จับตา“เศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง”

เศรษฐกิจไทยในปี 2566 มีหลายปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อน อาทิ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน เป็นต้น และอีกหลายปัจจัยที่ยังต้องติดตาม โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกซึ่งต้องยอมรับว่ามีผลสืบเนื่องไปถึง “ภาคการส่งออก” อันถือเป็นกำลังหลักของเครื่องยนต์ที่คอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่ในช่วงที่ผ่านมามีหลายฝ่ายต่างประเมินว่า “เศรษฐกิจโลก” อาจเข้าสู่ช่วงชะลอตัวจากปัจจัยกดดันหลากหลาย

ทั้งนี้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ได้ออกมาประเมินถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกว่า จะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จากแรงกดดันด้านราคาและอัตราดอกเบี้ย หากแต่ตลาดแรงงานยังคงทยอยฟื้นตัว ซึ่งมีส่วนช่วยพยุงให้เศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ยังขยายตัวได้ ยกเว้นบางแห่งที่เกิดความเปราะบางในการจ้างงาน มีโอกาสเกิดการถดถอยเชิงเทคนิค โดยเงินเฟ้อทั่วโลกที่ชะลอตัวทำให้การดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดมีความจำเป็นลดลง

ทั้งนี้ ภาพเศรษฐกิจโลกในครึ่งหลังปี 2566 หากประเมินจากปัจจัยด้านมหภาคของประเทศต่างๆ ที่สำคัญ ในปัจจุบันพบว่าสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก กลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจแผ่วลง แต่ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อได้ อาทิ 1.เศรษฐกิจสหรัฐ ที่แม้การส่งออกสินค้าและความต้องการสินค้าในประเทศชะลอลง แต่ตลาดแรงงานโดยรวมที่ยังเข้มแข็งและเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่องทำให้โดยรวมกำลังซื้อยังมีอยู่ 2.เศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่น รวมทั้งเศรษฐกิจไทย มีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่องจากการบริโภคในประเทศและภาคบริการ แต่แรงส่งในครึ่งปีหลังอาจแผ่วลงบ้าง ส่วนการผลิตและการส่งออกสินค้ามีทิศทางชะลอตัวลงสอดคล้องกับภาวะการค้าโลก ขณะที่การจ้างงานมีทิศทางทยอยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

กลุ่มที่ 2 กลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มเปราะบางอยู่ อาทิ 1.เศรษฐกิจอังกฤษ กำลังประสบภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจชะงักงัน โดยเกิดความเปราะบางทั้งในด้านการส่งออกและการบริโภค รวมถึงอัตราการว่างงานสูงกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 และ 2.เศรษฐกิจยูโรโซน ซึ่งปัจจุบันแรงส่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจชะงักงัน หรือไม่มีการเติบโต (การเติบโตไตรมาสต่อไตรมาส) ทั้งจากการส่งออกสินค้าที่ชะลอตัวลง และการบริโภคภายในภูมิภาคที่หดตัวต่อเนื่องจากผลของภาวะสงครามในยูเครน เป็นต้น

หากอ้างอิงนิยามภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่กล่าวว่าเป็นการลดลงของระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แท้จริงในทุกภาคส่วนติดต่อกันในระยะเวลา 3-6 เดือน และประการที่สองคือ เริ่มเห็นความเปราะบางในตลาดแรงงานมากขึ้นผ่านอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นนั้น ทำให้ทราบได้ว่าเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีเพียงเยอรมนีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และกำลังเผชิญอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แต่เนื่องจากแรงส่งของเศรษฐกิจโลกส่วนใหญ่ยังขยายตัวได้ จึงประเมินได้ว่าจะเป็นเพียงการถดถอยในระยะสั้น หรือการถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) เท่านั้น ขณะที่บางประเทศในภูมิภาคยุโรปยังมีความเสี่ยงที่อาจเข้าสู่ Technical Recession เพิ่มเติมได้ อาทิ ฟินแลนด์ และเดนมาร์ก เพราะนอกจากอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอแล้ว ยังเริ่มเห็นความเปราะบางในตลาดแรงงานของประเทศเหล่านี้ชัดเจนขึ้นด้วย

ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 แม้ความต้องการสินค้าทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากแรงกดดันด้านราคาและดอกเบี้ยในระดับสูง แต่ภาวะตลาดแรงงานโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง ttb analytics จึงประเมินโดยรวมว่า จะมีเฉพาะบางประเทศเท่านั้นที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ Technical Recession หรือการหดตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจช่วงสั้นๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางในตลาดแรงงาน

อย่างไรก็ดี จากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี จึงทำให้เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงผ่านการชะลอตัวในภาคการส่งออกสินค้า ซึ่งกระทบต่อระดับการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าที่มีคำสั่งซื้อจากกลุ่มยุโรปมีแนวโน้มลดลงชัดเจนในปัจจุบัน เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยางเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เหล็กกล้า รวมถึงภาคการท่องเที่ยว ผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปอาจมีทิศทางชะลอตัวได้เช่นกัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวยุโรปมีสัดส่วน 17% ของจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าของไทยทั้งหมด.

 

ครองขวัญ รอดหมวน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม

เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม