ประเดิมเริ่มต้นขอชื่นชม ตำรวจน้ำดี จากการปฏิบัติหน้าที่ช่วงเที่ยงคืนวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ ส.ต.ท.ภูวดล สิริภิญโญสกุล ผู้บังคับหมู่ งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจจราจร กำลังหยุดให้ความช่วยเหลือรถจอดเสียอยู่ริมถนน ช่วงทางโค้งบางกอกพาเลส ขาออก แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ได้มีรถยนต์ยี่ห้อ BMW ขับส่ายแล้วพุ่งชนทั้งคนทั้งรถอย่างแรง ส่งผลให้ ส.ต.ท.ภูวดล ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีอาการเลือดออกในสมอง ถูกนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ห่วงใยตำรวจน้ำดีรายนี้และชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ มอบหมายให้
รองต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เป็นตัวแทนเยี่ยมบำรุงขวัญ เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ก็เข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา
ตอกย้ำกันอีกรอบก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ บิ๊กปิ่น-พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ทำหน้าที่โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) แจ้งเตือนประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ให้ระมัดระวังการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 5 ข้อ 1.นำบัตรเลือกตั้งออกจากหน่วยเลือกตั้ง ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 2. ถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนเองลงคะแนนแล้ว ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อลงคะแนนหรืองดเว้นไม่ลงคะแนน ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 4.จงใจทำบัตรเลือกตั้งชำรุด เสียหาย หรือจงใจทำบัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และ 5.นําบัตรที่ลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื่น เพื่อให้ทราบว่าตนได้เลือกหรือไม่เลือกผู้ใด ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สะดุ้งกันทั้งสวนพลู!!! เมื่อ พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รอง ผบก.กองร้องทุกข์ สง.กตร.(กองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สุโกศล ทองแกมแก้ว รอง สว.(สอบสวน) บก.ปปป. แจ้งความกล่าวโทษ นายตำรวจระดับสูงที่เคยดำรงตำแหน่ง ผบช.สตม. กรณีเอื้อเอกชนเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าต่างชาติเข้าไทย โดยบริษัทเอกชนดังกล่าวมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา VISA ON ARRIVAL จากผู้ยื่นขอเป็นจำนวนเงิน 2,500 บาทต่อคน และหากมีความประสงค์ยื่นคำขอเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ได้รับการพิจารณาเรื่องรวดเร็วขึ้นและให้แจ้งผลการพิจารณาภายใน 24 ชั่วโมง จะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากเดิมอีก 2,500 บาทต่อคน แต่จากการตรวจสอบกลับพบว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับค่าธรรมเนียมจากบริษัทเพียง 2,000 บาทต่อคน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 30 (พ.ศ.2559) ส่วนจำนวนเงินส่วนต่าง 500 บาทหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นค่าบริการที่บริษัทเอกชนเรียกเก็บจากการให้บริการ
ดังนั้นการที่ อดีต ผบช.สตม.ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นการทำสัญญาต่างตอบแทนในลักษณะสัญญาจ้างทำของซึ่งมุ่งความสำเร็จของงาน โดยให้บริษัทเป็นผู้รับเรื่องในการยื่น VISA ON ARRIVAL (E-VOA) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และจัดเก็บค่าธรรมเนียมให้แก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยบริษัทได้ผลตอบแทนเป็นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจำนวน 500 บาท หรือเงินเพิ่มกรณีคำขอพิเศษ โดยอาศัยบันทึกข้อตกลงฉบับดังกล่าวที่ อดีต ผบช.สตม.เป็นผู้ลงนาม จึงถือว่าเป็นการดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุประเภทงานบริการจ้างทำของ ตามบทนิยามแห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 4 ซึ่งถือว่าเป็นการจัดซื้อจัดจ้าง ตามกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยที่มีการหลีกเลี่ยงไม่ทำตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดไว้ แต่เลี่ยงใช้การทำบันทึกข้อตกลงแทน ซึ่งแท้จริงแล้วเจตนารมณ์ของการทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวคือ การเอื้อให้บริษัทเอกชนดังกล่าวเข้ามาจัดการบริการให้แก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง...ส่วน "อดีต ผบช.สตม." รายนี้จะเป็นใคร จะเอาผิดได้หรือไม่ ขอให้เชื่อมือ บก.ปปป. ในยุคที่มี บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช นั่งคุมเก้าอี้ ผบช.ก. วางใจได้ ถ้าผิดจริง ถ้ามีหลักฐาน "บิ๊กก้อง" ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมแน่ๆ
