ผู้เขียนเป็นคนคิดช้า-หัวช้า ดูเกณฑ์โหรก็มักจะมีอะไรตกๆหล่นๆ อย่างตอนที่แล้วที่ทำนายการเมืองหลังเลือกตั้งก็ไม่ครบเพราะตกเกณฑ์สำคัญไปอย่างไม่น่าจะเป็น คืออาการเมืองที่มีแนวโน้มการเลือกตั้ง-รัฐบาลผสม-ฝ่ายค้านร่วมแบบแปลกประหลาด-สุดขั้ว-ชวนอึ้ง
ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปที่คำทำนายถึงการเมืองหลังการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ที่ทำนายไว้ตั้งแต่ตอนที่แล้วคือหลังเลือกตั้งการเมืองคงวุ่นวายขายกระจาด-ขัดแย้ง-ประลองกำลัง-ประลองยุทธ์กันไปเรื่อยๆ ต้องอาศัยประชาชนที่มีสติ(หรือพระจันทร์ 2 ที่กำลังศรีจร)ช่วยปะทะปะทังไปก่อนจนกว่าการเมืองจะเริ่มคลี่คลายช้อทแรกคือ18ตุลาคม 66 คลี่คลายช้อทที่สองเริ่มวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
และยังยืนยันเหมือนเดิมไม่ว่าการเมืองจะวุ่นวายแค่ไหน แต่ใครเป็นรัฐบาลก็จะโชคดีไม่แบกภาระหนักเหมือนช่วงโควิด-19 โดยกลุ่มรัฐบาลเก่ากลับไปสู้หรือรวมกันแล้วมีโอกาสได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่อาจจะได้มิตรใหม่เพิ่มขึ้นขณะที่ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้านก็จะดีกว่าที่ผ่านมาที่ก่อนหน้านี้
ส่วนการตั้งรัฐบาลในที่สุดก็ได้นายกรัฐมนตรีนั้นคาดจะเป็นประมาณ 15 มิถุนายน-15 กรกฎาคม 2566
ทีนี้มาว่าเรื่องที่อยากเพิ่มเติมคือเรื่องแปลกประหลาดที่จะเกิดในการเมืองที่ผู้เขียนโพสต์เฟสบุ๊ค ไว้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่21พฤษภาคม 2566 ด้วยเพิ่งนึกเกณฑ์โหรออกหลังจากส่งต้นฉบับไทยโพสต์แล้วคือ.. เราคงจะได้เห็นรัฐบาลผสมแปลกๆ ชวนอัศจรรย์ใจและความแปลกนี้คงมีไปถึงฝ่ายค้านร่วมด้วย
โดยขออธิบายปรากฎการณ์ทางโหรเพื่อเป็นฐานให้พิจารณาคือ
1.มฤตยูจร(0)หนึ่งในดาวบาปเคราะห์ เป็นเจ้าของภัยอาเพศ-หรือเกิดขึ้นเองแบบไม่นึกฝันและอาการแปลกประหลาดสุดขั้วหรือเหตุร้ายรุนแรงที่สะสมพลังของการปฎิวัติหรือเปลี่ยนแปลงใหญ่แล้วกวาดล้างสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่หรือการพลัดพรากผลัดเปลี่ยนหรือการปฏิวัติที่ไม่คาดฝัน และกิจการมหาชนฯลฯ กำลังเดินอยู่ในราศีพฤษภ และจะเดินอยู่ที่นี่ไปถึง18กฎาคม 2572
2.ที่ราศีพฤษภนี้เป็นภพที่สอง-กดุมภะ-การทำมาหาได้และเศรษฐกิจของเมือง ที่มีพระศุกร์(๖)เป็นเจ้าของบ้านเดิมครองอาณาจักรอยู่(เกษตราธิบดี)
3.พระศุกร์(๖)นี้ยังถือเป็นเจ้าของบ้านเดิม(เกษตราธิบดี)ที่ราศีตุลย์อีกหนึ่งราศีด้วย ซึ่งที่ราศีตุลย์นี้เป็นดินแดนของภพที่เจ็ด-ปัตนิ ซึ่งหนึ่งในความหมายคือผู้มีส่วนได้เสียของเมืองรัตนโกสินทร์ หากเป็นรัฐบาลก็พรรคร่วมรัฐบาลของเมือง หากเป็นฝ่ายค้านคือพรรคร่วมฝ่ายค้านของเมือง
4.เมื่อขณะนี้มฤตยูจรกำลังเดินอยู่ในราศีพฤษภ จึงส่งกระแสแฝงความแปลกประหลาดสุดขั้วมาที่ราศีตุลย์ประมาณร้อยละสามสิบห้า จึงอย่างไรก็คาดว่าจะส่งผลให้เมืองได้พรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านแปลกประหลาดชวนอึ้ง
ส่วนปูมโหรในอดีตเหตุการณ์เหมือน-คล้ายของกระแสทั้งแฝง(มฤตยูจรเดินในราศีพฤษภ-ส่งกระแสถึงราศีตุลย์) และกระแสตรง(มฤตยูจรเดินในราศีตุลย์ที่มีผลต่อรัฐบาลและฝ่ายค้านซึ่งต่างเป็นหุ้นส่วนชีวิตของเมืองด้วยกันทั้งนั้นแบบแปลกประหลาดที่เคยเกิดในเมืองคือ
ก.มฤตยูจรที่ราศีพฤษภส่งกระแสแฝงถึงตุลย์ คือการเลือกตั้งครั้งที่4ของประเทศเมื่อ6มกราคม 2489 ขณะมฤตยูจร(0)เดินอยู่ในราศีพฤษภ เป็นการเลือกตั้งหลังสงครามมหาเอเชียบูรพาด้วย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชนายกรัฐมนตรีไดยุบสภาที่อยู่มายาวนาน คล้ายๆพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาที่เป็นนายกฯอยู่มายาวนานกว่าแปดปีก็ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่
ความแปลกในการเลือกตั้งขณะนั้นคือเกิดการแข่งขันกันเองระหว่างหุ้นส่วนของเมืองกลุ่มเดียวกันคือ ระหว่างพันตรีควง อภัยวงศ์ กับนายวิลาส โอสถานนท์ ซึ่งเป็นเสรีไทยสายพลเรือนด้วยกัน จนมีสโลแกนหาเสียงคือ..เหล็กวิลาสหรือจะสู้ตะปูควง..ผลคือพันตรีควงชนะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแต่เป็นได้ไม่นาน
ข.มฤตยูที่ตุลย์ส่งกระแสตรงคือการเลือกตั้งครั้งที่ 12เมื่อวันที่ 26มกราคม 2518 พรรคกิจสังคมซึ่งได้ส.ส.18ที่นั่ง ตั้งรัฐบาลได้ หัวหน้าพรรคม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชๆได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ส.ส.มากที่สุด72ที่นั่งกลับเป็นฝ่ายค้าน
ค.มฤตยูที่ตุลย์ส่งกระแสตรงการเลือกตั้งครั้งที่13เมื่อวันที่4เมษายน2519 พรรคประชาธิปัตย์ได้ส.ส.ทั้งหมด114ที่นั่งยึดกรุงเทพฯขณะที่ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชหัวหน้าพรรคกิจสังคม อดีตนายกรัฐมนตรีแพ้การเลือกตั้งให้กับคุณสมัคร สุนทรเวช ดาวรุ่งพรรคประชาธิปัตย์ในเขตดุสิต
ง.มฤตยูที่ตุลย์ส่งกระแสตรงการเลือกครั้งที่14 เมื่อ22เมษายน2522 เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกหลังเหตุการณ์6ตุลาคม 2519 พรรคประชากรไทยของคุณสมัคร สุนทรเวช ได้ส.ส.ในกรุงเทพฯ 29 ที่นั่งจาก 32 ที่นั่งในกรุงเทพฯ
ปรากฎการณ์ความสำเร็จของคุณสมัคร สุนทรเวชครั้งนั้นสร้างความตกตะลึงทั้งวงการเมือง ผู้เขียนจำได้เลาๆว่าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษขณะนั้นไม่บางกอกโพสต์ ก็เดอะเนชั่น พาดหัวข่าวว่า …Believe it or not, its SAMAK.
พรรคประชากรไทยเหลือที่นั่งส.ส.ในกรุงเทพฯให้พรรคอื่นเพียงสามท่านคือพันเอกถนัด คอมันต์ พรรคประชาธิปัตย์-ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และดร.เกษม ศิริสัมพันธ์ จากพรรคกิจสังคมเท่านั้น แล้วพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง
ดังนั้นเมื่อผลการเลือกตั้งคราวนี้ออกมาแปลกประหลาดช็อกบรรดาฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั้งหลายคือก้าวไกลกับเพื่อไทยได้ที่นั่งส.ส.เป็นอันดันหนึ่ง-สองแล้ว
คาดว่ามฤตยูจรแม้จะเพียงกระแสแฝงเราคงจะเห็นการได้รัฐบาล และฝ่ายค้านแปลกๆแบบที่เคยเกิดมาแล้วจากการเลือกตั้งในอดีตสี่ครั้ง ดังที่เริ่มแล้วที่หลังเลือกตั้งพรรคการเมืองที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มประชาธิปไตยต่างเชิดฉิ่ง-รำมวยใส่กันเต็มที่ ขณะที่หาความลงตัวเพื่อเป็นรัฐบาล ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหน จะมีใครเป็นตาอยู่หรือไม่
ปรากฎการณ์แปลกๆในวงการเมืองนี้จะกินเวลายาวนานไปอีกถึงประมาณกลางกรกฎาคม 2572.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย