'น้อมรับเสียงของประชาชน'

เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นอีกครั้งของประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่จะต้องจารึกไว้ โดยครั้งนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า มีผู้มาใช้สิทธิทั้งหมด 39,293,867 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ 52,238,594 คน คิดเป็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิโดยเฉลี่ยทั่วประเทศ 75.22% ถือว่าเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ กกต.เคยจัดการเลือกตั้งมา 7 ครั้ง

นับนิ้วมาถึงจนถึงชั่วโมงนี้ ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเมืองค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า พรรคก้าวไกล มาที่ 1 แน่นอน ตามมาติดๆ ด้วยพรรคเพื่อไทย

แน่นอนว่า งานนี้แลนด์สไลด์ ตกหล่นรายทาง ให้กับพรรคก้าวไกลไปเสียนั้น บรรยากาศของผู้มาที่ 2 ในตึกเพื่อไทยจึงดูเหงาๆ หงิมๆ กันไปตามสภาพ

โดยเฉพาะหลังช่วงปิดหีบการเลือกตั้ง และเข้าสู่นาทีเป็นนาทีตาย เมื่อวันที่ 14 พ.ค. คือวันเลือกตั้งที่ผ่านมา มองซ้ายมองขวาก็เรียกว่าไม่ได้แตกต่างอะไรมากจากวันที่มีการแถลงข่าวปกติ ซึ่งมีนักข่าวจากทั้งในและต่างประเทศมาพร้อมกันที่ทำการพรรคเพื่อไทย ที่ตอนนั้นต่างคนต่างหวังว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะนับคะแนนเสร็จภายในคืนวันเดียวกับวันเลือกตั้ง

แต่แล้วค่ำคืนที่ยาวนานก็ไม่มีท่าทีว่าจะเสร็จ จวนเวลา 5 ทุ่มของวันที่ 14 พ.ค. ทางแกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึงแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 2 คนของพรรคเพื่อไทย ก็ได้มาทักทายสื่อที่รอทำข่าว

ระหว่างทางเดินที่แคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 2 เดินเข้ามา มีสื่อมวลชนวิ่งกรูเข้าไปถ่ายรูป พร้อมยิงคำถามรัวๆ ตามปกติ หรืออาจจะมากกว่าในวันอื่นๆ ทาง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่แฝงไปด้วยความซึมๆ ได้เดินเข้ามาทักทายสื่อมวลชน

พร้อมตอบคำถามตอนหนึ่งว่า “หากพรุ่งนี้คะแนนเป็นเอกฉันท์ พรรคก้าวไกลนำพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมน้อมรับเสียงของประชาชน เพราะเสียงของประชาชนคือเสียงที่สำคัญที่สุด ประชาชนไว้ใจใครเป็นอันดับหนึ่ง คนนั้นได้จัดตั้งรัฐบาล และพรรคนั้นก็ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน”  

ก็เรียกได้ว่างานนี้คะแนนชัดเจน ก้าวไกลแลนด์สไลด์ซะขนาดนี้  ชั่วโมงนี้ อุ๊งอิง ลูกสาวทักษิณ ก็ต้องยอมรับว่าประชาชนเขาให้มาได้ไกลแค่นี้!.  

 

เจ้าพระพาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ไม่ค้านสายตา”

จบไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภาและรองประธานทั้งสอง ที่ผลออกมาตามคาดในใจใครหลายๆ คน ซึ่งวันที่เลือกตรงกับวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์มากมายแต่สถานการณ์ต่างๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะมีผู้ควบคุมการประชุมที่ดีนั่นเอง

เร่งตีปี๊บผลงาน

อยู่ในช่วงเร่งตีปี๊บผลงานรัฐบาลแบบด่วนๆ ตามดำริของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายแก่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย “หมอชัย” ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ

“ชัยชนะ=อดทน”

“เกือบหลับ แต่กลับมาได้ ” มีให้เห็นเสมอ สำหรับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)

ให้ฟัง อ.วิษณุ

ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นกุนซือของ เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม มาทำงานอย่างเคร่งครัด

ต้อนรับพรรคคอมฯ เวียดนาม

การเมืองกำลังฮึ่มๆ รายวัน ส่วนใหญ่เน้นไปทางความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคอื่นดูเหมือนนานๆ ทีจะเป็นที่กล่าวถึง

“ยิ้มสยบ”

นับว่าเรื่องนี้ยาวติดต่อกันมาหลายวัน สำหรับ “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ได้คะแนนสูงสุดในการเลือกสว.ระดับประเทศในลำดับที่ 1 แต่สังคมไทยก็ยังมีเรื่องแคลนใจจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหาวิทยาลัยที่เรียน หรือวุฒิการศึกษา ล่าสุดมีคนในโซเชียลได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในหลายทาง