จะบอกให้ท่าน ไม่สูบบุหรี่ให้สาธารณชนเห็น ซึ่งการไม่สูบบุหรี่ต่อหน้าสาธารณชน หรือในที่ที่ห้ามสูบลดโอกาสที่ท่านจะสูบ ซึ่งจะทำให้ท่านเลิกสูบได้ง่ายขึ้น

เมื่อปี ค.ศ.1993 ช่วงที่เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย มีหมอชาวอังกฤษที่เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้ ออกข่าวว่า เขารู้สึกว่ามีความผิด ที่มีส่วนทำให้เกิดสงครามอ่าว จากการที่เขาทำให้ ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรักเลิกสูบบุหรี่

หมออังกฤษคนนี้เล่าว่า หลายปีก่อนเกิดสงคราม ทีมแพทย์ประจำตัวซัดดัม ฮุสเซน เชิญเขาไปตรวจรักษานายฮุสเซน ที่มีอาการไอเรื้อรัง รักษาอย่างไรก็ไม่หายที่อิรัก เขาตรวจทุกอย่างแล้วไม่พบสาเหตุของการไอเรื้อรัง

ก่อนกลับจากอิรัก เขาบอกซัดดัม ฮุสเซน ว่า “ยูควรจะเลิกสูบบุหรี่” ซัดดัม ฟังแล้วมองหน้าเขา แต่ไม่ได้พูดอะไร 

ไม่นานหลังจากนั้น ทีมแพทย์อิรักส่งข่าวถึงหมอชาวอังกฤษว่า ซัดดัม ฮุสเซน เลิกสูบบุหรี่และอาการไอหายแล้ว

อีกหลายปีต่อมาซัดดัม ฮุสเซน จึงก่อสงครามอ่าวเปอร์เซียขึ้น

แต่อย่างไรเสีย ทีมแพทย์ของคิม จองอึน ก็คงจะแนะนำให้เขาเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ ตามจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์

ส่วนหากคิม จองอึน ที่อายุจะยืนขึ้นหลังเลิกสูบบุหรี่  ซึ่งตามสถิติหากเขาเลิกก่อนอายุ 40 ปี (ปัจจุบันอายุ 39 ปี) เขาจะมีอายุยืนยาวขึ้น 9 ปี ทำให้มีเวลานานขึ้นที่จะสร้างความวุ่นวาย ตึงเครียด เสี่ยงที่จะเกิดสงครามคาบสมุทรเกาหลีและโลก        

เป็นเรื่องที่ชาวโลกต้องเผชิญยถากรรมต่อไป.