คำตอบสำหรับคำถามที่เป็นหัวข้อของบทความวันนี้ก็คือ เพราะเราอยากให้ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ตามคำขวัญของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ว่า ลุงตู่นั้นเป็นนายกรัฐมนตรีที่ “ทำแล้ว (หมายถึงได้ทำหลายอย่างเพื่อแก้ปัญหาและเพื่อการพัฒนาเสร็จแล้ว) ทำอยู่ (หมายถึงหลายอย่างที่กำลังทำอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องอยู่ต่อเพื่อสะสางงานที่ยังไม่เสร็จให้เสร็จลุล่วงไป และทำต่อ (หมายถึงการทำงานที่คั่งค้างอยู่ต่อ รวมทั้งมาทำอะไรใหม่เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง”
บางคนตั้งคำถามแบบหาเรื่องว่า “อยู่มา 8 ปีทำไมหลายเรื่องจึงไม่ทำ จะมาอยู่ต่อเพื่อทำต่อเพื่ออะไร”
คนพวกนี้ไม่เข้าใจว่าการแก้ปัญหาก็ดี การพัฒนาโครงการต่างๆ ก็ดี มันมีอยู่มากมายหลายเรื่อง เรามีทรัพยากรจำกัด ทั้งเงิน ทั้งคน ทั้งเวลา และเครื่องมือต่างๆ ดังนั้นการจะทำอะไร เราต้องมีการจัดลำดับความสำคัญและเร่งด่วน สิ่งใดที่มีความสำคัญมาก มีความเร่งด่วนมาก ก็ต้องรีบทำก่อน ส่วนอะไรที่สำคัญน้อยกว่าหรือเร่งด่วนน้อยกว่าก็ต้องทำทีหลัง การที่บางอย่างยังไม่ได้ทำนั้น ก็เพราะข้อจำกัดของทรัพยากรด้านใดด้านหนึ่ง หรือเพราะลำดับความสำคัญน้อยและความเร่งด่วนมีไม่มาก ซึ่งการประเมินว่าอะไรสำคัญอะไรเร่งด่วนนั้น ผู้คนทั้งหลายก็จะมีการประเมินที่ต่างกัน แล้วแต่ว่าใครเอามาตรการอันไหนมาประเมินเป็นการมองผลประโยชน์ของประเทศ หรือมองเรื่องผลประโยชน์ของตนเอง
บางคนก็ตั้งคำถามว่า “ทำไมต้องลุงตู่ คนในประเทศไทยที่ดีกว่า เก่งกว่าลุงตู่ไม่มีแล้วหรือ” นี่ก็เป็นคำถามที่ขาดการมองให้ครบมิติ คนเก่งกว่าและดีกว่าลุงตู่ ในประเทศไทยมีเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนคน แต่เขาไม่ได้เข้ามาให้เราเลือก ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาจากคนที่มีให้เราเลือกเวลานี้ ประกบกันทีละคู่เลยก็ได้ กำหนดประเด็นในการเปรียบให้ชัดๆ เช่น 1) ด้านนิสัยส่วนตัว 2) ภาวะผู้นำ 3) ความเฉลียวฉลาด 4) การมีวิสัยทัศน์ 5) การทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนโดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน 6) การเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต 7) ความเป็นคนจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 8) การมีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการองค์กรใหญ่ 9) การมีความสำเร็จในการทำงานที่มีให้เห็นเป็นประจักษ์ 10) การมีผลงานในการทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างชัดเจน 11) การเป็นตัวของตัวเอง ไม่อยู่ใต้อาณัติของใคร และ 12) สำคัญที่เราไว้วางใจได้ ลองเอาประเด็นดังกล่าวข้างต้นมาประเมินเปรียบเทียบดูทีละคน ระหว่างคนที่มีโอกาสจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากการนำเสนอของพรรคที่มีการคาดคะเนว่าจะได้ ส.ส.เป็นจำนวนมากที่จะทำให้พรรคมีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
จับเปรียบเทียบทีละคู่ พิจารณาด้วยใจเป็นธรรม ดูฉากทัศน์ของการเมืองเวลานี้ เริ่มต้นลอง
เปรียบเทียบลุงตู่กับอุ๊งอิ๊ง ใครน่าจะได้คะแนนมากกว่ากัน จากนั้นก็เป็นลุงตู่กับเศรษฐา ลุงตู่กับอนุทิน ลุงตู่กับจุรินทร์ ลุงตู่กับพิธา ลุงตู่กับลุงป้อม พิจารณาด้วยใจเป็นกลาง ไม่ลำเอียง ไม่มีอคติ ไม่เอาตัวเลขโพล ไม่เอากระแสใน Social Media เอาการทำงานและบุคลิกส่วนตัวมาพิจารณา ท่านก็จะเห็นว่าลุงตู่น่าจะได้คะแนนนำคนอื่นๆ ที่พรรคต่างๆ เสนอกันเข้ามา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราก็ต้องอยากให้ลุงตู่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นเพียง 2 ปีก็ตาม
การจะได้ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรี เราก็ต้องช่วยกันลงคะแนนให้รวมไทยสร้างชาติกันให้มาก บัตร 2 ใบ เราต้องกาให้รวมไทยสร้างชาติ ณ บัดนี้ FC ลุงตู่รู้ชัดแล้วว่าบัตรสีเขียวสำหรับเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น พวกเขาจะกาให้เบอร์ 22 แต่บัตรสีม่วงสำหรับเลือก ส.ส.เขตนั้นยังเป็นปัญหา
- ประการแรก บางคนคิดว่าบัตรทั้ง 2 ใบ ต้องกาเบอร์ 22 ซึ่งไม่ใช่ เพราะคนที่ลงรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขตในนามรวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เป็นเบอร์ 22 แต่จะเป็นเบอร์ที่พวกเขาจับฉลากได้ แตกต่างกันไปในแต่ละเขต
- ประการที่ 2 ประชาชนจำนวนมากไม่รู้ว่าคนที่ลงรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขตในนามรวมไทยสร้างชาติแต่ละเขตนั้นเบอร์อะไร เพราะมีป้ายหาเสียงกันน้อยมาก จึงบ่นกันจัง อย่าบ่นเลยนะคะ ง่ายๆ ค่ะ ก่อนเดินเข้าคูหามองที่ป้ายกระดานหน้าหน่วยเลือกตั้ง เขาจะมีชื่อคน ชื่อพรรคไว้อย่างชัดเจน เมื่อดูรู้ว่าคนที่ลงสมัครรวมไทยสร้างชาติเบอร์อะไร จำให้ได้แล้วก็เดินเข้าคูหากาเบอร์นั้น
- ประการที่ 3 ผู้สมัครของรวมไทยสร้างชาติส่วนใหญ่เป็นคนใหม่ที่เก่งและดี ไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ จึงมี FC ลุงตู่บางคนยังคงจะเลือก ส.ส.ที่คุ้นเคย เพราะถ้าหากพรรคที่มาร่วมรัฐบาลมี ส.ส.มากกว่ารวมไทยสร้างชาติ ลุงตู่จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามที่ FC ต้องการ
- ประการที่ 4 ยังมีผู้สมัครของพรรคอื่นบางพรรคที่เคยร่วมรัฐบาลกับลุงตู่ บอกกับประชาชนว่า “เลือกผม (ดิฉัน) ให้ได้เป็น ส.ส. แล้วผม (ดิฉัน) จะไปยกมือให้ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรี” การยกมือให้ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นบันไดขั้นที่ 2 ส่วนบันไดขั้นที่ 1 คือพรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องได้ ส.ส.มากที่สุดในกลุ่มพันธมิตรที่มาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ถ้าหากไม่ผ่านบันไดขั้นที่ 1 แล้วจะขึ้นบันไดขั้นที่ 2 ได้อย่างไร
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว FC ลุงตู่อย่าได้ลังเลในการเลือก ส.ส.เขต บัตรสีเขียวกาเบอร์ 22 บัตรสีม่วงต้องดูที่หน้าคูหาให้รู้ชัดๆ ว่าผู้สมัครรวมไทยสร้างชาติเบอร์อะไร ก็ให้กาเบอร์นั้น อย่าเสียดาย ส.ส.ในดวงใจที่คุ้นเคย จนทำให้ลุงตู่ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนะ อย่าลืมว่ามีคนเขาจ้องมองที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นะ อย่าประมาท อย่าชะล่าใจ อย่าเสียดาย ส.ส.ในดวงใจ ให้โอกาสคนใหม่ในนามรวมไทยสร้างชาตินะคะ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
ดร.เสรี ลั่นรังเกียจ วาทกรรมแซะสถาบัน
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า เกิดวาทกรรมใหม่ "ใบอนุญาตที่ 2"
เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร
ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง
'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้
ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง
ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2
ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
'ดร.เสรี' กรีดเหวอะ! ใครมีลูกสาวเก่งพอที่จะเป็นนายกฯ ต้องบอกลูกให้มีผัว 9 คนอยู่ใน 9 ภาค
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า ใครมีลูกสาวที่เก่งพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องบอกลูกนะคะ