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ดรามายิ่งรุกหนักกองทัพเป็นระลอก หลังเพจ Royal Thai Army เผยแพร่คลิปกรมดุริยางค์ทหารบกบรรเลงเพลง "หนักแผ่นดิน" จนทำเอาหลายคนร้อนรุ่มดิ้นพล่าน ฟันธงว่าหวังกระทบชิ่งกลุ่มการเมือง หวังดิสเครดิตช่วงสุดท้ายก่อนเข้าสู่วันเลือกตั้ง โดยจัดหนักฟาดกลับในคอมเมนต์และทุกแพลตฟอร์ม ในที่สุดคลิปนั้นก็ต้องถูกลบออกไป โดยมีรายงานตามมาว่า มีคำสั่งจาก นาย ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ลบโพสต์ เพื่ิอไม่ให้เข้าใจผิด หลังจากเกิดเสียงวิจารณ์ ตีความไปต่างๆ นานา ในเรื่องจุดยืน และความเคลื่อนไหวของกองทัพในช่วงใกล้การเลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติ ที่เพจกองทัพบกจะมีการลงเพลงต่างๆ เป็นระยะๆ อยู่แล้ว ไม่มีเจตนา แอบแฝงใดๆ เพียงแค่ตอนนี้เป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง ผู้บังคับบัญชาจึงเน้นย้ำให้ระมัดระวังมากขึ้น
กองทัพภาคที่ 3 ต้องตั้งโต๊ะแถลงโดยพลัน หลังมีข่าวว่าหน่วยขนพลทหารค่ายวชิรปราการ อ.เมืองตาก ยกหน่วยไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ จ.กำแพงเพชร แทนที่จะไปใช้สิทธิ์ที่ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด จ.ตาก โดย พ.อ.สมบัติ บุญกอแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พ.อ.พงศธร นิพภยะ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 14 (ผบ.ร.14) และ พ.อ.รังสรรค์ คุ้มราษี ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 3 แจงละเอียดเป็นข้อๆ สรุปได้ว่า ไม่ได้เป็นการลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตแบบยกหน่วยในพื้นที่เดียวตามที่มีการกล่าวพาดพิง อีกทั้ง กำลังพลส่วนใหญ่เลือกลงทะเบียนไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตในหน่วยเลือกตั้งพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เนื่องจากเป็นหน่วยเลือกตั้งที่อยู่ใกล้หน่วยทหารที่สุด อีกทั้งปลอดภัยและสะดวกในการเดินทางมากกว่า เพราะเส้นทางจากแม่สอดมีการปรับปรุงเป็นช่วงๆ
พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประธานคณะกรรมการนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 32 เป็นประธานเปิดห้องผู้ป่วยพิเศษหมายเลข 91115 ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยพระโสภณธรรมวงศ์ฯ เจิมห้องพักผู้ป่วยทั้ง 2 ห้อง พร้อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์หน้าห้องและในห้อง โดยมี พล.อ.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ, คณะที่ปรึกษาผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ, คณะผู้บริหารโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และคณะนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 32 ร่วมพิธี โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงห้องหมายเลข 91105 จากโครงการน้ำพระทัยหลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กรุงเทพฯ โดยพระโสภณธรรมวงศ์ ดร.เจ้าคุณน้อย เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหาร พระอารามหลวง เจ้าคณะแขวงวัดสามพระยา และงบประมาณในการปรับปรุงห้องหมายเลข 91115 จากคณะนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 32 ในพิธีเปิดห้องผู้ป่วยพิเศษ
ช่วงงานการเมืองล้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ รมว.กลาโหม เลยมอบให้ พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ต้อนรับ พลเรือเอก Samuel J. Paparo ผบ.กองเรือสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก US Pacific Fleet ที่ห้องพระบารมีปกเกล้า ในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-สหรัฐ ที่มีมาตั้งแต่ 20 มีนาคม 2376 นอกจากนั้นยังให้การต้อนรับ พลเรือเอก Datuk Abdul Rahman bin Ayob ผบ.ทร.มาเลเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพเรือ สานต่อความร่วมมือทางทหาร รวมถึงด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ งานวิจัย และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมตอบรับเข้าร่วมงาน Defense and Security ที่ประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง
'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!
คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน
'เห็นลิ้นไก่' แก้ กม.กลาโหม
ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท