ดูท่าคงถึงเวลาที่ บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ต้องสังคายนา "บ้านไฮเวย์" หรือ กองบังคับการตำรวจทางหลวง กันขนานใหญ่ซะแล้ว
เพราะเพียงแค่ไม่ถึงสองสัปดาห์ดี ก็มีเรื่องงามหน้าถึง 2 เรื่อง 2 ราว เป็นข่าวฉาวโฉ่ สร้างความเสื่อมเสีย สร้างภาพลักษณ์ด้านลบติดๆ กัน
ตั้งแต่เรื่อง "ส่วยสติกเกอร์" ที่โผล่ออกมาตีแสกหน้า "ตำรวจทางหลวง" จน "บิ๊กก้อง" ต้องออกคำสั่งให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม
พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน ผบก.ทล.อีกตำแหน่ง
แม้หลายคนจะออกมาเอ่ยอ้างถึงคำสั่งเด้ง "ผู้การแอ๊น" มาจากที่เจ้าตัวแสดงสปิริตขอย้ายตัวเองออกจากรั้วไฮเวย์ เปิดทางให้มีการสอบสวนอย่างยุติธรรม
แต่นั่นก็เป็นความรับผิดชอบที่ ผู้การทางหลวง หลีกเลี่ยงไม่ได้
ยิ่งพอ "ผู้การเต่า" เข้าไป รรท.ผบก.ทล. และสอบสวน "ส่วยสติกเกอร์" แล้วพบว่ามีตำรวจทางหลวง ทั้งระดับ รองผกก. ระดับรองสารวัตร และระดับชั้นประทวน เกือบครึ่งร้อยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ส่วยสติกเกอร์"
ไม่ใช่เรื่องธรรมดา!!!
มิหนำซ้ำมาเจอเรื่องที่ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ฏิษพจณ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงส่วยสติกเกอร์ เดินทางไปสุ่มตรวจการทำงานของตำรวจทางหลวง แล้วแวะสถานีตำรวจในสังกัด บก.ภ.จว.นครปฐม และ กก.2 บก.ทล.
โดยไม่แจ้งล่วงหน้า
ปรากฏว่าที่ กก.2 บก.ทล. "บิ๊กหิน" ถึงกับอึ้งพูดไม่ออก เพราะขึ้นไปที่กองกำกับพบเพียง "ตำรวจชั้นประทวน" 3 นายปฏิบัติหน้าที่
ไม่เห็นเงา "ผกก." หรือ "รอง ผกก." หรือ "สว." แม้แต่รายเดียว
เรียกว่า "ชั้นประทวน" ใหญ่ที่สุดแล้วใน กก.2 บก.ทล. ในวันนั้น
ลมไม่ออกหูจะอยู่ไหวหรือ!!!!
ก่อนที่ "บิ๊กก้อง" จะออกมาบอกได้สั่งการให้มีการเขียนชี้แจงรายงาน เบื้องต้นผู้กำกับสถานีได้ชี้แจง
"ติดภารกิจพาลูกน้องจำนวน 7 นาย ที่มีคำสั่งให้เข้าช่วยราชการที่กองบังคับการทางหลวงเข้ารายงานตัว"
ฟังขึ้นไม่ขึ้นอย่างไร...ก็ว่ากันไป
แต่ ณ ตอนนี้ คงต้องถึงเวลา "ผ่าตัด" ตำรวจทางหลวงกันขนานใหญ่ ล้างบางผลประโยชน์นอกลู่นอกทางกันอย่างจริงๆ จังๆ ไม่ต้องเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม
จะได้กู้ภาพลักษณ์ กู้ความศรัทธา กู้ความเชื่อถือ กู้ความเชื่อมั่น กู้ความเชื่อใจ
จากประชาชนกลับมาอีกครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระเนระนาด
หมดกัน! สิ่งที่ "ตชด." หรือ "ตำรวจตระเวนชายแดน" ทุ่มเทรักษาอธิปไตยไทย ร่วมกับ "ทหาร" และ "ทหารพราน" ถึงขนาด "ตชด." บางนาย ถูกยิง ถูกระเบิด บาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวมานอนรักษาที่โรงพยาบาล เมื่ออาการดีขึ้นทุกคนก็ขอกลับไปทำหน้าที่ชายแดนตามเดิม
หรือติดคุกตอนแก่!
ไม่รู้มีอะไรในก่อไผ่มากกว่าหน่อไม้หรือเปล่า? การออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของ "ธวัชชัย ไทยเขียว" หนึ่งในคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
'ตชด.' หัวใจนักสู้
เห็นภาพ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน-พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชา "ตชด." ที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งมอบนโยบาย ทั้งร่วมวงนั่งพื้นกินข้าวกันฉันพี่ๆ น้องๆ
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568


