ร้อนๆ ยังงี้!!!...คงต้องยอมรับว่าออกจะเป็นอะไรที่ น่าเห็นใจ บรรดา นักการเมือง-นักเลือกตั้ง เขาอยู่พอสมควรเหมือนกัน คือต้องออกตะลอนๆ ไปเยี่ยมเยียน หาเสียง ไปพูดจาปราศรัย กับใครต่อใครขณะที่อุณหภูมิความร้อนปาเข้าไปถึงระดับ 30-40 องศา หรือถ้าว่ากันตามอารมณ์-ความรู้สึก (feel like) อาจเตลิดเปิดเปิงเลยไปถึง 50-60 องศาไปแล้วก็ว่าได้ แถมพูดไป-พูดมา หาไป-หามา ยังหนีไม่พ้นต้องหันไปควานหา คำตอบ ในเรื่องค่าน้ำ-ค่าไฟ ที่มันออกจะแพง-แสน-แพง จนบรรดาชาวบ้าน-ชาวช่องออกมาสัมโมทนียกถา ดุด่า-ว่ากล่าว แช่งชักหักกระดูกใครต่อใคร ด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจของตัวเองซะอีกต่างหาก หรือกลายเป็น ประเด็น แห่งการเอาแพ้-เอาชนะทางการเมืองระหว่างกันและกันไปจนได้
หลังประเด็นเรื่องการแจกเงิน-แจกทอง แบบว่ากันเป็นหมื่นๆ หรือแบบครึ่ง-ครึ่ง เพิ่งซาๆ ลงไปได้ไม่นาน โดยสีสัน บรรยากาศเลยต้องเรียกว่า...ร้อนทั้งอากาศ ร้อนทั้งกาย-ร้อนทั้งใจ ชนิดน่าเห็นอก-เห็นใจ เอามากๆ
แต่นั่นแหละ...ไม่ว่าใครแพ้-ใครชนะ ใครแลนด์สไลด์-ไม่แลนด์สไลด์ แลนด์ไถล-ไม่แลนด์ไถล ฯลฯ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหนีไม่พ้นไปจาก มันเป็นเช่นนั้นเอง-มันเป็นพรรค์นั้นแหละ เป็น ตถาตา เป็นไปตามหลักธรรมชาติ ตามกฎเกณฑ์แห่งความเป็นไป อันว่าด้วย เพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป หรือกฎอิทัปปัจจยตา-ปฏิจจสมุปบาท อย่างมิอาจผันแปรไปเป็นอื่นอยู่แล้วแน่ๆ ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลใหม่-รัฐบาลหน้า ใครจะอยู่ต่อ-ไม่อยู่ต่อ อะไรต่อมิอะไรที่เคยเป็น ปัญหา หรือยังคงเป็น ปัญหา อีกต่อไป ก็คงต้องค่อยๆ สาง ค่อยๆ แก้ กันไปตามมี-ตามเกิด ตามเงื่อนไขและเหตุปัจจัย ที่อาจไม่ได้เกี่ยวข้อง-พัวพันอยู่กับ ชัยชนะ-ความพ่ายแพ้ ของฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใดเอาเลยแม้แต่น้อย
ยิ่ง โลก ทุกวันนี้...มันได้ผลิต ปัญหาใหม่ๆ ให้ต้องตามไปแก้ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แถมออกจะเป็นอะไรที่คอขาด-บาดตายยิ่งเข้าไปทุกที ชนิดที่แค่ ประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตย อาจไม่ได้ถือเป็น คำตอบ แบบเบ็ดเสร็จ-สมบูรณ์อีกต่อไปแล้ว เผลอๆ อาจต้องหันไปเพิ่มน้ำหนักแห่งความเป็น เผด็จการ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ เพราะแม้แต่ประชาธิปไตยตามมาตรฐานตะวันตก หรือประชาธิปไตยแม่แบบทั้งหลาย ยังหนีไม่พ้นต้องหันไป The Great Reset หันไปนำเสนอกรรมวิธีในการบริหาร-จัดการ ด้วยการควบคุม-บังคับอะไรต่อมิอะไร เพื่อไม่ให้เกิดการเตลิดเปิดเปิง อันจะนำไปสู่ ความเสื่อม ของระบบทั้งระบบ หรือทั้งระบอบเอาง่ายๆ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวคราวในช่วงการประชุม The World Economic Forum เมื่อไม่นานที่ผ่านมานั่นเอง
ส่วนมันจะเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร หรือไม่? อย่างไร? อันนั้น...ต้องยกให้เป็นภาระหน้าที่ของบรรดาผู้รู้-ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเขาไปว่ากันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...การปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดย เสรี เป็นไปตามความปรารถนาและต้องการของใคร-ของมัน โดยไม่คิดจะบันยะบันยังเอาเลยแม้แต่น้อย นับวันมันออกจะหนักไปทาง ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย มากกว่าที่จะพัฒนาและเติบโต ไม่ว่าทางร่างกาย-จิตใจได้อย่างเท่าที่ควรจะเป็น ไม่ว่าในแง่เศรษฐกิจ-การเมือง-หรือสังคมก็แล้วแต่ ด้วยเหตุเพราะความปรารถนา-ต้องการของแต่ละคน-แต่ละราย ล้วนแต่ย่อมต้องมี กิเลส เป็นองค์ประกอบพื้นฐานไปด้วยกันทั้งสิ้น
การปล่อยให้ กิเลส ของผู้คนนับเป็นพันๆ ล้าน หรือ 7,000-8,000 ล้าน ที่เป็นประชากรโลกอยู่ในทุกวันนี้ เป็นไปโดยเสรีโดยไม่คิดจะสร้างกรอบ สร้างที่คุมขัง เอาไว้บ้างเลย โอกาสที่มันจะนำไปสู่ความ ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย จึงย่อมเป็นไปได้อยู่แล้วแน่ๆ เฉพาะแค่การแย่งกันกิน-แย่งกันอยู่เพียงอย่างเดียว ก็...ตายแล้ว!!! ยิ่งผู้ที่มีอำนาจ มีโอกาส ในการแย่งชิงเหนือไปกว่าผู้อื่น ยิ่งกลับมี เสรี ยิ่งๆ ขึ้นไป ขณะที่บรรดาผู้คนไม่รู้กี่ต่อกี่พันล้านกลับต้อง เสรี เตมียเวส อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ การควบคุมและบังคับบรรดา ทุน ทั้งหลาย ให้ยังพอหลงเหลือ จิตวิญญาณ ยังพอเป็น ทุนนิยมที่มีจิตวิญญาณ อะไรประมาณนั้น สุดท้ายแล้ว ก็เลยแทบไม่ต่างอะไรไปจากพวก อำนาจนิยม หรือพวก ทุนนิยมเผด็จการ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ ประชาธิปไตย อยู่ในทุกวันนี้
อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้การหา คำตอบ สำหรับบรรดานักการเมือง-นักเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในบ้านเรา มันอาจไม่ใช่แค่เรื่อง ค่าน้ำ-ค่าไฟ แต่เพียงเท่านั้น แต่มันอาจลุกลามไปถึงระบบทั้งระบบ ระบอบทั้งระบอบเอาเลยก็ไม่แน่ เพราะไม่ว่าใครชนะ-ใครแพ้ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ยังไงๆ...มันน่าจะยังก่อให้เกิด คำถาม หรือก่อให้เกิด ปัญหา ที่ยังต้องตามไปแก้ ตามไปสาง กันอีกต่อไป ไม่งั้น...โอกาสที่ ผู้ชนะ จะกลายสภาพเป็น ผู้แพ้ ในอีกไม่กี่อึดใจ หรืออาจส่งผลให้ ผู้แพ้ กลายเป็น ผู้ชนะ ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ อันเนื่องมาจาก ด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้จึงเป็นไป ตามกฎเหล็กแห่งธรรมชาติ ตามกฎเกณฑ์ความเป็นไปของโลกย์ อย่างมิอาจผันแปรไปเป็นอื่น นั่นแล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร
ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง
'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้
ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง
ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2
ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
ช่างกล้า...ช่างมั่น รับประกันด้วยตำแหน่ง
ในขณะที่ประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดิน มีความเป็นห่วงเป็นใยว่าการเจรจาแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดตามที่มีการลงนามความเข้าใจร่วม (MOU) 44
จาก...'ต้มยำกุ้ง' ถึง 'ต้มยำกบ'
ด้วยเหตุเพราะ ความคิดถึง อย่างสุดซึ้งถึงเพื่อนเก่า เพื่อนแก่ อย่าง เพื่อนแป๊ะ (โดย แป๊ะ รายที่ว่านี้ออกไปทาง เทพบุตร หรือคนละคนกับ แป๊ะ ปิศาจ) ที่ห่างหายไม่ได้เจอะหน้า เจอะตา
ทิศทางใหม่ 'สีกากี'
การจัดทัพปรับทิศ "กรมปทุมวัน" ในยุค ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ กุมบังเหียน "แม่ทัพใหญ่สีกากี" น่าสนใจ น่าติดตาม