ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคจะหาเสียงอย่างเต็มพิกัด ทั้งร่วมรายการดีเบต ตระเวนหาเสียง หรือลงพื้นที่ปราศรัยพบปะประชาชน อย่างเช่น "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่เรียกว่าคิวแน่นลงพื้นที่ทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เกือบทุกวัน
นอกจากไปเปิดตัวผู้สมัครของพรรค ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนมีความเข้มแข็งและผูกพันกับพื้นที่แล้ว ยังนำเสนอนโยบายต่างๆ และผลงานของพรรคที่ทำสำเร็จมาแล้ว ตามสโลแกนพรรค “พูดแล้วทำ”
เริ่มตั้งแต่ผลงานตลอด 4 ปี เช่น นโยบายฟอกไตฟรี, มะเร็งรักษาทุกที่, การให้กัญชาเป็นยา, การปลดเงื่อนไขเรื่องผู้ค้ำประกันออกจากการขอกู้ยืม กยศ., การลดดอกเบี้ย กยศ. เหล่านี้ล้วนช่วยชีวิตประชาชนได้มาก
ส่วนนโยบายหาเสียง อาทิ ผลักดันเพิ่มค่าตอบแทน อสม., นโยบายฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม., นโยบายเกษตรร่ำรวย Contract Farming รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน,
นโยบายกองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป โดยผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับสิทธิเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที ให้สิทธิกู้เงินดูแลตัวเองในวงเงิน 20,000 บาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แต่จะใช้กรมธรรม์ประกันชีวิตที่รัฐบาลจัดทำให้ค้ำประกันตัวเอง และในวันที่จากไป ผู้สูงวัยจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาท และครอบครัว รายละ 100,000 บาท เป็นต้น
ในแง่การเมืองถือเป็นพรรคที่มีเอกภาพ ไม่หาเรื่องใคร ไม่สร้างศัตรู ไม่มีขั้ว ไม่มีสี ไม่มีฝ่าย สามารถร่วมมือกับทุกพรรคกระทั่งเป็นตัวเลือกเหนือความขัดแย้ง
ทุกนโยบายมิใช่เพียงพูดมาเพียงลมปาก "หัวหน้าภูมิใจไทย" เคยพูดว่า "ชื่อของผม (อนุทิน) แปลว่า สมุดบันทึก
นโยบายต่างๆ ที่เอามานำเสนอล้วนอยู่ในมันสมองหมดแล้ว ผมบันทึกไว้อย่างครบถ้วน และจะทำทุกอย่างให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม"
เมื่อท่านพูดแล้วทำ พวกเรา (ประชาชน) ก็พร้อมจะจำเช่นกัน.
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"พาดหัวกันจนจะถูกย้าย"
ต้องยอมรับความจริง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถือเป็นรัฐราชการ ที่ประชาชนยุคนี้ฝากความหวังเอาไว้ถ่วงดุล อำนาจรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นต่างๆ ที่สังคมกังขา มิให้ทำอะไรเลยเถิดหรือสุดซอย จนประโยชน์สูงสุดไม่ได้อยู่ที่ประชาชน
กระทบไหล่แชมป์โลก
หนึ่งปีมาหน โอกาสทองของคนไทยคอรักบี้จะได้กระทบไหล่แชมป์โลก!!!
'ผมกำลังลื่น'
วันจันทร์ที่ผ่านมา ในการประชุมวุฒิสภามีวาระร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง โดยช่วงหนึ่งของการประชุมจะเห็นได้ว่ามี สว.เอาอวนดักปลาขึ้นมาประกอบการอภิปราย พร้อมปลากะตักแห้งที่เอามาเป็นตัวอย่างประกอบ
แจกสิทธิ์ 10 คนแรก
ต้องฝ่ากระแสร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปี 2567 สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งกระแสพรรคแตก สส.ทยอยย้ายซบพรรคอื่น กระแสข่าวหัวหน้าพรรคถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย