ในที่สุด “คนในประเทศ” ต่างได้ประจักษ์ว่าความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ต้องการอะไร ผ่านผลการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์(14 พ.ค.)ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ได้คะแนนถล่มทลาย แม้แต่ “เพื่อไทย” ที่ว่าแน่ยังต้องถอยให้
โดยคะแนนนิยมพรรคส้มได้ถึง 14 ล้านเสียง เกินกว่าที่ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ขอไว้ในการหาเสียงส่งท้ายที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เสียอีก ในครั้งนั้นขอประชาชนโหวตไว้เพียง 12 ล้านเสียง ต้องบอกว่าประชาชนตอบรับดีเกินกว่าที่เซียนการเมืองคาดไว้มากทีเดียว
ได้ความนิยมลามทุ่งขนาดนี้ แน่นอน “ก้าวไกล” ต้องได้เป็น “แกนนำจัดตั้งรัฐบาล” ส่วนพรรคอื่นต้องถอยให้ตามมารยาท จนกว่า “ก้าวไกล” จะไม่ได้รับความร่วมมือจากค่ายต่างๆ
แต่ทักษะ พ่อส้ม ด้อมส้มต้องเรียนรู้ คือการอยู่ตัวคนเดียวไม่พูดไม่คุยกับใครบนโลกนี้ไม่ได้ แต่ต้องมีเจรจา มีไมตรีจิตให้เพื่อนๆ เหมือนที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯบอกไว้ ว่า “ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง” คิดว่าแกนนำพรรคก้าวไกลคงจะเข้าใจ!
ขืนยังยึดหลักพูดเอาแต่ความสะใจมีหวังเพื่อนไม่ครบ ทำให้เป้าประสงค์จัดตั้งรัฐบาลไม่บรรลุแน่แท้ และบางที “หัวหน้าทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเป็นพ่อสายบัวรอเก้อ ได้เป็นแค่ว่าที่นายกฯก็เป็นได้
ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงอย่าโทษใครทั้งหมด ต้องดูพฤติกรรมตัวเองด้วย!#$#% และนี่ก็คือความอลเวงระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม จากผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เกิดปรากฎการณ์ช็อคแล้วช็อคอีก เพื่อไทยช็อคสุด เมืองหลวงทั้งภาคเหนือ ภาคอีสานโดนเจาะเป็นรูพรุน ส่วนประชาธิปัตย์ช็อคซ้ำซาก หลังจากเลือกตั้งปี62 ได้ส.ส.น้อย รอบนี้ได้น้อยกว่าโดยเหลือเพียง 24 คน
ประจวบเหมาะ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หมดวาระหัวหน้าพอดิบพอดี จึงต้องมีนัดประชุมหาผู้นำพรรคคนใหม่ นาทีนี้ชื่อ “อ.มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาพูดกันอื้ออึ้งในพรรคอีกครั้ง จึงต้องรอลุ้นเจ้าตัวจะกลับมาไหมในห้วงเวลาเช่นนี้
“อดีตหัวหน้ามาร์ค” เคยพูดไว้จะกลับมาหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อาทิเช่น การยอมรับของสมาชิกพรรค กลับมาแล้วทำประโยชน์ให้พรรคและประเทศได้หรือไม่ เป็นต้น
หลายคนในพรรคที่เคยกล่าวโทษ สาเหตุการแพ้พ่ายในปี62 เพราะ “มาร์ค” ประกาศไม่เอาลุง วันนี้พิสูจน์แล้วแม้จะ “เอาลุง” ก็ร่อแร่พอกัน จึงต้องรอลุ้นเจ้าตัวจะคัมแบล็คเร็วๆนี้หรือไม่
คราวนี้ ขุนพลของประชาธิปัตย์คงต้องระดมสมองกันหน่อย จะยกเครื่องนำพาพรรคเป็นสถาบันการเมืองต่อไปอย่างไร ความเก๋าเกมการเมืองของพรรคไม่มีใครเห็นแย้ง แต่เรื่องทำอย่างไรให้พรรคมีกลิ่นอายความใหม่ ล้ำสมัย ก้าวทันโลก ทั้งยังต้องกอบกู้ศรัทธาและความน่าเชื่อถือจากประชาชนนี่สิปัญหาที่ต้องช่วยกันคิดอ่าน มากกว่ามานั่งแยกกลุ่มพวกใครพวกมัน
อืม ยิ่งแก่ยิ่งเยอะประสบการณ์ แล้วถ้าไม่ตกยุคด้วย ก็ดูมีความหวังขึ้นมา อิอิ
มินนี่ เม้าธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทบไหล่แชมป์โลก
หนึ่งปีมาหน โอกาสทองของคนไทยคอรักบี้จะได้กระทบไหล่แชมป์โลก!!!
'ผมกำลังลื่น'
วันจันทร์ที่ผ่านมา ในการประชุมวุฒิสภามีวาระร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง โดยช่วงหนึ่งของการประชุมจะเห็นได้ว่ามี สว.เอาอวนดักปลาขึ้นมาประกอบการอภิปราย พร้อมปลากะตักแห้งที่เอามาเป็นตัวอย่างประกอบ
แจกสิทธิ์ 10 คนแรก
ต้องฝ่ากระแสร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปี 2567 สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งกระแสพรรคแตก สส.ทยอยย้ายซบพรรคอื่น กระแสข่าวหัวหน้าพรรคถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทันเกมทักษิณ
โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน