เมื่อวานเขียนถึงแนวทางวิเคราะห์ของ Gen Mike Milley, ประธานเสนาธิการทหารร่วมของอเมริกา, ว่าด้วยสงครามยูเครน
พอเขียนจบก็ได้ข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมจะเสนอชื่อ พล.อ.ชาร์ลส์ บราวน์ (Charles Brown) ผู้บัญชาการทหารอากาศให้มาแทนตำแหน่งนี้ เพราะคนเดิมจะเกษียณสิ้นเดือนกันยายนนี้
นายพลบราวน์จะเป็นนายทหารผิวดำคนที่ 2 ต่อจากนายพล Colin Powell ผู้ล่วงลับ
นอกจากนี้ยังถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่ตำแหน่งผู้นำ 2 อันดับต้นๆ ของเพนตากอนจะเป็นของคนสีผิว
รัฐมนตรีกลาโหม Gen Lolyd Austin ก็เป็นนายพลผิวดำเช่นกัน
ประสบการณ์ของนายพลบราวน์อยู่ในย่านมหาสมุทรแปซิฟิกและตะวันออกกลาง
แต่แนวทางวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของนายพลมาร์ก มิลลี ก็ยังน่าสนใจ เพราะเขาคือหนึ่งในแกนนำของการวางนโยบายทางทหารของสหรัฐฯ
ในการให้สัมภาษณ์ค่อนข้างละเอียดกับ Foreign Affairs นั้นมีการถามถึงทิศทางของสหรัฐฯ ในเอเชียด้วย
ถาม : เมื่อคุณประเมินความเสี่ยงของความขัดแย้งทางอาวุธในเอเชีย คุณมักจะพูดถึงความพยายามยับยั้งจีน
คุณกำลังจะนำบทเรียนอะไรจากสงครามยูเครนมาใช้ในแปซิฟิก?
นายพลมาร์ก มิลลี : ไม่มีสงครามใดที่เหมือนกัน การรุกรานไต้หวันโดยจีนจะไม่ดูเหมือนการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย
พื้นฐานที่แตกต่างกันก็เริ่มจากภูมิประเทศและสภาพอากาศ
ยูเครนมีพรมแดนทางบกติดกับรัสเซีย และรัสเซียสามารถระดมพลและวางกำลังในพื้นที่ชุมนุมและตำแหน่งโจมตีสำหรับการรุกราน
รัสเซียมีทหาร 140,000-150,000 นาย อยู่แนวหน้า และอีกกว่าแสนคนอยู่ข้างหลังในแนวรบหลายแนวข้ามพรมแดนทางบก
ดังนั้นพวกเขาจึงมีช่องทางการสื่อสารพื้นฐานทางบกที่ดีพอสมควร
ปัญหาของจีนนั้นแตกต่างกันโดยพื้นฐาน
ถ้าจีนจะโจมตีไต้หวัน ปักกิ่งก็ต้องเตรียมยกพลขึ้นบกแบบสะเทินน้ำสะเทินบกร่วมกับพลร่ม และการโจมตีทางอากาศ เฮลิคอปเตอร์ปีกหมุน ขีปนาวุธ ต้องพร้อมหมด
การเตรียมการยิงทั้งหมดที่จะเข้าไปโจมตีไต้หวัน พวกเขาต้องยึดหัวหาด และจากนั้นต้องมีลิฟต์สะเทินน้ำสะเทินบกและฝ่าข้ามน้ำเป็นระยะทาง 100 ไมล์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายพอสมควร
นอกจากนั้น ทหารจีนยังต้องสร้างความแน่ใจว่าใต้ผิวน้ำทหารของเขาจะปลอดภัยจากการโจมตีของเรือดำน้ำ
อีกทั้งยังมีภารกิจกวาดทิ้งทุ่นระเบิดและเคลียร์ชายหาด จากนั้นก็ยังต้องยกพลเข้าโจมตีและยึดเขตเมืองที่มีประชากรประมาณสามล้านครึ่ง...ในภูมิประเทศที่มีภูเขาสูงมาก ซึ่งเป็นปราการป้องกันตัวธรรมชาติอย่างดีสำหรับไต้หวันเอง
ผมจึงต้องเตือนคุณว่า ต้องระมัดระวังในการที่จะเปรียบเทียบการทำสงครามในยูเครนกับไต้หวัน
แต่ก็มีบทเรียนหนึ่งที่ฝ่ายจีนคงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ นั่นคือสงครามของจริงนั้นค่อนข้างแตกต่างจากสงครามบนกระดาษ
เพราะพอถึงจุดหนึ่งเมื่อทหารต้องตายจริง และการสู้รบก็ทำด้วยรถถังจริง และยานรบทหารราบก็ถูกระเบิดจริง และบางครั้งสิ่งต่างๆ ก็อาจไม่เป็นไปตามที่คุณคิด
ดังนั้นอย่างน้อยเท่าที่เราทราบ ฝ่ายจีนยังไม่มีกิจกรรมในระดับการฝึกและเตรียมการที่จะรองรับการศึกขนาดใหญ่ และขอบเขตของการทำสงครามรุกราน
ลองย้อนกลับไปคิดถึง “ศึกนอร์มังดีซิ...ที่นอร์มังดี สหรัฐอเมริกาและอังกฤษส่งทหารประมาณ 120,000 นายขึ้นฝั่ง รวมทั้งหย่อนหน่วยทหารจำนวน 3 กองบินลงไป ณ จุดนั้นคืนก่อนหน้านั้น และส่งทหารประมาณ 120,000 นายขึ้นไปยึดชายหาดก่อนเที่ยงหรือตอนบ่ายของวันเดียวกัน...ตามมาด้วยทหารอีกจำนวนหนึ่งในเวลาต่อมา
และต้องไม่ลืมว่ากองทัพไต้หวันวันนี้ไม่ใช่ทหาร Wehrmacht ของนาซีเยอรมนีในปี 1944 เพราะกองทัพไต้หวันเป็นหน่วยรบที่มีศักยภาพ
กองทัพที่ยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดีได้ประสบการณ์ก่อนหน้านั้นจากการบุกแอฟริกาเหนือและซิซิลี และได้ปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกในอิตาลี จึงได้ประโยชน์จากบทเรียนที่ได้รับ และมีประสบการณ์เป็นร้อยครั้งว่าด้วยปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกในมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ดังนั้น แม้ในช่วงปี 1944 ก็ยังเจอความท้าทายมาก...อย่าลืมว่านายพลไอเซนฮาวร์เขียนจดหมายลาออกในกรณีที่เกิดความล้มเหลวในคืนก่อนหน้านั้น
และในกรณีนั้นเป็นปฏิบัติการทางทหารตรงช่องแคบอังกฤษ ซึ่งมีความกว้างประมาณ 30 ไมล์ อะไรทำนองนั้น
และตอนนี้ ในกรณีไต้หวัน มันเป็นระยะทางเป็นร้อยไมล์ และเป็นกองทหารที่ไม่เคยทำอะไรแบบนั้นมาก่อนเลย
แถมภูมิประเทศในไต้หวันยังยากกว่าและซับซ้อนกว่าที่นอร์มังดีมาก
ผมเชื่อว่ามันเป็นภารกิจที่หนักหน่วงทีเดียว และผมก็เชื่อว่าฝ่ายจีนตระหนักเรื่องนี้ดีเช่นกัน
ดังนั้นเราควรจะทำอย่างไร?
เราต้องพยายามระงับยับยั้งการต่อสู้ด้วยอาวุธให้ได้
แล้วจะยับยั้งได้อย่างไร?
ประวัติศาสตร์บอกเราว่าวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามคือ การมีกองกำลังที่เข้มแข็งมาก และมั่นใจว่าฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าคุณมีศักยภาพเช่นนั้น
ต้องให้ฝ่ายตรงกันข้ามรู้ว่าคุณมีความสามารถที่จะเอาชนะในการสู้รบหากเกิดขึ้น
และให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ตระหนักว่าคุณมีความตั้งใจที่จะใช้ศักยภาพเช่นนั้น และต้องสื่อสารให้ฝ่ายโน้นได้รับทราบด้วย
ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ ให้แน่ใจว่ากองทัพสหรัฐฯ ไม่เพียงแต่เหนือกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ใช่แค่เหนือกว่าเล็กน้อย ต้องดีกว่ามากด้วย
นั่นก็เพื่อให้แน่ใจว่าฝ่ายโน้นรู้ศักยภาพของเรา...และให้เขารู้ด้วยว่าเรามีความตั้งใจที่จะใช้กองกำลังที่เหนือกว่านั้นในกรณีเกิดวิกฤต
นอกจากนี้เรายังต้องให้แน่ใจว่าไต้หวันต้องปรับปรุงความสามารถในการป้องกันอย่างมากและรวดเร็ว และรวมถึงสิ่งที่คุณเห็นที่ยูเครน
นั่นคือทั้งประเทศลุกขึ้นมาทำสงครามกับผู้รุกราน
ดังนั้นรัสเซียไม่ได้แค่ต่อสู้กับกองทัพยูเครนเท่านั้น แต่ยังต้องต่อกรกับชาวยูเครนด้วย
ไต้หวันก็ต้องประเมินและทบทวนหลักการป้องกันของคุณ และพัฒนากองทัพให้มีความสามารถในยุทธศาสตร์ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเรียกว่า “กลยุทธ์เม่น” (Porcupine Strategy)
นั่นคือยุทธศาสตร์ที่จะเตือนฝั่งปักกิ่งว่า ถ้าหากเปิดฉากโจมตีไต้หวัน ก็อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ก็เป็นความสำเร็จแบบจำกัด
แต่มันจะเป็นความสำเร็จที่มีค่าใช้จ่ายสูง...สูงเกินประโยชน์ที่จะได้ ได้ไม่คุ้มเสีย
แต่ผมคาดว่าเรามีเวลาค่อนข้างจำกัดเพื่อให้แน่ใจว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประเมินต้นทุนที่ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นหากตัดสินใจโจมตีไต้หวัน
แต่เพราะเวลามีจำกัด เราจึงต้องพยายามจะออกแบบมาตรการที่จะยับยั้งจีนไม่ให้คิดการใหญ่ที่อันตรายและไม่คุ้มกับความเสี่ยงสำหรับจีน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