'ฉก.' ยุบเถอะ!

อพิโธ่ อพิถัง! นี่ถ้าไม่ถูก วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และตัวเต็งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาแฉ ออกมาชำแหละส่วยรถบรรทุก จน "บิ๊กสีกากี" ทั้งกรมปทุมวัน นั่งกันไม่ติดเก้าอี้ คงไม่ได้รู้กันว่า ฉก.ทล. หรือ ชุดเฉพาะกิจตำรวจทางหลวง นี่แหละคือ ปัญหา ที่มักกลายสภาพจากชุดเฉพาะกิจ เป็น "ชุดเฉพาะเก็บ" แถมยังทำงานซ้ำซ้อนกับตำรวจทางหลวงในพื้นที่ ถึงขนาด บิ๊กเต่า-พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้การมือปราบจาก บก.ป.ป.ป.(กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ) ที่่เข้ามานั่งเก้าอี้ รักษาการผู้การตำรวจทางหลวง เพียงวันเดียว รู้แล้วว่า ชุดเฉพาะกิจ นี่แหละคือตัวปัญหา ต้องประกาศแผน

ปฏิรูปตำรวจทางหลวง ฉบับเร่งด่วน ยกเลิก ฉก.ทล. ทั้งแบบคำสั่งทางวาจาและคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรทันที เพราะนอกจากมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์แล้ว ยังทำงานทับซ้อนกับตำรวจทางหลวงในพื้นที่

ไหนๆ ก็จะสังคายนา ฉก. กันแล้ว ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ก็น่าจะมาทบทวน ศูนย์อาชญากรรมพิเศษ ระดับ ตร.ที่มีเกือบ 20 ศูนย์นั้น ทั้งศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ศปลป.ตร.), ศูนย์บริหารงานป้องกันปราบปราม (ศปป.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า  ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศปทส.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ (ศปจร.ตร.), ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง (ศปข.ตร.), ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศปน.ตร.), ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.ตร.), ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.), ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ศปปง.ตร.), ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.), ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ (ศปอร.ตร.), ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.ตร.), ศูนย์บริหารงานสอบสวนคดีอาญา (ศส.ตร.), ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.), ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคง (ศตปค.ตร.), ศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.), ศูนย์บังคับและต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) (ศบตอ.ตร.) และศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ศปชก.ตร.) การทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยระดับ บก. ระดับ บช.หรือไม่ อย่างไร หากทำงานซ้ำก็ควรจะเลิก ก็ควรจะยุบศูนย์ แล้วปล่อยให้หน่วยงานเค้าทำกันไม่ดีกว่าหรือ?

ไม่เสียแรงที่ตำรวจระดับ รอง ผกก.ขึ้นไปทั่วประเทศไว้ใจเลือกเป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้ง บิ๊กเอก-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์, บิ๊กนัย-พล.ต.อ.วินัย ทองสอง และ บิ๊กนูญ-พล.ต.อ.มนูญ เมฆหมอก 3 ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ช่วยกันเป็นปากเป็นเสียงในการประชุม ก.ตร. จนทำให้ตำรวจที่ถูกย้ายออกนอกหน่วยโดยไม่สมัครใจ ซึ่งร้องทุกข์ขอย้ายกลับสังกัดเดิมจำนวน 16 ราย ได้รับความเห็นชอบจากวงประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่มี บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน มีมติบันทึกข้อสังเกตให้ย้ายกลับสังกัดเดิม 11 ราย เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าการย้ายออกนอกหน่วยไปไกลแม้จะไม่ขัดกฎหมาย แต่เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ข้าราชการตำรวจเกินสมควร ไม่เกิดประโยชน์ต่อทางราชการ ตามแนวทางที่ บิ๊กเอก ได้เคยอภิปรายไว้ในการประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 30 มี.ค.66 ซึ่งแรงผลักดันครั้งนี้สร้างขวัญกำลังใจในการทำงานให้ ตำรวจ ได้อักโข

นี่ซิ..สมกับสโลแกน "ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน" บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้จิตอาสาตำรวจทางหลวงร่วมกับ จิรเดช พงษ์ประสิทธิ์ นายอำเภอบัวลาย พ.อ.อรรถชัย รักษาศิลป์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดนครราชสีมา และรอง ผบ.มทบ.21 จิตอาสา 904 ทหาร มทบ.21 ทหารช่าง พัน สร.2 ตำรวจภูธรบัวลาย พสบ.กองทัพภาคที่ 2 ฝ่ายปกครอง  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต.หนองหว้า ร่วมกันส่งมอบบ้านหลังใหม่ให้ นางหนูอวน วิระฬา ภายหลังบ้านเลขที่  8 หมู่ 8 ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี วันที่ 3 มิ.ย. โดยนายอำเภอบัวลายเป็นตัวแทน มอบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระพุทธรูป เพื่อเป็นสิริมงคล

กลางสัปดาห์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นประธานสภากลาโหม โดยมี ผบ.เหล่าทัพมาประชุมกันพร้อมหน้า ก่อนการประชุมไม่มีการถกวงเล็กเรื่อง “โผทหาร” ระดับชั้นนายพลอย่างที่เดากันไว้ แต่ ผบ.เหล่าทัพก็ได้สั่งการให้จัดทำบัญชีรายชื่อในระดับหน่วยขึ้นตรงแล้วเร็วกว่าช่วงเวลาเดิมเล็กน้อย สำหรับในที่ประชุมก็มีการกางแผน ปฏิรูปกองทัพ ให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพไปสร้างการรับรู้ให้ประชาชนว่ามีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำแผนเป็น 4 ระยะเป้าหมายสิ้นสุดปี 2570 โดยเฉพาะในชั้นยศนายพลที่ว่ากันว่ามีมากกว่าพันคน ส่วนใหญ่ตำแหน่งนายพลประจำจะอยู่ที่เหล่าทัพใหญ่ อย่างกองทัพบก ย้อนกลับไปในช่วงที่ ลุงหมัก-สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ตอนนั้นเคยอนุมัติเรื่องเงินประจำตำแหน่งผู้ทรงฯ ไว้ให้ แต่มาช่วงหลังก็มีการตัดเงินส่วนนี้ไป แต่ยังคงอัตราที่มีอยู่ โดยไม่ได้มีการเพิ่ม ทำให้การปรับโครงสร้างในส่วนนี้จึงทำแบบค่อยเป็นค่อยไป หวังเห็นผลในปี 2570 ที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์

เรียกได้ว่าโครงการอาวุธของ กองทัพเรือ-กองทัพอากาศ ที่เป็นประเด็นฮอตยังไม่สรุปจบเสียทีเดียว ทั้งเครื่องบินขับไล่โจมตี F-35 ที่สหรัฐฯ ไม่ขายให้ แต่ยังต้องพิจารณาเครื่องบินรุ่นอื่นเพื่อทดแทน กับเรือดำน้ำ  S26T ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องเครื่องยนต์ ยังมีภาค 2  ต่อให้ลุ้น แต่คาดว่า “เผือกร้อน” ที่พัวพันอีนุงตุงนังแบบนี้ คงถูกส่งไม้ต่อไปให้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) คนใหม่ แต่น่าจะเบาใจได้เพราะในช่วงนี้สถานการณ์การเมืองยังชุลมุน จึงคาดว่าการจัดโผของเหล่าทัพ น่าจะไม่มีแรงกระแทกจากภายนอกมากนัก แต่ที่ต้องหนักใจคือ บิ๊กตุ๊ด-พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน ว่าจะเลือกน้องๆ  คนไหนมาทำหน้าที่สำคัญนี้แทน เพราะคนที่จะมาใหม่ต้องเจอโจทย์ท้าทายในการกำหนดทิศทางของ ทอ.ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการคัดเลือกเครื่องบินขับไล่โจมตีฝูงใหม่ทดแทน F-16 ที่ปลดประจำการ ข้อมูลทั้งหลายทั้งมวลในการเปลี่ยนเทรนด์ เปลี่ยนคน เปลี่ยนเทคโนโลยี  รวมไปถึงเกมของมหาอำนาจที่ผันแปรสุดๆ ตัวเลือก ผบ.ทอ.คนใหม่ก็สูสีกันแบบกินกันไม่ลง แต่เชื่อว่า “บิ๊กตุ๊ด” มีคนในในใจแล้ว ส่วนทว่าจะมีอิสระในการเลือกด้วยตัวเองแค่ไหนเท่านั้น ต้องรอลุ้น

สำหรับกองทัพเรือนั้น บิ๊กจ๊อด-พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. คงจะปิดจ๊อบปมปัญหาต่างๆ ที่คาราคาซังอย่างประเด็น “เรือดำน้ำจีน” อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ แม้ไทม์ไลน์เดือน มิ.ย.ในการจะรับหรือไม่รับเครื่องยนต์จีน เชื่อมโยงกับการตัดสินใจยกเลิกหรือเดินหน้าต่อโครงการดังกล่าวก็ตาม ดังนั้นการเตรียมพร้อมแต่งตั้งคนที่จะมารับไม้ต่อนั้น ต้องคิดแล้วคิดอีก อย่างน้อยต้องสามารถคุมสภาพ-คุมเกมให้เรื่องนี้เดินหน้าไปได้อย่างลื่นไหล แต่ตัวแปรที่ต้องระมัดระวังนั่นก็คือ เอฟเฟกต์จากการชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.ที่มักสร้างความปั่นป่วนเกือบทุกครั้ง และ “บิ๊กจ๊อด” คงรู้สึกถึงอุณหภูมิในวังเดิมที่ร้อนระอุขึ้นทุกวันอยู่แล้ว การฟันธงเลือกใครจึงไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนั้น ยังมีเรื่องกู้เรือหลวงสุโขทัย ที่ ทร.ยังถกกับสำนักงบประมาณไม่จบ ในเรื่องงบกลางที่จะใช้ดำเนินการ และต้องเกลี่ยเงินใน ทร.มาโปะในช่วงสิ้นปีงบประมาณนี้ด้วย ทั้งสองเรื่องจึงเหมือน “โจทย์” ที่ ผบ.ทร.อาจเคลียร์ไม่ทัน จึงมีแรงผลักดันจากคนใน ทร.โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เกษียณไปแล้ว อยากให้ “บิ๊กจ๊อด” เลือก ผบ.ทร.คนใหม่ที่ได้รับการยอมรับและทำได้ แต่ผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรนั้น...สิงหาคมนี้รู้เรื่อง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

อริยสัจ 4...หลักการดีที่ควรใช้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้คนนับถือศาสนาพุทธมากกว่า 92% และในคำสอนของศาสนาพุธก็มีอริยสัจ 4 เป็นหลักที่ใช้ในการแก้ปัญหาที่ยุ่งเหยิงไปสู่ความสงบ

โชคดี...ที่ตายก่อน!!!

เห็นข่าวคราวว่าด้วย หลานสาว ชาวไทยรายหนึ่ง...ซึ่งน่าจะเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้โดดเด่น โด่งดัง ใดๆ มาก่อนเลย แต่เมื่อเธอโพสต์คลิปวิดีโอ โดยตัวเธอเองนั่ง