
หาดพูดถึงการเปิดให้บริการระบบขนส่งสาธารณะระบบรางเส้นทางใหม่ๆ ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาแผนการเปิดให้บริการล่าช้ากว่ากำหนด อันเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ที่ไทยเราต้องเจอกับวิกฤตโควิด-19 จึงมีคำสั่งปิดแคมป์ก่อสร้างทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล แน่นอนว่ากระทบต่องานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มาถึงวันนี้มีข่าวดีว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเป็นระบบรถไฟโมโนเรลสายแรกของไทย พร้อมเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2566 จำนวน 13 สถานี
โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจเข้าร่วมทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ได้ระหว่างเวลา 09.00-20.00 น. จำนวน 13 สถานี ได้แก่ สถานีหัวหมาก-สถานีสำโรง วันแรกพบว่ามีประชาชนมาทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นจำนวนมาก โดยวันที่ 3-4 มิ.ย.2566 มีประชาชนให้ความสนใจมาใช้บริการทั้งสิ้น 38,521 และ 36,879 คน/เที่ยว ตามลำดับ
จากการเปิดทดลองให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ดำเนินการสำรวจแนวถนนศรีนครินทร์ไปจนถึงถนนลาดพร้าว พบว่าการจราจรมีความคล่องตัวขึ้น โดยจากนี้จะดำเนินการเร่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบคืนผิวถนนให้เร็ว เพื่อให้สามารถใช้ช่องจราจรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และภายในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่กรมรางจะมีการลงตรวจความเรียบร้อยของสถานีของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทั้งส่วนทางขึ้น-ลง ตู้หรือห้องจำหน่ายบัตร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้การให้บริการมีความพร้อมมากที่สุด
และยังเป็นข่าวดีของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณย่านลาดพร้าว เนื่องจากวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป รถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้มีการขยายระยะทางให้ประชาชนร่วม Trial Run เพิ่มเติมอีก 9 สถานี จากเดิมบนแนวถนนศรีนครินทร์ไปจนถึงแนวถนนลาดพร้าว ซึ่งเป็นเส้นทางต่อเนื่องมาจากช่วง 13 สถานี ที่เปิดให้ทดลองใช้เดิม รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 22 สถานี
ขณะเดียวกันได้มีการขยายช่วงเวลาให้บริการเป็นระหว่างเวลา 06.00-20.00 น. เพื่อรองรับความต้องการเดินทางในช่วงเร่งด่วนเช้าและเย็นของประชาชนด้วย คงเหลือเพียงสถานีลาดพร้าว ที่ผู้รับสัมปทานยังอยู่ระหว่างปรับสภาพทางเท้าและถนนบริเวณโดยรอบให้มีความปลอดภัย ซึ่ง รฟม.ตั้งเป้าหมายจะให้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสามารถเปิดให้ประชาชนร่วม Trial Run ได้ครบตลอดสาย จำนวน 23 สถานี รวมระยะทาง 30.4 กิโลเมตร
โดยในวันที่ 19 มิถุุนายนนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะเปิดทดลองเดินรถตลอดสายครบ 23 สถานี จากสถานีลาดพร้าว-สถานีสำโรง โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้ประชาชนร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run)
และหลังจากครบกำหนดให้ประชาชนทดลองนั่งฟรีแล้ว จะมีการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ (เก็บค่าโดยสาร) ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2566 ค่าโดยสารอยู่ที่ 15-45 บาท สามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิต EMV Contactless (Europay, MasterCard and VISA) ในการแตะชำระค่าโดยสารได้ ซึ่งรองรับบัตรเครดิตของทุกธนาคาร แต่ส่วนบัตรเดบิต ปัจจุบันสามารถใช้บัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทยและธนาคารยูโอบี ส่วนธนาคารอื่นๆ อยู่ระหว่างการพัฒนาให้รองรับได้ โดยการชำระค่าโดยสารด้วยการใช้บัตร EMV จะเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่ในการลดภาระค่าใช้จ่ายจากค่าแรกเข้า 15 บาท
อย่างไรก็ตาม หากต้องเปลี่ยนระบบรถไฟฟ้าระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยจ่ายค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว ซึ่งประเมินกรณีเดินทางด้วยรถไฟฟ้าทั้งขาไปและกลับ จะลดภาระค่าใช้จ่ายค่าแรกเข้าได้ประมาณ 30 บาทต่อวัน หรือคิดเป็น 600 บาทต่อเดือน
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ถือเป็นหนึ่งในโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในความรับผิดชอบของ รฟม. ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (Feeder Line) ที่จะใช้ขนส่งผู้โดยสารจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และพื้นที่บางส่วนในจังหวัดสมุทรปราการ เข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายหลักอื่นๆ โดยมีอาคารจอดแล้วจรให้บริการได้บริเวณสถานีศรีเอี่ยม และสถานีลาดพร้าว ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเป็นอย่างดีในช่วงที่มีการจราจรติดขัด.
กัลยา ยืนยง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม
เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
ผนึกพลังพัฒนากำลังคน
ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”
ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)
แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส
‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม

