LIV and Let Die…(ตอน 2)

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมพูดถึงการรวมตัวกันระหว่างสมาคมยักษ์ใหญ่กอล์ฟระดับโลก PGA DP กับ LIV เท้าความสักนิดหนึ่ง สมาคมกอล์ฟที่ถือว่าเป็นที่สุดของที่สุด คือ PGA (Professional Golfers Association) (ส่วน DP ถือว่าเป็น PGA ของยุโรปครับ)

แต่ตัว LIV เนี่ย คือประเด็นและหัวใจของเรื่องทั้งหมด

LIV เป็นสมาคมกอล์ฟสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อแข่งกับ PGA โดยตรง ภาพพจน์ของ PGA จะออกแนวอนุรักษ์ เรียบร้อย สุขุม เป็นกีฬาที่มีมาตรฐานสูง มีกฎระเบียบเยอะ และอยู่ในกรอบ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่รู้สึกสนใจ เพราะดูเฉื่อย ดูนิ่ง ดูล้าหลัง ดูล้าสมัย และดูไม่ตื่นเต้น

แต่ทาง LIV เขามาเพื่อปฏิรูปภาพพจน์ของกอล์ฟ เขาให้ผู้แข่งใส่กางเกงขาสั้น ให้มีเสียงเพลงเปิดตามลำโพง จากการแข่งขัน PGA ที่แข่ง 72 หลุม ตั้งแต่วันพฤหัสฯ ถึงวันอาทิตย์ ลดเหลือเพียง 54 หลุม (LIV เป็นเลข 54 จากเลขโรมัน) และสิ่งสำคัญคือ เงินรางวัลในแต่ละรอบแข่งขันนั้นแบ่งให้กับผู้แข่งทุกๆ คน ส่วน PGA คือถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ ในวันศุกร์จะไม่มีสิทธิ์แข่งต่อในวันเสาร์-อาทิตย์ ถือว่าตกรอบไป ตกรอบไม่เพียงพอครับ เมื่อไม่เข้าเกณฑ์ ไม่มีสิทธิ์รับเงินรางวัลแม้แต่สลึงเดียว ซึ่งเท่ากับผู้แข่งที่ตกรอบ เสียเงินตัวเองฟรี ในการเดินทางมาเพื่อออกรอบสองวัน

เงินสนับสนุนของ LIV เป็นเงินที่มาจาก Public Investment Fund (PIF) ของซาอุฯ มีเงินอยู่ในกองทุนไม่น้อยกว่า 500 Billion USD (!!!)

ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีกว่า เป็นสงครามระหว่าง PGA กับ LIV เพราะทาง LIV ได้ดึงนักกอล์ฟจำนวนไม่น้อยของ PGA ซึ่งทำให้ PGA ยื่นคำขาดว่าใครที่กระโดดไป LIV จะต้องคืนสมาชิก PGA เพราะจะเหยียบสองแคมไม่ได้ ทาง PGA พยายามบอกว่า ใครที่โดดไป LIV ควรจะต้องละอายใจตัวเอง เพราะเงินซาอุฯ นั้นเป็นเงินสกปรก เป็นเงินที่ถล่มตึก World Trade Center เป็นเงินที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เป็นเงินที่ให้ท้ายผู้ก่อการร้าย

เลยเกิดสงครามระหว่าง PGA กับ LIV ที่ดุเดือดและถึงขั้นเอาเรื่องไปที่สภา Congress ของสหรัฐ เพื่อให้ Congress ศึกษาเรื่องที่มาที่ไปของเงิน LIV เลยรู้สึกตกใจที่ข่าวเบื้องต้นเมื่อสัปดาห์ก่อน รายงานว่า LIV กับ PGA รวมตัวกัน

ซึ่งตอนแรก ภาษาที่ใช้ในการแถลงข่าวไม่ชัด คนเข้าใจว่า PGA กับ LIV รวมตัวกัน และจะเป็นหนึ่งเดียวกัน เพราะ Commissioner ของ PGA ใช้คำว่า “Merge” ตอนแถลงข่าวครั้งแรก แต่ตอนหลังมีการปรับแก้ เพราะมันไม่ได้เป็นการรวมตัวกันระหว่าง PGA กับ LIV ต่อจากนี้ไป LIV จะเป็นความทรงจำ และจะสูญหายไปจากโลกใบนี้ เงินของกองทุน PIF ที่สนับสนุน LIV เต็มที่นั้นจะไปที่ PGA แทน

แน่นอนครับ ทำให้คนตะลึงมากกว่าข่าวจะรวมตัวกัน เพราะจากที่ PGA เคยประณาม LIV ว่าเป็นปีศาจ และเงินที่มาจากนรกนั้น ตอนนี้อ้าแขนรับทุกบาททุกเหรียญ ด้วยความภาคภูมิใจ อันนี้ยิ่งกว่า “เงินมาผ้าหลุด” ครับ

ผลกระทบของข่าวเรื่องนี้คือ สร้างความไม่พอใจให้นักกอล์ฟที่เลือกอยู่ PGA เพราะตอนนั้น LIV พร้อมซื้อตัวนักกอล์ฟหลายคน แต่ทาง PGA บอกแต่ละคนว่า ถ้ายังอยู่กับ PGA พวก I จะดูแล You อย่างดี พวก I จะให้รางวัล You สำหรับความจงรักภักดีที่ You มีต่อ I…..แต่ในที่สุด คนที่อยู่ต่อต้องดูคนที่กระโดดไปที่ LIV (และรับเงิน หลายกระสอบนั้น) กลับมาแข่งใน PGA เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมเข้าใจความไม่พอใจของนักกอล์ฟ PGA แต่ผมเข้าใจผู้บริหาร PGA ด้วย เพราะเขามองว่าถ้าไม่จับมือกัน และสมาคมเดินต่างเส้นทางนั้น ทั้งคู่จะไปไม่รอด เอาแค่เรื่องที่ค้างอยู่ในศาล จะต้องใช้เงินมหาศาลในการไกล่เกลี่ยหรือให้จบคดี ส่วนทาง LIV เอง กระเป๋าหนาจริง แต่สินค้า LIV ขายไม่ออก การแข่งขัน LIV แต่ละครั้งไม่มีการถ่ายทอดสด ไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีคนดู เลยคาดการณ์กันว่า ถ้า LIV จะมีต่อ และยังเป็นเช่นนี้อยู่ ปีหน้า (หรือเต็มที่อีก 2 ปีข้างหน้า) จะต้องม้วนเสื่อกลับบ้านและเลิกรากันไป

ทางธุรกิจถึงมองว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับ 2 ฝ่าย ทาง PGA ได้เงินเข้ามามหาศาล แล้วทางซาอุฯ ได้ภาพพจน์และได้สร้างอิทธิพลของตัวเอง เข้ากับโลกตะวันตกผ่านกีฬาผู้ดี อันนี้แหละครับที่เรียกว่า Soft Power ที่แท้จริง

บางทีไทยเราจะหลงกับคำว่า “Soft Power” แล้วจะรีบ ประกาศนู่นนี่นั่นโน่น เป็น Soft Power หมด Soft Power ที่แท้จริงคือ เมื่อใครที่มีอิทธิพล ทำอะไรบางอย่างทำให้ คนอื่นอยากทำตาม เช่น ลิซ่า (จาก Blackpink) ไปเที่ยวอยุธยา หรือดื่มนม ทำให้คนทั่วไป (ไม่ใช่เฉพาะแฟนๆ) อยากทำตาม นี่แหละครับคือ Soft Power มากกว่า ตอนที่ Rapper ไทยขึ้นเวที Coachella และกินข้าวเหนียวมะม่วงระหว่างแสดง

ในกรณีของ Rapper สาวนั้น ทำให้คนรู้จักข้าวเหนียวมะม่วง ณ เวลานั้น แต่ไม่ได้ทำให้ คนทั่วไปที่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยกินข้าวเหนียวมะม่วง แห่กันกินข้าวเหนียวมะม่วงอย่างถล่มทลาย แต่ไทยเราใช้คำว่า Soft Power แบบมั่วๆ มานานพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นพลเรือนก็ดี หรือหน่วยงานรัฐก็ดี

ผู้ที่ใช้ Soft Power ได้ดีที่สุดและตรงกับความหมายสุดคือ ใครที่มีอำนาจ มีอิทธิพลครบถ้วนในด้านเงิน ชื่อเสียง พลัง และอำนาจ ทำให้ตัวเองเข้มแข็งในด้าน “Hard Power” จึงสามารถมีพลัง Soft Power อย่างมีประสิทธิภาพ คือพูดง่ายๆ ครับ ผู้ที่ทำ Soft Power ต้องอยู่เหนือกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าอยู่ต่ำกว่าหรืออยู่ระดับเดียวกัน จะไม่เข้าข่าย

เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ สำหรับประเทศไทยกับเพื่อนบ้าน ไทย ทำ Soft Power ต่อประเทศเพื่อนบ้านได้ แต่ประเทศเพื่อนบ้านทำ Soft Power ต่อไทยไม่ได้ เช่นเดียวกัน ประเทศญี่ปุ่นหรือเกาหลีนั้นทำ Soft Power ต่อประเทศไทยได้ แต่ประเทศไทยทำ Soft Power ต่อประเทศเกาหลีกับญี่ปุ่นไม่ได้

กรณีของซาอุฯ ในครั้งนี้ เป็นการเบ่งกล้าม เป็นการแสดงศักยภาพอำนาจการเงิน และกำลังสร้างอิทธิพลของซาอุฯ ในโลกตะวันตก ซึ่งอาจยังไม่ถึงขั้น เรียกว่า Soft Power เต็มร้อย เพราะลึกๆ แล้วโลกอาหรับยังบูชาคนผิวขาวอยู่ ถ้าข้ามจุดนี้ได้เมื่อไหร่ ซาอุฯ จะมี Soft Power ที่แท้จริงผ่านอำนาจเงินของเขา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

President Biden….You’re a Good Dad

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีสารพัดเรื่องที่น่าสนใจและน่าเขียนถึง เรื่องแรกต้องเป็นเรื่องประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้ เพราะเป็นเรื่องไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้น และถือว่าเป็นการประกาศฟ้าผ่าทีเดียว

คุยเรื่อง…ที่ไม่ใช่เรื่อง

เผลอแป๊บเดียว วันนี้เราเข้าเดือนสุดท้ายของปีแล้ว ถือว่าเราเข้าฤดูกาลซื้อของขวัญสำหรับคริสต์มาสและปีใหม่อย่างเป็นทางการ ถึงแม้ตามห้างต่างๆ

'BRO!!!!!'

เกือบ 2 สัปดาห์กับผลการเลือกตั้งในสหรัฐ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วไป เว้นบรรดานักวิเคราะห์แม่นๆ….หลังผลออกมา พวกนี้ยังพูดเต็มปากเต็มคำว่า

“ถ้าไม่เลือกเรา...เขามาแน่”...ทำให้เขาชนะขาดลอย

ผมไม่แน่ใจว่ากว่าแฟนคอลัมน์จะได้อ่านบทความนี้ เรื่องที่ผมจะเขียนนั้นมันแห้งเกินไปหรือเปล่า เพราะกว่าจะถึงวันที่ได้อ่านบทความนี้ เรื่องนี้อาจจะเก่าไปแล้วก็ได้