'ฟาสต์แทรก' วางระบบโยกย้าย ทร.

เอ๊ะ! หรือในกอไผ่จะมีอะไรมากกว่าหน่อไม้ วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่มี บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ถึงไม่มีการแถลงข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของข้าราชการตำรวจ เดือน เม.ย.66 เหมือนการประชุม ก.ตร.ทุกครั้ง อย่างในเดือน มี.ค.66 บิ๊กกอล์ฟ-พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ก็ออกมาแถลงเดือน มี.ค.มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษจำนวน 24 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการจำนวน 19 นาย และปลดออกจากราชการจำนวน 5 นาย ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.66 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษรวมทั้งสิ้นจำนวน 50 นาย

เป็นการไล่ออกจากราชการจํานวน 41 นาย และปลดออกจากราชการจํานวน 9 นาย แต่การประชุมเดือน เม.ย.กลับไม่มีการแถลง ทั้งๆ ที่ นายกฯ ตู่ ก็บอกการประชุมครั้งนี้เนื้อหาหลักๆ เป็นการดูเรื่องการอุทธรณ์ การลงโทษ แต่ไม่ยักมีข้อมูลการลงโทษ ลงทัณฑ์ตำรวจที่กระทำผิดออกมา

ยิ่งในการประชุม ก.ตร. บิ๊กตู่ เน้นย้ำผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ทุกคนกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด ใครทำความผิดอะไรก็ต้องยอมรับความผิด ในหลักฐานที่เพียงพอ ต้องทำงานให้องค์กรมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล โปร่งใสสุจริต และเป็นธรรม เพื่อเป็นผลดีกับประชาชน รวมทั้งยังให้สัมภาษณ์ขอให้ประชาชน สื่อมวลชนให้กำลังใจตำรวจดีๆ ด้วย เพราะมีคนทำงานอย่างเสียสละ เหน็ดเหนื่อย และก็มีปัญหาอะไรได้เหมือนๆ ประชาชนทั่วไป รายได้ก็ไม่ดีมากนัก ก็ขอให้ช่วยให้กำลังใจกันด้วย ไม่อย่างนั้นถ้าตำรวจดีๆ ไม่มีกำลังใจแล้วใครจะทำงานให้พวกเรา เราต้องสร้างคนดีขึ้นในสังคม คนดีสิ่งดีๆ ก็ต้องชื่นชมกัน ถ้าตำหนิกันมากๆ ก็กลายเป็นว่าองค์กรเสียหายหมดแล้ว คงไม่ใช่...เลยไม่รู้ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ กรมปทุมวัน ไม่ยอมโชว์ตัวเลขข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของข้าราชการตำรวจเดือน เม.ย.หรือเปล่า

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่ ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี ต้องรีบเคลียร์ ต้องรีบทำความจริงให้ปรากฏ สังคมจะได้ไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัยตำรวจดูแล VVIP มากกว่าชาวบ้านตาดำๆ จริงหรือเปล่า กรณีตำรวจท่องเที่ยวช่วยเหลือขนกระเป๋าสัมภาระต่างๆ ให้ทนายคนดังโดยมีผู้ใหญ่ให้ดูแล เมื่อสั่งให้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวที่เกิดขึ้นโดยละเอียด ทั้งการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นที่ไหน อย่างไร เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.ทท.หรือไม่ เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งการให้บริการอำนวยความสะดวกดังกล่าวมีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร มีการสั่งการให้ดูแลอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษ หรือใช้อภิสิทธิ์ชน จนกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่ เมื่อได้ผลการตรวจสอบแล้วก็ต้องรีบนำมาเล่าแจ้ง แถลงไขให้สังคมรับรู้ รับทราบ อย่าให้เหมือนการตามหา นายพล จ. ที่ถูกกล่าวหามีเอี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ จนป่านนี้ดูเหมือนเรื่องจะเลือนหายไปตามกาลเวลาซะแล้ว

เช่นเดียวกับโรงพักกัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ที่เกิดเหตุชาวบ้านในพื้นที่กว่า 100 คน รวมตัวชูป้ายประท้วงบริเวณลานหน้า สภ.กัลยาณิวัฒนา เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ย้าย รอง ผกก.สอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 4 นายออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทั้ง 5 นาย โดยชาวบ้านอ้างว่าตำรวจดังกล่าว มีพฤติกรรมไม่ให้เกียรติประชาชน เวลาที่ชาวบ้านไปติดต่อราชการมักจะใช้วาจาที่ไม่สุภาพ แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายครั้ง ไม่ให้เกียรติศาสนสถาน สูบบุหรี่ในโบสถ์คริสต์ขณะประชุมชาวบ้านโดยไม่สนใจ ทั้งที่หมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านปลอดอบายมุข มีป้ายบอกชัดเจน เมื่อชาวบ้านว่ากล่าวตักเตือนกลับพูดจาตะคอกใส่ชาวบ้าน โดย พ.ต.อ.ธนัญชัย ศิริวรรณา ผกก.สภ.กัลยาณิวัฒนา รับหนังสือดังกล่าวไปแล้ว พร้อมบอกชาวบ้านจะแจ้งผลการดำเนินการภายใน 7 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.) พ.ต.อ.ธนัญชัยก็ต้องรักษาคำพูด เพราะหากตำรวจกับคนในพื้นที่ไม่เข้าใจกันเสียแล้ว การทำงานต่างๆ ก็จะยากลำบาก คงไม่ต้องถึงมือ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้การเชียงใหม่ ต้องลงมาดูเองกระมัง

หลังเป็นประธานในพิธีรับ เรือหลวงช้าง ไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา วันรุ่งขึ้น พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ แถลงผลการปฏิบัติงานตามนโยบายเร่งด่วนของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2566 วงรอบ 6 เดือน ที่หอประชุมกองทัพเรือ ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ จะมีบางนโยบายที่ต้องปรับแต่งกระบวนการทำงานให้เป็นไปตามที่ให้คำแนะนำไว้  จึงขอให้กำลังพลของกองทัพเรือทุกนาย ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกัน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กองทัพเรือ ที่น่าสนใจคือ นโยบายด้านที่ 3 การเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในระบบการบริหาร และการใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพเรือ มีผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ อาทิ การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพเรือให้เป็นไปตามแผน การส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสตามมาตรฐานการประเมิน และการแก้ไขปัญหาความแออัดของกำลังพลในบางชั้นยศ โดยเฉพาะการกำหนด แนวทางคัดเลือกผู้บริหารของกองทัพเรือในอนาคต

ว่ากันเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายปลายปีของกองทัพเรือนับว่าผ่านหัวเลี้ยวหัวต่อมาแล้ว การเลือกผู้บริหารที่จะมาสานต่อภารกิจ “รีเซต” กองทัพเรือให้เดินหน้าอย่างมั่นคงจึงเป็นโจทย์ที่ พล.ร.อ.เชิงชาย คงต้องคิดอย่างรอบคอบก่อนเกษียณอายุราชการ ที่สำคัญคือการเล็งบุคคที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาที่ คาราคาซัง ใน ทร.ให้ลุล่วง นอกจากนั้น ยังมีองค์ประกอบเรื่อง ความอาวุโส ความรู้ ความสามารถ ผลงาน และการวางตัว ของแคนดิเดตทั้ง 3 คน ได้แก่ พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผช.ผบ.ทร., พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสธ. ทร. และ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.กร. ที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน สำหรับแนวคิดของ “ผบ.จ๊อด” ผู้นี้ มีการนำหลักการเรื่อง “การเตรียมความพร้อม” มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ ระบบฟาสต์แทรก ในการขึ้นเป็นผู้นำ สำหรับผู้ที่มีความเพียบพร้อมจะก้าวเข้าไปเป็นผู้บริหารระดับชั้นยศนายพล ต้องติดยศพลตรีที่อายุ 53 ปี ทำให้มีระยะเวลาในการขยับขึ้นชั้นยศ พลเรือโท และพลเรือเอกในช่วงระยะเวลา 7 ปี พร้อมย้ำว่า "การดูคนที่เหมาะสม ต้องใช้เวลา ต้องดูกันนานๆ คนเราจะมาเปลี่ยนปีสองปีไม่ได้”  

นำทีมทำภารกิจอพยพผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ความขัดแย้ง ในการพาคนไทย 230 คนจากซูดานกลับประเทศ หลังจากเคยนำทีมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาสาธารณภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตุรกี-ซีเรียมาแล้ว สำหรับ รองโอ๋-น.อ.อนุรักษ์ รมณารักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ ซึ่งครั้งนี้มารับหน้าที่ผู้อำนวยการปฏิบัติการอีกครั้ง โดยมีเครื่องบินแอร์บัส 340 จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องบิน C-130 อีก 2 เครื่อง ทีมแพทย์ทหาร ชุดปฏิบัติการพิเศษ ฯลฯ ซึ่งซาอุดีอาระเบียได้อำนวยความสะดวกในการจัดพื้นที่ศูนย์ประสานงานบริเวณสนามบินที่เมืองเจดดาห์ให้อย่างดี ทั้งนี้ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. เน้นย้ำแผนการปฏิบัติในการพาคนไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย และให้ทุกคนปฏิบัติภารกิจอย่างราบรื่น ซึ่งคาดว่าคนไทยชุดสุดท้าย 5 คนจะโดยสาร C-130 กลับถึงประเทศไทยในวันที่ 1 พ.ค.นี้ 

ข่าวฝาก.. เมื่อวันเสาร์ที่ 29 เม.ย. เวลา 11.30 น. สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ได้แถลงข่าว การพิจารณารางวัลเชิดชูเกียรติ ต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้แก่ข้าราชการตำรวจที่มีผลงานดีเด่น รางวัลผู้สื่อข่าวภาคสนามดีเด่น รางวัลผู้ประกาศข่าวดีเด่น ณ ห้องปฏิบัติการสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ถนนพญาไท โดยจะมีพิธีมอบรางวัลกันต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร

นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง

'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!

คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน

'เห็นลิ้นไก่' แก้ กม.กลาโหม

ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง

ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568

ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ

'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด

'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย