เลือกตั้งเที่ยวนี้ต้องยอมรับว่ากระแส มีผลอย่างมากที่ทำให้ผู้สมัครและพรรคได้รับชนะ ไม่เว้นแต่พื้นที่ ส.ส.เดิมหรือ ส.ส.บ้านใหญ่หลายจังหวัดต้องสอบตก เสาไฟฟ้าล้มเป็นครั้งแรก ท่ามกลางการยอมรับภูมิทัศน์การเมืองต้องเปลี่ยนไป
พรรคก้าวไกล ประสบความสำเร็จ ด้วยการผุดวาทกรรม "มีลุงไม่มีเรา " หรือบางพื้นที่อาจเล่นประเด็นความขัดแย้ง สร้างความเกลียดชัง ด้วยวากรรม งูเห่า เพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะ
อย่างเช่นจังหวัดศรีสะเกษ ที่พรรคใช้ประเด็นโจมตีเรื่องงูเห่า กระทั้งคว้าชัยไปได้ 7 ที่นั่งจาก 9 ที่นั่ง ขณะที่2 ที่นั่งเป็นของพรรคภูมิใจไทย
โดย1 ใน 2 คนของพรรคสีน้ำเงินที่หนังเหนียว ฝ่ากระแสต่างๆ และเข้าสภาฯรอบ 2 ได้ คือ"ส.ส. แนน" นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ว่าที่ ส.ส.เขต 8 จังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ด้วยคะแนน 42,882 คะแนน เหนืออันดับ 2 นายประวิทย์ จารุรัชกุล จากพรรคเพื่อไทยที่ได้ 34 ,811 คะแนน และ อับดับ 3 นายเฉลิมชัย ทัพพเสรษฐโชติ จากพรรคก้าวไกล ได้ 8,158 คะแนน
"ส.ส.แนน" ยอมรับว่า สาเหตุที่กลับมาได้เพราะการทำเททำงานหนัก 7 วันตลอด 24 ชั่ว โมง และมีโอกาสลงพื้นที่พบพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านต่างๆ 300 กว่าหมู่บ้าน มีโอกาสนำเสนอนโยบายพรรคภูมิใจไทย "พูดแล้วทำ" อาทิ นโยบายพักหนี้3ปีหยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย, ค่าตอบแทน อสม. เดือนละ 2000 บาท , ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ เช่นฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ , มิเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ฯลฯ
พร้อมมีโอกาสพูดถึงผลงานที่ผ่านมาในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ว่าทำอะไรบ้าง มีผลงานอะไรบ้าง และได้มีโอกาสรับฟังปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ในช่วงหาเสียง ยังยึดหลักการ ประการแรก จะไม่ปราศรัยโจมตี กล่าวให้ร้ายใคร เพราะไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง
ประการที่สอง คือ ต้องการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน และต้องการพัฒนาบ้านเรา ให้เติบโตเหมือนอย่างที่เมืองใหญ่ๆเขามี
" ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทั้งที่เลือกและไม่ได้เลือกผม และหลังจากได้รับโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯสมัยที่ 2 จะ มุ่งมั่น และตั้งใจทำงานตามที่เคยรับปากเอาไว้เพื่อให้ชาวศรีสะเกษทุกคนมีความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป" "ส.ส.แนน" รับประกัน
นี่คือ “คนเหนือกระแส” ชนะเลือกตั้งได้ด้วยแนวทาง “คนรุ่นใหม่ พูดแล้วทำ อยู่กับพี่น้อง มีผลงาน”
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใช้ซื้อข้าวมาแล้ว
ตั้งแต่ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม อดีตที่ปรึกษาของนายกฯ หายไปด้วย
อ่อนกว่าวัย
ไม่น่าเชื่อในวันที่ 13 ม.ค. 2568 รัฐมนตรี 17 สมัย อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข จะมีอายุครบ 70 ปี เนื่องจากรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่าวัยมาก เหมือนกับคนอายุประมาณ 50 ปีเศษเท่านั้น
ขอติดทีมชาติไทย
นักการเมืองไทยรุ่นเก๋าหลายคนบ่นอุบ ยอมรับว่าเปลี่ยนยุคไปไว มีสส.หน้าใหม่เข้าสู่วงการจำนวนมาก ส่วนสส.รุ่นใหญ่นับวันก็จะมีแต่คนโบกมืออำลาวงการ ส่วนใครที่ยังใจรักก็อยู่ทำงานต่อแบบเหงาๆ เพราะเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกันก็ออกไปนั่งดูอยู่ห่างๆ แทน
'ลูกชิ้นปลาหมอคางดำ'
เริ่มแล้วกับงานวันรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2567 โดยในปีนี้ทางรัฐสภาได้จัดงานภายใต้คอนเซปต์ "กินลม ชมสภา" สู่รัฐธรรมนูญในฝัน ระหว่างวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม ซึ่งในวันแรกบรรยากาศสดใส เหล่าข้าราชการ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างมาตั้งร้านขายของกันภายในงาน
แชร์กันใส่เครื่องแต่งตัว
ว่าด้วยเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ของผู้นำประเทศ อย่าง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ส่วนใหญ่เจ้าตัวจะเน้นใส่ผ้าไทยตามสไตล์เจ้าแม่ซอฟต์พาวเวอร์
ถามเรื่องวัดแล้ว
เป็นผู้ใหญ่ใจดี สำหรับ อ.ชู-ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายประจำรัฐบาลและประจำค่ายเพื่อไทย