สงสัย น้ำผึ้งเดือน 5 ของปี 2566 จะเกิดอาการ “ขมปร่า” เสียแล้ว เพราะ 8 พรรคการเมืองเพิ่งลงนามบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยู โดย ถือฤกษ์ครบรอบ 9 ปีรัฐประหารไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2566 แต่แทนที่จะหวานหอมเพราะขยับเข้าใกล้ “อำนาจ” เข้าไปทุกที ที่ไหนได้ความระหองระแหงกลับเกิดมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญดูเหมือนคนจุดประเด็นก็คือคนนอกพรรคที่มีอำนาจเหนือพรรคอย่าง “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า ...๐
แล้วนี่ถ้าระลึกถึงอดีตจวบจน ปัจจุบัน บทบาทของ “อ.ป๊อก” ก็แทบเรียกว่าไม่ต่างจาก “ทักษิณ ชินวัตร” นายเหนือแห่งดูไบ ที่คอยขีดเส้นและกำหนดก้าวเดินของพรรคเพื่อไทยแต่ประการใด เลย งานนี้ดูเหมือน “ปิยบุตร” คงลืมไปว่า แม้พรรคก้าวไกลจะได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวน 152 เสียงก็ตามที แต่ อย่าลืมว่า “พรรคเพื่อแม้ว” นั้นก็มีเสียงอยู่ 141 เสียง ที่สำคัญ “ก้าวไกล” จำเป็นต้องมี “เพื่อไทย” เป็นพรรคร่วม แต่สำหรับ “เพื่อไทย” แล้วไม่จำเป็นต้องมี “ก้าวไกล” ก็ได้ ...๐
งานนี้การที่ “ปิยบุตร” ทุบโต๊ะจะเอาทั้งตำแหน่งเก้าอี้ผู้บริหารประเทศอย่าง “นายกรัฐมนตรี” ให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และ เก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติอย่าง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ที่จะเป็นประธานรัฐสภาให้พรรคก้าวไกลนั้น เลยทำให้ “เพื่อไทย” ถึงกับออกอาการงอแงกันเลยทีเดียว เพราะดูเหมือน “ปิยบุตร” จะเป็นหัวหอกทะลวงฟันแล้ว บรรดาลูกหาบก้าวไกลทั้งในระบบและนอกระบบไม่ว่าจะเป็น “รังสิมันต์ โรม” หรือ “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ต่างก็พาเหรดมายืนยันโดยอ้างอิงประวัติศาสตร์ว่าประธานสภาฯ ต้องเป็นของพรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดเท่านั้น ยกเว้นครั้งที่ผ่านมาที่เป็นรัฐบาลไม่ปกติ ที่มีการยกเก้าอี้ให้กับพรรคที่ได้คะแนนเสียงน้อยกว่า ...๐
เล่นเอา “อดิศร เพียงเกษ” ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีต ส.ส.เขี้ยวลากดินที่ทำงานในสภาหลายสมัยถึงกับต้องออกโรงมาติติงว่า ก้าวไกลไม่ควรกินรวบ หัดเล่นสลากกินแบ่งบ้าง ที่สำคัญ “หมอแคนตุ๊” ยังยกตัวอย่างทั้งกรณี “ชวน หลีกภัย” ที่นั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ ยุคที่ผ่านมา หรือแม้แต่ยุค “อุทัย พิมพ์ใจชน” ที่มีเพียง 3 เสียง ก็ได้เป็นประธานสภาฯ มาอบรมสั่งสอนพรรคส้มให้รู้จักบันยะบันยังบ้าง ที่สำคัญ “อดิศร” ยังเหน็บเบาๆ ปมพรรค พท.ถูกป้ายสีเรื่อง “สู้ไปกราบไป” และถูกขยายผลโดย “ไอโอ” และโลกโซเชียลจนพรรคพ่ายแพ้ว่า ตอนนี้ “ก้าวไกล” ควรห่วงภาพลักษณ์ตัวเองในเรื่อง “สู้ไปโกหกไป” หรือเปล่า เพราะการหาเสียงกับเอ็มโอยูนั้นคนละเรื่องกันเลย ...๐
เรียกว่าไม่มีมูลหมาไม่ขี้ เพราะเอ็มโอยูนั้นไม่มีทั้งเรื่องมาตรา 112 หรือนิรโทษกรรม หรือแม้แต่นโยบายขายฝันทั้งหลาย ตั้งแต่ค่าแรง 450 บาท/วัน, เบี้ยคนชรา 3,000 บาท และเบี้ยคนพิการ 3,000 บาท แต่ที่ดูมุ่งมั่นและดูเหมือนเป็นผลประโยชน์ของพรรคอย่างชัดแจ้งส้มแจ๋ ทั้งเรื่อง LGBTQ หรือเรื่องสุราเสรี กลับระบุชัดเจน แล้วยังมีเรื่องขำไม่ออกอีก เพราะหลัง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พยายามทำตัวเป็นนายกฯ ล่วงหน้า ด้วยการไปพบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่าจะไม่ปรับค่าแรงขั้นต่ำกระชากระบบแน่ เพราะยังต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงสภาแรงงาน และผู้ประกอบการด้วย ...๐
แต่ดูเหมือนเรื่องดังกล่าว “ว่าที่ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 4 ของพรรคอย่าง “เซีย จำปาทอง” นักกิจกรรมด้านแรงงาน คงนอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น หรือจะเป็นกลยุทธ์เล่นไพ่ 2 หน้าของพรรคก้าวไกลตามสไตล์ที่ “อดิศร” ระบุไว้อย่างสู้ไปโกหกไปก็ได้ เพราะยังโพสต์เฟซบุ๊กว่ามีการปั่นกระแสข่าวออนไลน์ว่าก้าวไกลจะไม่ขึ้นค่าแรง ขอยืนยันแบบชัดเจนตรงไปตรงมาว่านโยบายค่าแรง 450 บาทขึ้นทันที ภายใน 100 วันแรกของรัฐบาลก้าวไกล แหม! ตกลงสาวกส้มควรเชื่อเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สี่ดี ที่สำคัญหากใน 100 วันไม่ขึ้นค่าแรงจริง “เซีย” จะกล้าแสดงความรับผิดชอบไม่รับเก้าอี้ ส.ส.หรือไม่เอ่ย ...๐
นี่แค่น้ำผึ้งของ “สู้ไปกราบไป” กับ “สู้ไปโกหกไป” ยังไม่นับรวม พรรคน้ำใต้ศอกของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แห่งพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ที่มีเพียง 6 เสียง เพราะดูเหมือนการที่ “น.ต.ศิธา ทิวารี” เลขาธิการพรรคและแคนดิเดตนายกฯ ทวงถามความชัดเจนในระหว่างช่วงการเซ็นเอ็มโอยู รวมถึงการมาโพสต์เบื้องลึกเบื้องหลังแบบสาวไส้ให้กากิน ก็ทำ ให้ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ที่ปกติมักไม่ออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงแม้ตอนเป็นฝ่ายค้านที่ผ่านมา ยังเกิดอาการนอตหลุด พร้อมระบุว่าถ้าชกได้ชกไปแล้ว ก็เรียกว่าแค่รัฐบาล 8 พรรคตั้งไข่ก็เห็นอาการแล้วว่าท่าจะรอดยากเสียจริงๆ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน Dinner Talk Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market เหมือนกับการแถลงนโยบายรัฐบาลอีกครั้งของพ่อนายกฯ และยิ่งบดบังบทบาทของ บุตรสาว อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ
บันทึกหน้า 4
ปมร้อนเรื่องกฎหมายกาสิโน สุดท้าย ครม.ก็มีมติเห็นชอบ หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาตั้งข้อ สังเกต 6 ประเด็น
บันทึกหน้า 4
วันนี้ขอบันทึกเริ่มต้นด้วยสุภาษิตไทย "รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง" เพราะนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร โอดครวญกับเด็กๆ ว่า "ถูกบูลลี่" เรื่องการแต่งตัว และวันต่อมาก็พูดในระหว่างหาเสียง อบจ.ที่นครพนมว่า.. ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะมีนักร้องคอยจับผิด
บันทึกหน้า 4
"นายหัวชวน" ออกโรงตวัดใบมีดโกนกรีดปาก "นายใหญ่" เจ้าของตำแหน่ง สทร. "คุณทักษิณบอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ผมเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง
บันทึกหน้า 4
ต้องยกนิ้วให้ “โทนี่ วู้ดซัม” เสียจริงๆ เพราะขยับปากแต่ละทีนอกจากสร้างความฮือฮาให้สังคมแล้ว ยัง สร้างภาระให้กับลูกสาวอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีอีกด้วย โดยล่าสุดก็ในการไปหาเสียงให้ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ศรีภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่จะลงชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นั่นแล ...๐
บันทึกหน้า 4
เมื่อวันอังคารมีการประชุม ครม.ครั้งแรกในปี 2568 หลังจากผ่านวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแก้ตัวแทน พ่อนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร